พระราชวังโทพคาปึ (ตุรกี: Topkap? Saray?, อังกฤษ: Topkap? Palace) เป็นพระราชวังที่ตั้งอยู่ที่เมืองอิสตันบูลในประเทศตุรกีที่เดิมเป็นที่ประทับหลักของสุลต่านแห่งจักรวรรดิออตโตมันเป็นเวลราว 400 ในช่วง 600 ปีที่มีอำนาจ ระหว่างปี ค.ศ. 1465 จนถึงปี ค.ศ. 1853
ในปัจจุบันพระราชวังโทพคาปึเป็นสถานที่จัดงานรับรองของรัฐ และเป็นสถานที่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว และเป็นที่เก็บรักษาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของมุสลิมเช่นเสื้อคลุมและดาบของมุฮัมมัด และตั้งอยู่ในบริเวณประวัติศาสตร์ของอิสตันบูลที่ได้รับการสถาปนาให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การ การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติในปี ค.ศ. 1985 พระราชวังโทพคาปิได้รับการบรรยายในข้อที่ iv ของการเป็นมรดกโลกว่า “ตัวอย่างที่ดีที่สุดของกลุ่มพระราชวัง [...] ของสมัยออตโตมัน”
การสร้างครั้งแรกเริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1459 ตามพระราชโองการของสุลต่านเมห์เหม็ดที่ 2 หลังจากที่ทรงพิชิตกรุงคอนสแตนติโนเปิลจากจักรวรรดิไบแซนไทน์ได้ ตัวพระราชวังเป็นกลุ่มสิ่งก่อสร้างที่มีลานหลักสี่ลานและสิ่งก่อสร้างย่อยๆ อีกหลายตึก ในจุดที่สูงที่สุดพระราชวังเป็นที่พำนักของผู้คนถึง 4,000 คน เดิมครอบคลุมบริเวณขนาดใหญ่ตามแนวฝั่งทะเล กลุ่มสิ่งก่อสร้างขยายตัวต่อมาเรื่อยๆ รวมทั้งการบูรณปฏิสังขรณ์หลายครั้งเช่นเมื่อปี ค.ศ. 1509 เมื่อได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว และในปี ค.ศ. 1665 หลังจากเกิดเพลิงไหม้ ภายในพระราชวังใช้เป็นสุเหร่า โรงพยาบาล โรงอบขนมปัง และโรงตีเงินกษาปณ์ The name directly translates as "Cannon gate Palace", from the palace being named after a nearby, now destroyed, gate.
พระราชวังโทพคาปึเริ่มมาหมดความสำคัญลงในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 17 เมื่อสุลต่านนิยมที่จะเสด็จไปประทับที่พระราชวังใหม่บนฝั่งบอสฟอรัสมากขึ้น ในปี ค.ศ. 1853 สุลต่านอับดุล เมซิดที่ 1 (Abd?l Mecid I) ตัดสินพระทัยย้ายออกไปประทับที่ Dolmabah?e Palace ซึ่งเป็นพระราชวังแบบยุโรปที่สร้างขึ้นใหม่ในเมือง แต่ระบบบริหารต่างๆ เช่นกองพระคลัง หอสมุด สุเหร่า และ โรงกษาปณ์ยังคงอยู่ที่พระราชวังโทพคาปิ
หลังจากการล่มสลายของจักรวรรดิออตโตมันในปี ค.ศ. 1921 พระราชวังโทพคาปิก็เปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์ตามรัฐประกาศของวันที่ 3 เมษายน ค.ศ. 1924 ภายใต้การบริหารของกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวแห่งตุรกี
พระราชวังเป็นกลุ่มสิ่งก่อสร้างที่มีห้องหอเป็นจำนวนร้อยแต่เปิดให้สาธารณรัฐชนชมแต่เฉพาะเพียงห้องสำคัญๆ ที่เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงลักษณะสถาปัตยกรรมออตโตมัน นอกจากนั้นก็ยังมีห้องแสดงเครื่องเคลือบพอร์ซีเลน เสื้อคลุม อาวุธ เสื้อเกราะ หนังสือวิจิตรออตโตมัน หนังสืออักษรวิจิตรอิสลาม (Islamic calligraphy) จิตรกรรมฝาผนัง และเครื่องราชสมบัติ และเพชรพลอย