นครรัฐอิสระลือเบค หรือ นครอิสระและนครฮันเซียติคแห่งลือเบค (เยอรมัน: Freie und Hansestadt L?beck, อังกฤษ: Free City of L?beck หรือ Free and Hanseatic City of L?beck) เป็นนครรัฐที่รุ่งเรืองระหว่างปี ค.ศ. 1226 ถึงปี ค.ศ. 1937 ที่ตั้งอยู่ในรัฐชเลสวิก-โฮลชไตน์และเมคเคลนบวร์ก-ฟอร์พอมเมิร์นในประเทศเยอรมนีปัจจุบัน
ในปี ค.ศ. 1226 สมเด็จพระจักรพรรดิฟรีดริชที่ 2 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์มีพระราชประกาศให้ลือเบค มีฐานะเป็นราชนครรัฐอิสระ ในคริสต์ศตวรรษที่ 14 ลือเบคก็กลายเป็นเมือง "ราชินีแห่งสันนิบาตฮันเซียติก" เพราะความที่เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดและมีอำนาจมากที่สุดในบรรดารัฐสมาชิกในกลุ่มการค้าของยุคกลาง
ระหว่างนั้นก็มีการต่อสู้ช่วงชิงสิทธิทางการค้าระหว่างลือเบคและสันนิบาตฮันเซียติกในการต่อต้านเดนมาร์คที่มีผลได้บ้างเสียบ้าง แต่ลือเบคและสันนิบาตฮันเซียติกก็ดำรงตัวอยู่ได้ระหว่างปัญหาความขัดแย้งต่างๆ ระหว่างปี ค.ศ. 1435 ถึงปี ค.ศ. 1512 ลือเบคมาเสียทีเมื่อเข้าไปเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างเคานท์ (Count's Feud) ซึ่งเป็นสงครามกลางเมืองที่เกิดขึ้นในเดนมาร์กระหว่างปี ค.ศ. 1534 ถึงปี ค.ศ. 1536 นอกจากนั้นก็ยังเข้าร่วมในสันนิบาตชมัลคัลดิก (Schmalkaldic League) หลังจากพ่ายแพ้ในความขัดแย้งแล้วอำนาจของลือเบคก็ค่อยๆ เสื่อมโทรมลง แต่ระหว่างสงครามสามสิบปีลือเบคสามารถดำรงความเป็นกลางไว้ได้ ความเสียหายอย่างหนักหลังจากการสงครามอันยืดเยื้อ และ เส้นทางการค้าใหม่ของยุโรปที่หันไปใช้การข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกทำให้สันนิบาตฮันเซียติกและลือเบคหมดความสำคัญลง เมื่อสหพันธ์มายุบตัวลงในปี ค.ศ. 1669 ลือเบคก็ยังคงมีความสำคัญทางการค้าในบริเวณทะเลบอลติค
ลือเบคยังคงมีฐานะเป็นราชนครรัฐอิสระแม้ว่าจะเกิดการปฏิรูปดินแดนในเยอรมนีในปี ค.ศ. 1803 หลังจากนั้นก็กลายเป็นรัฐอิสระเมื่อจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์สลายตัวในปี ค.ศ. 1806 ระหว่างสงครามพันธมิตรที่สี่ (War of the Fourth Coalition) ในการต่อต้านจักรพรรดินโปเลียน กองทัพภายใต้แบร์นาด็อตต์ (Charles XIV John of Sweden) เข้ายึดครองลือเบคที่มีฐานะเป็นกลางหลังจากการต่อสู้กับ เก็บฮาร์ด เลเบอเร็คท์ ฟอน บลืเชอร์ เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 1806 การดำเนินนโยบายระบบแผ่นดินใหญ่ (Continental System) ซึ่งเป็นนโยบายต่างประเทศของนโปเลียนในการต่อต้านอังกฤษทางการค้าระหว่าง ค.ศ. 1811 ถึง ค.ศ. 1813 สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจแก่ลือเบคเป็นอันมาก และลือเบคก็ถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิฝรั่งเศสที่ 1
การประชุมแห่งเวียนนาในปี ค.ศ. 1815 หลังจากการพ่ายแพ้ของนโปเลียน ทำให้ลือเบคและรัฐต่างๆ อีก 39 กลายเป็นส่วนหนึ่งของสมาพันธรัฐเยอรมัน ต่อมาในปี ค.ศ. 1867 ลือเบคก็เป็นส่วนหนึ่งของสมาพันธรัฐเยอรมัน และกลายมาเป็นรัฐอิสระของจักรวรรดิเยอรมนีที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1871
ในปี ค.ศ. 1937 รัฐบาลนาซีก็อนุมัติรัฐบัญญัติที่เรียกว่ารัฐบัญญัติฮัมบูร์กและปริมณฑล (เยอรมัน: Gesetz ?ber Gro?-Hamburg und andere Gebietsbereinigungen) ที่มีผลให้เมืองฮัมบูร์กขยายออกไปรวมเมืองต่างๆ ที่เดิมเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดชเลสวิก-โฮลชไตน์ของปรัสเซีย เพื่อเป็นการตอบแทนการสูญเสียดินแดนของปรัสเซีย อิสรภาพของลือเบคที่มีมาเป็นเวลา 711 ปี ก็มาสิ้นสุดลงเมื่อกลายไปเป็นส่วนหนึ่งของชเลสวิก-โฮลชไตน์