รัฐบาลไทยได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในระยะเวลา 35 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ประเทศไทยได้ใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม (พ.ศ. 2535-2539) การปกป้องสิ่งแวดล้อมได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของการจัดลำดับความสำคัญต้น ๆ ของรัฐบาลไทย แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่เจ็ดพยายามที่จะบรรลุผลอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี, งานวิศวกรรม, อิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมพื้นฐาน
การเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยที่น่าทึ่ง ได้นำมาซึ่งความท้าทายด้านเศรษฐกิจที่ดินอยู่ช่วงหนึ่ง โดยประเทศไทยในปัจจุบันได้เผชิญกับปัญหาด้านมลพิษทางอากาศและน้ำ, การลดลงของประชากรสัตว์ป่า, การทำลายป่า, การกัดกร่อน, การขาดแคลนน้ำ และปัญหาของเสียอันตราย ตามข้อมูลบ่งชี้ในปี ค.ศ. 2004 ค่าใช้จ่ายด้านมลพิษทางอากาศและน้ำของประเทศมีขนาดเพิ่มขึ้นไปจนถึงที่ประมาณ 1.6-2.6% ของจีดีพีต่อปี ด้วยเหตุนี้ การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้คนและสภาพแวดล้อมเป็นอย่างมาก
การเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมได้ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศซึ่งอยู่ในระดับสูงสำหรับประเทศไทย ยานพาหนะและโรงงานได้ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตกรุงเทพมหานคร
อ่านบทความฉบับสมบูรณ์ได้ที่ http://th.wikipedia.org/wiki/ปัญหาสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย