บารนาบัส (กรีก: ????????) เป็นคริสต์ศาสนิกชนผู้มีบทบาทสำคัญในการประกาศข่าวดีมาตั้งแต่ยุคแรก ได้รับยกย่องว่าเป็น "อัครทูต" แม้จะไม่ได้รับแต่งตั้งจากพระเยซูโดยตรง (ก่อนถูกตรึงกางเขน) ชาวมุสลิมและคริสต์ศาสนิกชนบางคน เช่น เคลเมนต์แห่งอะเล็กซานเดีย เชื่อว่าท่านเป็นผู้นิพนธ์พระวรสารนักบุญบารนาบัส และทอร์ทิวเลียนกล่าวว่าท่านเขียนจดหมายถึงชาวฮีบรูด้วย
เรื่องราวของบารนาบัสปรากฏอยู่หลายครั้งในพันธสัญญาใหม่ ทำให้ทราบว่าเดิมเขาชื่อโยเซฟ เป็นชาวยิวจากเผ่าเลวี เกิดที่เกาะไซปรัส มีศรัทธาในพระเยซูอย่างมากถึงขนาดขายที่ดินของตน แล้วนำเงินทั้งหมดไปมอบให้บรรดาอัครทูต พวกอัครทูตจึงตั้งสมญาเขาว่าบารนาบัส ซึ่งแปลว่าบุตรแห่งการให้กำลังใจ ในปี ค.ศ. 48 บารนาบัสทราบถึงการกลับใจของเปาโล และเห็นว่าคริสตชนยังหวาดกลัวเขาอยู่ จึงพาเปาโลไปพบอัครทูต เล่ายืนยันว่าเปาโลรับเชื่อแล้วและได้มีส่วนร่วมในการประกาศข่าวดีอย่างไร จนเปาโลเป็นที่ยอมรับของคริสตจักร ท่านยังได้รับมอบหมายจากคริสตจักรในกรุงเยรูซาเลมให้ไปเมืองแอนติออก เพื่อส่งเสริมความเชื่อของชาวกรีกที่เพิ่งกลับใจ ความดีของเขาเขาเปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธฺ์และความเชื่อทำให้มีผู้มารับเชื่อจำนวนมาก
ทั้งบารนาบัสและเปาโลได้เดินทางไปประกาศศาสนาร่วมกันเสมอในช่วงแรก เช่น ในปี ค.ศ. 49 ทั้งสองได้นำจดหมายของอัครทูตไปฝากคริสตชนชาวกรีกในเมืองแอนติออก แต่หลังจากนั้นทั้งสองก็ขัดแย้งกันอย่างรุนแรงเพราะบารนาบัสจะพายอห์น มาระโก ลูกพี่ลูกน้องของตน ติดตามไปด้วย แต่เปาโลไม่ยอมเพราะเห็นว่ามาระโกเป็นคนโลเล พึ่งพาอาศัยไม่ได้ ที่สุดทั้งสองก็แยกทางกัน บารนาบัสพามาระโกลงเรือไปประกาศศาสนาที่เกาะไซปรัส
จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวโครินธ์ ฉบับที่ 1 ซึ่งเขียนขึ้นราว ค.ศ. 53-57 ได้กล่าวถึงบารนาบัสว่ายังคงทำงานหาเลี้ยงตนเอง ต่อมาในช่วงปี ค.ศ. 61-63 ที่เปาโลติดคุกอยู่ที่กรุงโรม มาระโกได้อยู่ติดตามเปาโลด้วย จึงสันนิษฐานว่าบารนาบัสอาจไม่มีชีวิตแล้วในขณะนั้น
นอกจากนี้ยังมีความเชื่อสืบ ๆ กันมาในบางคริสตจักรว่าบารนาบัสเป็นผู้ก่อตั้งคริสตจักรที่เมืองมิลาน เคยไปประกาศศาสนาที่เมืองอะเล็กซานเดรียและกรุงโรม และได้พลีชีพเป็นมรณสักขีที่เกาะไซปรัส แต่เรื่องเหล่านี้ถูกแต่งขึ้นในสมัยหลัง จึงไม่น่าเชื่อถือ