แม่น้ำโขงนับเป็นแม่น้ำสายที่ยาวที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีจุดกำเนิดจากที่ราบสูงทิเบต และมีจุดกำเนิดร่วมกับอีก 2 แม่น้ำ คือ แม่น้ำแยงซี และ แม่น้ำสาละวิน ไหลผ่านถึง 7 ประเทศ จนกระทั่งไหลไปออกทะเลจีนใต้ที่ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงที่เวียดนาม มีลำน้ำสาขาต่าง ๆ มากมาย รวมถึงพื้นที่ชุ่มน้ำอีกจำนวนมาก เช่น แม่น้ำมูล, แม่น้ำชี, แม่น้ำสงคราม, หนองหาน, ทะเลสาบเขมร
แม่น้ำโขงนับเป็นแม่น้ำสายที่ยาวเป็นอันดับที่ 10 ของโลก และเป็นแม่น้ำที่มีความหลากหลายของชนิดปลามากเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากแม่น้ำแอมะซอนในทวีปอเมริกาใต้ และแม่น้ำคองโกในทวีปแอฟริกา
หลังจากมีการสร้างและเปิดใช้เขื่อนปากมูลขึ้นในปี พ.ศ. 2537 พบว่ามีชนิดปลาที่พบในแม่น้ำมูล ซึ่งเป็นลุ่มน้ำสาขาของแม่น้ำโขงลดลงมาก เนื่องจากเป็นผลกระทบของการสร้างเขื่อน ซึ่งในเรื่องนี้ชาวบ้านพื้นถิ่นได้คัดค้านและประท้วงมาโดยตลอด
จนกระทั่งมีมติคณะรัฐมนตรีเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2544 ได้เปิดประตูเขื่อนปากมูลขึ้นทั้ง 8 บาน เป็นระยะเวลา 1 ปี ทางคณะนักวิจัยไทบ้าน ได้ลงพื้นที่ศึกษาและสำรวจชนิดปลาที่พบในแม่น้ำมูลเป็นระยะเวลา 1 ปี ตั้งแต่เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2544 ถึงเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2545 พบว่ามีชนิดปลาเพิ่มมากขึ้น โดยพบว่าเป็นปลาที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำมูลและสาขาของแม่น้ำโขงในบริเวณใกล้เคียงกัน 265 ชนิด ซึ่งเป็นปลาที่อพยพจากแม่น้ำโขง 134 ชนิด โดยเป็นปลาจากต่างถิ่น (ชนิดพันธุ์ต่างถิ่น) 7 ชนิด และหลายชนิดเป็นปลาอพยพที่ต้องเดินทางไกลเป็นพันกิโลเมตรจากดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง ในเวียดนาม ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิด อาทิ ปลาไหลหูขาว, ปลากะพงขาว เพื่อเจริญเติบโต
จากการศึกษาพบว่าการอพยพของปลาในลุ่มน้ำแห่งนี้ เกิดขึ้นตลอดทั้งปี การเริ่มอพยพมาอาศัย เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนกันยายน และเริ่มอพยพย้ายกลับ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงเดือนธันวาคม จากเดิมที่เคยเชื่อว่าปลาจะอพยพย้ายถิ่นเพียงแค่ 4 เดือนเท่านั้น คือ เดือนมิถุนายนถึงเดือนธันวาคม