ฟุตบอลทีมชาติตุรกี (ตุรกี: Türkiye Millî Futbol Takımı) เป็นทีมฟุตบอลตัวแทนของประเทศตุรกี อยู่ภายใต้การดูแลของสหพันธ์ฟุตบอลตุรกี โดยเป็นสมาชิกของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติตั้งแต่ ค.ศ. 1923 และสมาชิกสหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรปตั้งแต่ ค.ศ. 1962 หัวหน้าผู้ฝึกสอนคนปัจจุบันคือ วินเชนโซ มอนเตลลา มีสนามเหย้าอยู่ที่สนามกีฬาโอลิมปิกอาทาทืร์ค ตุรกีเคยมีอันดับโลกฟีฟ่าสูงที่สุดที่อันดับ 5 ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2004
ตุรกีลงแข่งขันในเกมนานาชาติครั้งแรกใน ค.ศ. 1923 และลงแข่งขันทางการครั้งแรกในโอลิมปิกฤดูร้อน 1924 โดยรวมแล้วพวกเขาเข้าร่วมกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 6 ครั้ง (ค.ศ. 1924, 1928, 1936, 1948, 1952 และ 1960) ผลงานที่ดีที่สุดคือการเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศสองครั้งในปี 1948 และ 1952 ตุรกีประสบความสำเร็จสูงสุดในช่วงทศวรรษ 2000 มีผลงานคืออันดับสามในฟุตบอลโลก 2002 และ ฟีฟ่าคอนเฟเดอเรชันส์คัพ 2003 และเข้าถึงรอบรองชนะเลิศฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2008
ตุรกีเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายสองครั้งในฟุตบอลโลก 1954 และ 2002 ทั้งนี้ ไม่นับรวมฟุตบอลโลก 1950 ซึ่งทีมได้ถอนตัวออกจากการแข่งขัน ตุรกีเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 6 ครั้ง โดยครั้งแรกคือฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1996 ตามด้วยการเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2000 ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ตุรกียังมีส่วนร่วมในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016, 2020 และ 2024 โดยเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศในครั้งหลังสุด ตุรกีมีกำหนดเป็นเจ้าภาพฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2032 ร่วมกับอิตาลี ส่งผลให้พวกเขาจะได้สิทธิ์ลงแข่งขันโดยอัตโนมัติ
การแข่งขันนัดแรกของตุรกีได้รับการบันทึกเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ค.ศ. 1923 ณ สนามกีฬาทักซิมในอิสตันบูลซึ่งพวกเขาเสมอทีมชาติโรมาเนียด้วยผลประตู 2–2 เซกี ริซา สโปเรล ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้เล่นชื่อดังคนแรก ๆ ของทีมชาติในฐานะเป็นผู้ทำสองประตูในการแข่งขันนัดนี้ ตุรกีลงแข่งขันทางการครั้งแรกในโอลิมปิกฤดูร้อน 1924 และจบลงด้วยความปราชัยต่อเชโกสโลวาเกีย 5–2 สองประตูที่เกิดขึ้นในการแข่งขันนี้เป็นผลงานของเบกีร์ รีเฟต เตเกร์ และแม้ว่าพวกเขาจะผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 1950 เป็นครั้งแรกจากผลงานเอาชนะซีเรีย 7–0 แต่ทีมต้องถอนตัวสืบเนื่องจากปัญหาทางการเงิน ตุรกีกลับมาลงแข่งขันฟุตบอลโลก 1954 จากการชนะสเปนในรอบเพลย์ออฟ แม้จะแพ้ในนัดแรก 4–1 แต่ในนัดต่อมาพวกเขาเอาชนะคืนได้ 1–0 ทำให้ต้องแข่งขันอีกครั้งในนัดรีเพลย์ (ในช่วงเวลาดังกล่าวยังไม่มีการตัดสินด้วยผลประตูรวมสองนัด ซึ่งจะทำให้สเปนผ่านเข้ารอบ) การแข่งขันนัดรีเพลย์จบลงด้วยการเสมอกัน 2–2 และตุรกีได้สิทธิ์แข่งขันรอบสุดท้ายจากการชนะการโยนเหรียญเสี่ยงทาย อย่างไรก็ตาม ตุรกีตกรอบแบ่งกลุ่มแม้จะมีคะแนนเท่ากับเยอรมนีตะวันตก แต่พวกเขาแพ้ต่อเยอรมนีในนัดเพลย์ออฟตัดสินหาผู้เข้ารอบด้วยผลประตู 7–2
ตุรกีทำผลงานได้ดีที่สุดครั้งหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ ด้วยการเอาชนะทีมดังอย่างฮังการีซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นทีมที่แกร่งที่สุดทีมหนึ่งของยุโรปในเกมกระชับมิตร ค.ศ. 1956 เอาชนะไปด้วยผลประตู 3–1 เลฟเทอร์ คูชูคันดอนยาดิส ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในผู้เล่นกองหน้าที่ดีที่สุดตลอดกาลของทีมทำสองประตูในนัดนี้
แม้จะมีการเปิดตัวฟุตบอลลีกในประเทศ และมีหลายสโมสรในประเทศเป็นตัวแทนลงแข่งขันในฟุตบอลยุโรป แต่ทศวรรษ 1960 ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ไม่น่าจดจำเท่าไรนักของทีมชาติตุรกี ผู้เล่นตัวหลักหลายรายจากฟุตบอลโลก 1954 ได้เกษียณตนเองจากการเล่นฟุตบอล และผู้เล่นหน้าใหม่ที่เข้ามาแทนยังไม่สามารถยกระดับทีมได้ ด้วยเหตุนี้ ตุรกีจึงไม่สามารถผ่านเข้าไปเล่นรายการสำคัญได้ แม้จะมีผลงานดีขึ้นในทศวรรษ 1970 ด้วยการมีส่วนร่วมในการแข่งขันฟุตบอลโลก และฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปรอบคัดเลือก ทว่าก็ไม่เพียงพอผ่านเข้าสู่ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1972 และ ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1976
ในช่วงเวลานี้ ทีมต้องพบความพ่ายแพ้ที่ขาดลอยที่สุดโดยแพ้โปแลนด์ 8–0 และแพ้ต่ออังกฤษด้วยผลการแข่งขันเดียวกันนี้อีกสองครั้งในช่วงทศวรรษ 1980 พวกเขายกระดับผลงานได้อีกครั้งจนเกือบจะผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลก 1990 โดยพลาดไปในนัดสุดท้าย ตุรกีมีผู้เล่นคนสำคัญเป็นแกนหลักหลายรายในยุคนี้ อาทิ ริดวาน ดิลเมน, โอกุซ เจติน, ริซา คาลิมไบ, เฟย์ยาซ อูซาร์ รวมทั้งเจ้าของรางวัลรองเท้าทองคำยุโรปอย่างตันจู โชลัค ผู้โด่งดังจากหลายสโมสรในประเทศรวมถึงสโมสรฟุตบอลซัมซุนสปอร์, กาลาทาซาไรสปอร์คูลือบือ, เฟแนร์บาห์แชสปอร์คูลือบือ และ สโมสรฟุตบอลอิสตันบูลสปอร์
