ปฏิทินจูเลียน (อังกฤษ: Julian calendar; คำว่า จูเลียน แปลว่า แห่งจูเลียส) เป็นปฏิทินที่สร้างขึ้นโดยกงสุลจูเลียส ซีซาร์ แห่งโรมัน โดยปฏิรูปจากปฏิทินโรมัน เมื่อ 46 ปีก่อนคริสต์ศักราช มีผลบังคับใช้ในปีถัดไปคือ 45 ปีก่อนคริสต์ศักราช
รอบปีหนึ่งของปฏิทินจูเลียนมี 12 เดือน มีจำนวนวันรวม 365 วัน นอกจากนี้เดือนกุมภาพันธ์จะเพิ่มอธิกวารทุก ๆ สี่ปี ดังนั้นรอบปีโดยเฉลี่ยต่อสี่ปีของปฏิทินจูเลียนเท่ากับ 365.25 วัน
แรกเริ่มนั้นวันวสันตวิษุวัตตรงกับวันที่ 1 Martius (มีนาคม) จึงถือว่าเป็นวันขึ้นปีใหม่ ต่อมาในปี 153 ก่อน ค.ศ. ได้มีการเปลี่ยนแปลงให้เดือน Ianuarius (มกราคม) เป็นเดือนแรก
รอบปีธรรมดาของปฏิทินโรมันที่ใช้กันมาก่อนนี้ ประกอบด้วยเดือน 12 เดือน ซึ่งมีจำนวนวันรวมเป็น 355 วัน นอกจากนี้บางปีก็มีเดือน Mercedonius ซึ่งมี 27 วันเข้ามาแทรกระหว่างเดือนกุมภาพันธ์กับเดือนมีนาคม เดือนที่แทรกเข้ามานี้เกิดจากการแทรกจำนวนวัน 22 วันหลังจากวันที่ 23 หรือ 24 ของเดือนกุมภาพันธ์ ส่วนอีก 5 วันสุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์ (ซึ่งนับถอยหลังสู่เดือนมีนาคม) ก็กลายเป็น 5 วันของเดือนที่แทรกนี้ ผลสุทธิของการแทรกเดือนนี้ทำให้มี 22 หรือ 23 วันเพิ่มขึ้นในปีนั้น และส่งผลรวมให้ปีนั้นมี 377 หรือ 378 วัน
ผลงานของนักเขียนรุ่นหลัง Censorinus กับ Macrobius กล่าวว่า วัฏจักรของการแทรกเดือนในอุดมคติ ควรประกอบด้วยรอบปีธรรมดา 355 วัน สลับกับรอบปีแทรกเดือน 377 หรือ 378 วันที่สลับกันอีกด้วย ดังนั้นรอบปีโดยเฉลี่ยต่อสี่ปีของปฏิทินโรมันในระบบนี้จะเป็น 366? วัน ทำให้เกิดการเบี่ยงเบนโดยเฉลี่ยหนึ่งวันต่อปีเมื่อเทียบกับอายันหรือวิษุวัตใด ๆ Macrobius ยังอธิบายการปรับวันเพิ่มเติมด้วยว่า ระยะ 8 ปีสุดท้ายในรอบ 24 ปี ควรมีรอบปีแทรกเดือนเพียงสามครั้ง แต่ละครั้งมี 377 วัน หลังจากการปรับวันแล้วจะทำให้รอบปีโดยเฉลี่ยต่อยี่สิบสี่ปีเท่ากับ 365? วัน การแทรกเดือนในทางปฏิบัติไม่เป็นไปตามทฤษฎีในอุดมคติดังที่กล่าวมา แต่ถูกพิจารณาโดยปุโรหิตสูงสุด (Pontifex Maximus) จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า การพิจารณาแทรกเดือนของปุโรหิตสูงสุดมิได้ใกล้เคียงทฤษฎีในอุดมคติเลย พวกเขามักจะแทรกเดือนทุกสองหรือสามปี แต่บางครั้งก็ไม่แทรกเดือนเลยเป็นเวลานาน และในบางโอกาสก็แทรกเดือนในสองปีติดกันด้วย
ถ้ามีการจัดการอย่างถูกต้อง ระบบนี้จะทำให้รอบปีโดยเฉลี่ยของโรมันตรงกับปีที่นับตามสุริยคติอย่างหยาบ ๆ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปุโรหิตสูงสุดมักจะเป็นนักการเมือง และเนื่องจากระยะเวลาดำรงตำแหน่งนักปกครองของโรมันอ้างอิงตามปีปฏิทิน อำนาจเช่นนี้มีแนวโน้มว่าจะถูกใช้ในทางที่ผิด กล่าวคือ ปุโรหิตสูงสุดสามารถขยายรอบปีให้ยาวขึ้น เพื่อให้เขาและพันธมิตรสามารถดำรงตำแหน่งนานขึ้น หรือสามารถปฏิเสธการขยายรอบปีเพื่อกำจัดปรปักษ์มิให้อยู่ในตำแหน่ง
หากการแทรกเดือนถูกละเลยมากครั้งเกินไป ดังเช่นที่ปรากฏหลังจากสงครามพิวนิกครั้งที่สองและระหว่างสงครามกลางเมืองในโรมัน ปฏิทินจะเบี่ยงเบนออกจากปีที่นับตามสุริยคติอย่างรวดเร็ว ยิ่งไปกว่านี้ การแทรกเดือนมักจะถูกพิจารณาค่อนข้างล่าช้า ทำให้ประชาชนชาวโรมันโดยทั่วไปไม่ทราบวันที่ โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ห่างไกลจากตัวเมือง ด้วยสาเหตุดังกล่าวทำให้หลายปีก่อนเกิดปฏิทินจูเลียนถูกเรียกว่า "ปีแห่งความสับสน" (years of confusion) ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้รุนแรงยิ่งขึ้นในช่วงที่จูเลียส ซีซาร์ครองโรมก่อนมีการปฏิรูป เมื่อ 63–46 ปีก่อนคริสต์ศักราช มีการแทรกเดือนเพียงห้าครั้งและไม่มีอีกเลยในห้าปีสุดท้าย แทนที่ควรจะมีแปดครั้ง
เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างถาวร จูเลียส ซีซาร์ จึงบัญชาให้มีการปฏิรูปปฏิทิน โดยสร้างปฏิทินขึ้นจากวิถีโคจรของดวงอาทิตย์โดยปราศจากการแทรกแซงจากมนุษย์ คุณลักษณะดังกล่าวก็ได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นประโยชน์ในเวลาไม่นานหลังจากปฏิทินใหม่เริ่มมีผลบังคับใช้ ต่อมา 37 ปีก่อนคริสต์ศักราช Varro ใช้ปฏิทินนี้เพื่อกำหนดวันที่เริ่มต้นของฤดูกาลทั้งสี่ ซึ่งไม่สามารถกระทำได้เลยเฉพาะเมื่อ 8 ปีก่อน หลังจากหนึ่งศตวรรษผ่านไป Pliny ระบุว่าเหมายันตรงกับวันที่ 25 ธันวาคม เพราะว่าดวงอาทิตย์อยู่ในตำแหน่งองศาที่แปดของราศีมกรในวันนั้น (ในวิทยาศาสตร์ปัจจุบัน เหมายันไม่ใช่วันดังกล่าว)
ต่อมาในปี 8 ก่อน ค.ศ. จักรพรรดิออกุสตุส ซีซาร์ ได้เปลี่ยนเดือน Sextilis เป็นชื่อของตนบ้าง คือ August และให้เปลี่ยนจำนวนวันเป็น 31 วันด้วย เพราะกลัวว่าจะน้อยหน้าซีซาร์ จึงจำเป็นต้องตัดวันหนึ่งวันจากเดือน Februarius (February) และเปลี่ยนแปลงเดือนถัดจาก Augustus ให้มี 30 วัน สลับกับ 31 วัน ตามทฤษฎีของ โจฮันเนส เดอ ซาโครบอสโค (Johannes de Sacrobosco)
ปฏิทินจูเลียนใช้ในยุโรปเป็นเวลายาวนานตั้งแต่สมัยอาณาจักรโรมันจนถึงปี 1582 เมื่อสันตปาปาเกรกอร์ ได้ปฏิรูปปฏิทินใหม่และประกาศออกมาใช้ เรียกกันว่า ปฏิทินเกรกอเรียน ซึ่งเริ่มแรกประเทศแคทอลิกเท่านั้นที่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงนี้ ประเทศอังกฤษเริ่มต้นใช้ในปี 1752 โดยประกาศให้หลังวันที่ 2 กันยายน เป็น 14 กันยายน ในขณะที่ประเทศกรีกเพิ่งจะมาเริ่มใช้ในปี 1923