ประธานาธิบดีสาธารณรัฐฝรั่งเศส (ฝรั่งเศส: Pr?sident de la R?publique fran?aise) เป็นตำแหน่งสูงสุดฝ่ายอำนาจบริหารของประเทศฝรั่งเศสโดยมาจากการเลือกตั้ง และดำรงตำแหน่งเป็นทั้งประมุขแห่งรัฐ จอมทัพ ผู้รับรองรัฐธรรมนูญและผู้ปกครองร่วมอันดอร์รา
ตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2391 (สมัยสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 2) ซึ่งทำให้ระบอบประธานาธิบดีของประเทศฝรั่งเศสนั้น เป็นระบอบที่มีความเป็นมายาวนานที่สุดประเทศหนึ่งในทวีปยุโรป จวบจนปัจจุบัน มีผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวทั้งสิ้น 23 คน ซึ่งทุกคนได้พำนักในปาแลเดอเลลีเซมาแล้ว
รัฐธรรมนูญในแต่สาธารณรัฐนั้น ได้กำหนดอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบของประธานาธิบดีแตกต่างกันไป ตั้งแต่ พ.ศ. 2502 เป็นต้นมา ประเทศฝรั่งเศสอยู่ในยุคสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 5 ในระบอบกึ่งประธานาธิบดี โดยประธานาธิบดีฝรั่งเศสคนปัจจุบันคือ ฟร็องซัว ออล็องด์ ซึ่งเข้าดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
สาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 5 นั้นเป็นการปกครองด้วยระบอบกึ่งประธานาธิบดี ประธานาธิบดีเองก็มีอำนาจมากพอสมควรซึ่งไม่เหมือนกับประเทศอื่นๆ ในทวีปยุโรป แม้ว่าโดยส่วนมากการควบคุมดูแลและบัญญัติกฎหมายเป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีและรัฐสภา แต่ประธานาธิบดีก็มีอิทธิพลด้วย
อำนาจสูงสุดของประธานาธิบดีนั้นคือการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี แต่อย่างไรก็ตามรัฐสภาฝรั่งเศสก็มีอำนาจที่จะปลดคณะรัฐมนตรีได้ ทำให้ประธานาธิบดีเหมือนกับถูกบังคับให้เลือกนายกรัฐมนตรีที่รัฐสภาให้การสนับสนุน
เมื่อไหร่ที่เสียงส่วนมากในรัฐสภามีความเห็นทางการเมืองตรงข้ามกับประธานาธิบดี ซึ่งจะทำให้เกิดการบริหารร่วมกัน เมื่อนั้นอำนาจประธานาธิบดีจะลดน้อยลง เนื่องจากอำนาจส่วนมากจะไปขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีและรัฐสภาแทน และอาจจะไม่สนับสนุนการแต่งตั้งของประธานาธิบดีอีกด้วย
เมื่อไหร่ที่เสียงส่วนมากในรัฐสภาสนับสนุนประธานาธิบดี ประธานาธิบดีก็จะมีบทบาทมากขึ้นและมีอิทธิพลต่อนโยบายการบริหารของรัฐบาล บทบาทของนายกรัฐมนตรีจึงลดลงและอาจถูกปลดออกจากตำแหน่งหรือเปลี่ยนคณะผู้บริหารถ้าไม่เป็นที่นิยม
ตั้งแต่พ.ศ. 2545 เป็นต้นมา ประธานาธิบดีและรัฐสภามีวาระ 5 ปีและการเลือกตั้งทั้ง 2 ครั้งจะใกล้กัน ทำให้ความเป็นไปได้ของการบริหารร่วมกันนั้นมีความน้อยลง
การตัดสินใจของประธานาธิบดีนั้น จะต้องมีการลงนามร่วมโดยนายกรัฐมนตรี ยกเว้นกรณีการยุบสภาผู้แทนราษฎร
ในประเทศฝรั่งเศสนั้นมีประเพณีที่เรียกว่า การนิรโทษกรรมของประธานาธิบดี หลังจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาที่มาจากพรรคเดียวกันนั้น รัฐสภาจะมีการลงคะแนนเสียงในการประกาศกฎหมายนิรโทษกรรมให้แก่นักโทษที่กระทำผิดเล็กๆ น้อยๆ การกระทำนี้เป็นที่วิพากย์วิจารณ์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเป็นที่เชื่อกันว่าเป็นการส่งเสริมให้มีการทำผิดกฎหมายก่อนหน้าการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม การออกกฎหมายนิรโทษกรรมนี้ อาจจะเป็นการให้อำนาจประธานาธิบดีในการนิรโทษกรรมนักโทษบางคนถ้าตรงตามเงื่อนไข บางคนก็พูดกันว่า การนิรโทษกรรมนี้เป็นการลดประชากรนักโทษในคุกอีกด้วย