ใน ค.ศ. 1990 ตุรกีแต่งตั้งเซปป์ พิออนเทค เป็นผู้ฝึกสอน และเป็นช่วงเวลาที่มีผู้เล่นหน้าใหม่หลายรายได้รับโอกาสขึ้นสู่ทีมชาติชุดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นบิวเลนต์ คอร์คมาซ, อัลปาย โอซาลัน, เซร์เกน ยาลชิน, รึชทือ เรชแบร์ และ ฮาคัน ชือคืร์ ทั้งหมดล้วนกลายมาเป็นกำลังสำคัญของทีมต่อเนื่องอีกหลายปี ฟาทีห์ เทริม ได้รับการแต่งตั้งเข้ามาคุมทีมในปี 1993 และพาทีมเข้ารอบสุดท้ายในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1996 ก่อนจะตกรอบแบ่งกลุ่มด้วยการแพ้สามนัดรวดต่อโครเอเชีย (1–0), โปรตุเกส (1–0) และ เดนมาร์ก (3–0) แต่ยังถือเป็นการผ่านเข้ารอบสุดท้ายในรายการระดับเมเจอร์ครั้งแรกนับตั้งแต่ฟุตบอลโลก 1954 และแม่จะตกรอบแต่ตุรกียังได้รับรางวัลแฟร์เพลย์ประจำการแข่งขัน
แม้ตุรกีจะไม่ผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลก 1998 แต่พวกเขาผ่านเข้าสู่ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2000 จากการชนะนัดเพลย์ออฟต่อสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ในรอบสุดท้าย ตุรกีเริ่มต้นด้วยการแพ้อิตาลี 2–1 ตามด้วยการเสมอสวีเดน 0–0 และเอาชนะเจ้าภาพอย่างเบลเยียมในนัดสุดท้าย 2–0 จากสองประตูของกองหน้าตัวหลักอย่างฮาคัน ชือคืร์ และจากการตกรอบของเบลเยีม ทำให้เป็นครั้งแรกที่เจ้าภาพฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปตกรอบแรกในการแข่งขัน ตุรกีผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีม และยุติเส้นทางโดยแพ้โปรตุเกส 2–0 โดยกองหน้าอย่างอารีฟ เออร์เดม ยิงจุดโทษพลาดในนัดนี้
ในฟุตบอลโลก 2002 รอบคัดเลือก ตุรกีจบอันดับ 2 ในกลุ่ม โดยแพ้สวีเดนในนัดสุดท้ายเพื่อตัดสินหาทีมแชมป์กลุ่ม ส่งผลให้ตุรกีต้องแข่งเพลย์ออฟกับออสเตรีย ตุรกีเอาชนะไปขาดลอยด้วยผลประตูรวมสองนัด 6–0 ในรอบสุดท้าย ตุรกีแพ้แชมป์โลกในครั้งนี้อย่างบราซิลในนัดแรก 2–1 แม้จะได้ประตูนำไปก่อนจากฮาซาน ชาช ในนัดต่อมาพวกเขาเสมอคอสตาริกา 1–1 และเกือบจะไม่ผ่านเข้ารอบต่อไป แต่ชัยชนะต่อจีน 3–0 กอปรกับความพ่ายแพ้ของคอสตาริกาต่อบราซิล ทำให้ตุรกีเข้ารอบในฐานะอันดับสอง
ในรอบต่อมา พวกเขาเอาชนะเจ้าภาพร่วมอย่างญี่ปุ่น 1–0 จากประตูของอูมิต ดาวาลา และชนะเซเนกัลในช่วงต่อเวลาพิเศษ (กฏประตูทอง) 1–0 จากอิลฮาน มานซิซ แต่พวกเขาแพ้บราซิลในรอบรองชนะเลิศ 1–0 อย่างไรก็ตาม ตุรกีสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการคว้าอันดับสามได้เป็นครั้งแรก จากการชนะเจ้าภาพร่วมอย่างเกาหลีใต้ในนัดชิงอันดับสาม 3–2 จากประตูของชือคืร์ และ มานซิซ นอกจากนี้ประตูแรกของเกมโดยซือคืร์ซึ่งใช้เวลาเพียง 10.8 วินาที กลายเป็นสถิติประตูที่เกิดขึ้นเร็วที่สุดตลอดกาลในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เมื่อเดินทางกลับถึงประเทศ แฟนบอลหลายพันคนออกมาเฉลิมฉลองด้วยการโบกธงชาติตุรกีในเมืองอิสตันบูล ผู้เล่นตัวหลักอย่างรึชทือ เรชแบร์, ฮาซาน ซาช และอัลปาย โอซาลัน ยังมีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมประจำการแข่งขัน และเรชแบร์ได้รับการโหวตให้เป็นผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมประจำทีมแห่งปีของยูฟ่า 2002 และเซนอล กูเนส ได้รับเลือกเป็นผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยม
ในการแข่งขันฟีฟ่าคอนเฟเดอเรชันส์คัพ 2003 ตุรกีผ่านรอบแบ่งกลุ่มจากการมี 4 คะแนน แม้จะแพ้แชมป์ในครั้งนั้นอย่างฝรั่งเศสในรอบรองชนะเลิศ 3–2 แต่ยังคว้าอันดับสามจากการชนะโคลอมเบีย 2–1 ทุนคาย ชานลี ทำผลงานโดดเด่นในรายการนี้ โดยเป็นผู้ทำประตูสูงสุดอันดับสองของการแข่งขัน พวกเขาไม่ประสบความสำเร็จในการผ่านเข้าสู่ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2004 โดยแพ้ลัตเวียในรอบเพลย์ออฟ แต่ในปี 2004 นี้ ตุรกีมีอันดับโลกสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ที่อันดับ 5 จากการจัดอันดับในเดือนมิถุนายนปี 2004 ต่อมา ตุรกีไม่ผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลก 2006 จากการแพ้สวิตเซอร์แลนด์ ต่อมาในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2008 รอบคัดเลือก ตุรกีผ่านเข้ารอบสุดท้ายในฐานะทีมอันดับสองตามหลังกรีซ พวกเขาอยู่ในกลุ่ม A มีผลงานคือแพ้โปรตุเกสในนัดแรก 2–0 ตามด้วยชนะสวิตเซอร์แลนด์ 2–1 และชนะเช็กเกีย 3–2 ผู้เล่นอย่างอาร์ดา ทูรัน ทำสองประตูในรอบแบ่งกลุ่ม
การแข่งขันในรอบต่อมากับโครเอเชียเต็มไปด้วยความเข้มข้น โครเอเชียได้ประตูออกนำจนถึงช่วงท้ายของการแข่งขันต่อเวลา แต่ประตูตีเสมอในนาทีสุดท้ายจากเซมิห์ เซนเติร์ก ทำให้ต้องตัดสินกันที่การยิงจุดโทษ ประตูตีเสมอดังกล่าวนำไปสู่การโต้แย้งโดยแฟนบอลโครเอเชียรวมทั้งผู้ฝึกสอนอย่างสลาเว็น บีลิช ที่มองว่าประตูนี้เกิดขึ้นหลังจากผ่านพ้นช่วงต่อเวลาไปแล้ว ท้ายที่สุดตุรกีชนะการดวลจุดโทษ 3–1 ตุรกีผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศไปพบเยอรมนี โดยที่พวกเขามีผู้เล่นพร้อมลงสนามเพียง 14 คนเนื่องจากการบาดเจ็บและติดโทษห้ามแข่ง แม้พวกเขาจะสู้อย่างสมศักดิ์ศรีและยันผลเสมอ 2–2 จนถึงช่วงท้าย แต่ประตูของฟิลลิพ ลาห์ม ในนาทีสุดท้ายทำให้ตุรกีต้องยุติเส้นทางเพียงเท่านี้
ตุรกีตกรอบฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก พวกเขาทำผลงานชนะ 4, เสมอ และแพ้อย่างละ 3 นัดแม้จะไม่แพ้ทีมใดเลยใน 4 นัดแรก และผู้ฝึกสอนอย่างฟาทีห์ เทริม ประกาศลาออก และตกรอบฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 รอบคัดเลือกจากการแพ้โครเอเชีย 3–0 ต่อมาในวันที่ 14 พฤศจิกายน ค.ศ. 2012 ตุรกีฉลองการลงแข่งขันครบ 500 นัดในเกมกระชับมิตรกับเดนมาร์ก ณ สนามกีฬาทืร์คเทเลคอม จบลงด้วยผลเสมอ 1–1 โดยก่อนเริ่มการแข่งขัน อดีตผู้เล่นและผู้ฝึกสอนคนสำคัญได้รับเกียรติให้ปรากฏตัวในสนาม ต่อมาในฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก ตุรกีตกรอบจากการจบอันดับ 4 แม้จะมีการปลดผู้ฝึกสอนอย่างอับดุลลาห์ อัฟเจอ และตั้งเทริมเข้ามารับตำแหน่งเป็นครั้งที่สาม แต่การปราชัยต่อเนเธอร์แลนด์ 2–0 ทำให้ต้องยุติเส้นทางเท่านี้ ตุรกีจบอันดับสามในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 รอบคัดเลือก จากผลงานชนะ 5 นัด, เสมอ 3 และ แพ้ 2 นัด มี 18 คะแนน นับเป็นการเข้าร่วมการแข่งขันรายการะดับเมเจอร์ในรอบ 8 ปี ตุรกีหยุดสถิติไม่แพ้ทีมใดเป็นเวลากว่าหนึ่งปีเศษ ภายหลังจากแพ้อังกฤษในเกมกระชับมิตร
ในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 ที่ฝรั่งเศส ตุรกีได้ผ่านเข้าไปแข่งขันด้วยโดยผ่านเข้ามาในรอบคัดเลือกรอบสุดท้าย เพราะในการแข่งขันครั้งนี้สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป เพิ่มทีมเข้ารอบสุดท้ายจาก 16 ทีม เป็น 24 ทีมโดยในรอบสุดท้ายตุรกีอยู่ในกลุ่มดี ร่วมกับ โครเอเชีย, สเปน และสาธารณรัฐเช็ก
โดยผลการแข่งขัน ปรากฏว่าตุรกีได้อันดับ 3 จากการแพ้ 2 และชนะ 1 ซึ่งตามกติกาใหม่ที่ใช้ในคราวนี้ ให้กำหนดให้ทีมที่ได้อันดับ 3 ทั้งหมดจาก 6 กลุ่มทั้งหมด ที่มีผลต่างของประตูได้เสียดีที่สุด 4 ทีมผ่านเข้าไปสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งเป็นรอบของการแพ้คัดออกได้ ปรากฏว่าผลต่างของตุรกีสู้ทีมอื่นไม่ได้จึงต้องตกรอบ
ต่อมาใน ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนยุโรป ตุรกีตกรอบจากการมี 15 คะแนน มีร์เชีย ลูเชสคู เข้ามาทำหน้าที่ผู้ฝึกสอนต่อ ทีมต้องยุติเส้นทางจากการแพ้ไอซ์แลนด์ และเสมอฟินแลนด์ ต่อมาในการแข่งขันยูฟ่าเนชันส์ลีก ฤดูกาล 2018–19 ลีกบี ตุรกีมีผลงานย่ำแย่โดยชนะ 1 นัด และแพ้ 3 นัด เริ่มต้นด้วยการแพ้รัสเซีย ตามด้วยการชนะสวีเดน 3–2 และแพ้ในสองนัดสุดท้ายต่อรัสเซียและสวีเดน อย่างไรก็ตาม ตุรกียังไม่ต้องตกชั้นสู่ลีกซีในครั้งต่อไปเนื่องการการเปลี่ยนแปลงกติกาโดยยูฟ่า
ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 รอบคัดเลือก กลุ่มเอช ตุรกีผ่านเข้ารอบสุดท้ายตามหลังแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 อย่างฝรั่งเศส พวกเขาทำผลงานยอดเยี่ยมโดยเอาชนะไปถึง 7 นักจากการลงแข่งขัน 10 นัด รวมทั้งเอาชนะได้สามนัดแรก และยังบุกไปเสมอฝรั่งเศสได้ถึงสตาดเดอฟร็องส์ 1–1 ตุรกีเปิดโอกาสให้ผู้เล่นดาวรุ่งหลายคนเข้าผนึกกำลังกับผู้เล่นมากประสบการณ์อย่างบูรัค ยิลมาซ และ เอ็มเร เบโลโซกลู พวกเขาแพ้นัดเดียวต่อไอซ์แลนด์ 2–1 ในการบุกไปเยือนที่เรคยาวิกท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเย็น ความพ่ายแพ้ดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากผู้เล่นตุรกีได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมเมื่อเดินทางถึงสนามบินซึ่งพวกเขาถูกกักตัวเป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมง นอกจากนี้ กลุ่มผู้สนับสนุนทีมชาติไอซแลนด์ยังแสดงกิริยาไม่เหมาะสมด้วยการยืนถือแปรงขัดห้องน้ำแทนไมโครโฟนยื่นให้กัปตันทีมชาติตุรกีอย่างเอ็มเรในระหว่างการให้สัมภาษณ์ การกระทำดังกล่าวนำไปสู่เสียงวิจารณ์ในวงกว้างจากสื่อในตุรกีและทวีปยุโรป พวกเขาไม่สามารถเอาคืนทีมชาติไอซ์แลนด์ได้ โดยเสมอกัน 0–0 ณ สนามกีฬาทืร์คเทเลคอม
ต่อมาใน ยูฟ่าเนชันส์ลีก ฤดูกาล 2020–21 ลีกบี ตุรกีเอาชนะได้เพียง 1 จาก 6 นัด จบอันดับสุดท้าย พวกเขาเปิดบ้านแพ้ต่อฮังการี 1–0 จากประตูของโดมินิก โซโบสลอยี ตามด้วยการบุกเสมอเซอร์เบีย 0–0 ที่เบลเกรด และเสมอรัสเซีย 1–1 และกลับมาเปิดบ้านเสมอเซอร์เบีย 2–2 จากประตูของฮาคัน ชัลฮาโนลู แม้พวกเขาจะเอาชนะรัสเซีย 3–2 แต่ความพ่ายแพ้ในนัดสุดท้ายต่อฮังการีทำให้พวกเขาจบอันดับสุดท้าย
ต่อมาในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 ตุรกีตกรอบแรกโดยไม่ชนะทีมใดและยังแพ้รวดทั้งสามนัด โดยแพ้ในนัดแรกต่ออิตาลี 3–0 ตามด้วยการแพ้เวลส์ 2–0 ปิดท้ายด้วยการแพ้ต่อสวิตเซอร์แลนด์ 3–1 ตุรกีทำผลงานดีขึ้นในฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป จากการชนะ 6 นัดใน 10 นัดผ่านเข้าสู่รอบคัดเลือก โซนยุโรป – รอบที่ 2 แต่ยุติเส้นทางด้วยการแพ้โปรตุเกส 3–1 โดยบูรัค ยิลมาซ พลาดจุดโทษในเกมนี้ และเขาประกาศเลิกเล่นอาชีพหลังจบการแข่งขัน ต่อมาในยูฟ่าเนชันส์ลีก ฤดูกาล 2022–23 ลีกซี ตุรกีเอาชนะได้ถึง 4 จาก 6 นัดจบอันดับ 1 ของกลุ่ม ทำให้ตุรกีเลื่อนชั้นสู่ลีกบี พวกเขายังมีช่วงเวลาที่ดีในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2024 ผ่านเข้ารอบแพ้คัดออกในฐานะอันดับสองของกลุ่มตามหลังโปรตุเกส พวกเขาเอาชนะจอร์เจียในนัดแรก 3–1 จากผลงานโดดเด่นของอาร์ดา กือแลร์ แม้จะแพ้โปรตุเกสในนัดต่อมา 3–0 แต่ชัยชนะต่อเช็กเกีย 2–1 เพียงพอเข้ารอบ ตุรกีเอาชนะออสเตรียในรอบ 16 ทีม 2–1 และยุติเส้นทางโดยแพ้เนเธอร์แลนด์ 2–1 ต่อมาในยูฟ่าเนชันส์ลีก ฤดูกาล 2024–25 ลีกบี ตุรกีชนะคู่แข่งได้ 3 นัดจาก 6 นัด จบอันดับสองจากการมี 11 คะแนน ได้สิทธิ์แข่งขันรอบเพลย์ออฟกับฮังการีในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2025
ปัจจุบัน ตุรกีได้ใช้ชุดแข่งขันของไนกี้มาตั้งแต่ ค.ศ. 2003 โดยก่อนหน้านั้น พวกเขาใช้ชุดของอดิดาส
รายชื่อผู้เล่นสำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2024 ที่ประเทศเยอรมนี ประกาศรายชื่อผู้เล่นเบื้องต้น 35 คน ในวันที่ 24 พฤษภาคม ต่อมาในวันที่ 29 พฤษภาคม ผู้เล่นในรายชื่อลดเหลือ 33 คน หลังจากที่แบร์ทู ยึลดือรึม ถูกเรียกตัวติดทีมชาติรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี และชาลาร์ เซอยึนจือ ถอนตัวเนื่องจากอาการบาดเจ็บ ในวันที่ 1 มิถุนายน เอเนส อือนัล ถอนตัวเนื่องจากอาการบาดเจ็บเช่นกัน ในวันที่ 5 มิถุนายน โอซัน คาบัค ก็ถอนตัวออกจากรายชื่อเบื้องต้นเนื่องจากอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า และในวันที่ 7 มิถุนายน ได้มีการประกาศรายชื่อผู้เล่นรอบสุดท้าย 26 คน โดยไม่มีอับดึลคาดีร์ เออมือร์, แจงค์ เอิซคาจาร์, เบรัท เอิซเดมีร์, โออุซ อัยดึน, จัน อูซุน และโดอัน อาแลมดาร์ อยู่ในรายชื่อ และแบร์ทู ยึลดือรึม ถูกเรียกตัวกลับมาอีกครั้ง