ตั้งแต่การลงประชามติในปี พ.ศ. 2543 ประธานาธิบดีฝรั่งเศสจะได้รับการเลือกตั้งโดยตรงโดยมีวาระ 5 ปี (ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีฝรั่งเศสมีวาระ 7 ปี ภายหลังมาลดลงเหลือ 5 ปี ซึ่งเริ่มวาระ 5 ปี ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2545 สมัยประธานาธิบดีฌัก ชีรัก) ฌัก ชีรักได้รับการเลือกตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2538 และ พ.ศ. 2545 ซึ่งไม่มีข้อกำหนด ทำให้ชีรักสามารถเป็นประธานาธิบดีต่อไปได้ แต่เขาเลือกที่จะไม่ดำรงตำแหน่งต่อไป ประธานาธิบดีคนถัดมาคือ นีกอลา ซาร์กอซี ซึ่งดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2550
ผู้สมัครแต่ละคนต้องยื่นรายชื่อผู้สนับสนุนอย่างน้อย 500 คน ให้สภารัฐธรรมนูญตรวจสอบคุณสมบัติ ก่อนจะประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดี และเปิดการรณรงค์หาเสียงอย่างเป็นทางการ ผู้สนับสนุนนั้น ส่วนมากจะเป็นนายกเทศมนตรี ซึ่งจะต้องมาจาก 30 จังหวัด (d?partement) เป็นอย่างน้อยหรือประชาชนอาศัยในต่างประเทศ และร้อยละ 10 จะต้องไม่มาจากอำเภอหรือประชาชนกลุ่มเดียวกัน และผู้สนับสนุนที่ว่านั้น สามารถเสนอได้ชื่อผู้สมัครได้เพียงคนเดียวต่อหนึ่งคน
ในประเทศฝรั่งเศสนั้นมีข้าราชการที่ได้รับการเลือกตั้งแล้วกว่า 45,000 คน ประกอบด้วยนายกเทศมนตรีประมาณ 36,000 คน
เมื่อประธานาธิบดีเสียชีวิตลงหรือลาออกจากตำแหน่ง ประธานสมาชิกวุฒิสภาจะทำหน้าที่เป็นประธานาธิบดีชั่วคราว อาแล็ง ปอแอร์เป็นคนเดียวที่ได้รับตำแหน่งชั่วคราวนี้ ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2512 เมื่อชาร์ล เดอ โกล ลาออกจากตำแหน่ง และครั้งที่ 2 เมื่อปี พ.ศ. 2517 เมื่อฌอร์ฌ ปงปีดูเสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน ในสถานการณ์อย่างนี้เป็นที่สำคัญว่า ประธานสมาชิกวุฒิสภาทำหน้าที่เป็นประธานาธิบดีชั่วคราว มิใช่ประธานาธิบดีคนใหม่ จึงทำให้ไม่ต้องออกจากตำแหน่งประธานสมาชิกวุฒิสภา อย่างไรก็ตามประเทศฝรั่งเศสก็ได้ยกอาแล็ง ปอแอร์ เป็นอดีตประธานาธิบดีคนหนึ่งและยังได้ถูกจัดไว้ในทำเนียบประธานาธิบดีในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีฝรั่งเศสอีกด้วย
การเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรกนั้นจะต้องจัดให้เรียบร้อยภายใน 20-35 วัน หลังตำแหน่งประธานาธิบดีว่างลง เพราะว่า 15 วันนั้น สามารถแยกการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบที่ 1 และ 2 ได้ นั่นหมายความว่าประธานสมาชิกวุฒิสภาจะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีชั่วคราวได้มากที่สุดเพียง 15 วันเท่านั้น ในระหว่างที่ทำหน้าที่ประธานาธิบดีชั่วคราวนั้น จะไม่สามารถยุบสภา ชี้แนะการลงประชามติ หรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญได้
ถ้าไม่มีประธานวุฒิสภารักษาราชการแทน อำนาจของประธานาธิบดีนั้นจะตกอยู่กับคณะรัฐมนตรี ซึ่งก็จะตกอยู่กับนายกรัฐมนตรีนั่นเอง แต่ถ้านายกรัฐมนตรีไม่สามารถรักษาราชการแทนได้แล้วไซร้ รัฐมนตรีจะทำการแทนโดยยึดตามลำดับรายชื่อในคณะรัฐมนตรี อย่างไรก็ตามที่กล่าวมาจะมีสิทธิเป็นไปได้ยากเพราะถ้าไม่มีประธานสมาชิกวุฒิสภา สมาชิกวุฒิสภาจะเสนอชื่อประธานสมาชิกวุฒิสภาคนใหม่เพื่อดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีชั่วคราวแทน
สถานที่อาศัยอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีฝรั่งเศสนั้นคือ Palais de l'?lys?e ในกรุงปารีส ส่วนสถานที่อาศัยของประธานาธิบดีที่อื่น ๆ ได้แก่:
ตามกฎหมายของประเทศฝรั่งเศส อดีตประธานาธิบดีจะได้รับเงินบำนาญตลอดชีพในฐานะเท่ากับที่ปรึกษากิตติมศักดิ์แห่งรัฐ (French: conseiller d'?tat) และได้รับหนังสือเดินทางทูต และตามรัฐธรรมนูญมาตราที่ 56 อดีตประธานาธิบดีจะดำรงตำแหน่งสมาชิกแห่งสภาร่างรัฐธรรมนูญด้วย