ทัสกานี (อังกฤษ: Tuscany) หรือ ตอสกานา (อิตาลี: Toscana) เป็นหนึ่งใน 20 แคว้นของสาธารณรัฐอิตาลี ซึ่งมีเมืองฟลอเรนซ์ (ฟีเรนเซ) เป็นเมืองหลวง มีเนื้อที่ทั้งหมด 22,990 ตารางกิโลเมตร และมีผู้คนอาศัยอยู่ 3.6 ล้านคน แคว้นทัสกานีนี้มีความสำคัญในทางประวัติศาสตร์ ศิลปกรรม (เนื่องจากเป็นที่กำเนิดของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาหรือยุคเรอเนซองซ์) สถาปัตยกรรม ศาสนา วัฒนธรรม และอุตสาหกรรม (เนื่องจากมีโรงงานผลิตเสื้อผ้า เสื้อนุ่งห่ม เครื่องหนัง จำนวนมาก) ของประเทศอิตาลี ซึ่งแคว้นแห่งนี้เองที่เป็นที่ตั้งของหอเอนเมืองปิซาอันโด่งดัง นอกจากนี้ แคว้นทัสกานีก็ยังขึ้นชื่อว่ามีทิวทัศน์งดงามมาก และมีไวน์ที่รสชาติดีเยี่ยม ภาษาอิตาลีที่พูดกันในแคว้นทัสกานีเป็นที่ยอมรับว่าเป็นการพูดแบบชาวอิตาลีโดยแท้จริงและยอมรับให้เป็นสำเนียงราชการ
สำหรับชื่อแคว้น ชาวอิตาลีเรียกชื่อแคว้นนี้ว่า "ตอสกานา" (Toscana) แต่ภาษาอังกฤษเรียกชื่อแคว้นนี้ว่า "ทัสกานี" (Tuscany) ในภาษาอื่น ๆ ก็มีชื่อเรียกต่างกันไปอีก เช่น ภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า Toscane ในภาษาละตินเรียกว่า Toscia เป็นต้น อย่างไรก็ดี การเรียกชื่อแคว้นนี้ว่า "ทัสกานี" นั้นเป็นที่รู้จักของชาวไทยมากกว่าชื่อว่า "ตอสกานา" กระนั้นแหล่งข้อมูลภาษาไทยหลายแห่งได้เขียนทั้ง "ทัสคานี" และ "ทอสคานา" มากพอ ๆ กัน
เขตต่าง ๆ ในเมือง 6 แห่งในแคว้นทัสกานีได้รับเลือกจากองค์การยูเนสโกให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก :
แคว้นทัสกานีเป็นแคว้นในภาคกลางของประเทศอิตาลี ติดกับแคว้นเอมีเลีย-โรมัญญาทางเหนือ แคว้นลิกูเรียทางตะวันตกเฉียงเหนือ แคว้นอุมเบรียและแคว้นมาร์เกทางตะวันออก แคว้นลาซีโอทางตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนทางตะวันตกติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แคว้นทัสกานีมีพื้นที่สองในสามส่วนเป็นที่ราบสูง และ เศษหนึ่งส่วนสี่ที่เป็นภูเขา ส่วนที่เหลือเป็นที่ราบที่ก่อกำหนดหุบเขาของแม่น้ำอาร์โน
ในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1980 และ 1990 แคว้นได้ดึงดูดผู้อพยพจำนวนมาก โดยเฉพาะจากประเทศจีนและทวีปแอฟริกาเหนือ นอกจากนี้ยังมีชุมชนของชาวอังกฤษและชาวอเมริกันอยู่ด้วยอย่างปรากฏเห็นได้ชัด
เราไม่ทราบว่ากลุ่มชนใดเป็นชนกลุ่มแรกที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่แคว้นทัสกานี แต่มีหพบหลักฐานที่บ่งบอกว่ามีมนุษย์อาศัยอยู่ในยุคสำริดและยุคโลหะ นอกจากนั้นยังบ่งบอกด้วยอีกว่ามีมนุษย์อาศัยอยู่ในหลากหลายบริเวณในแคว้นนี้ ตัวอย่างหลักฐานเช่น หมู่บ้านโบราณที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน
ในศตวรรษที่ 8 ถึง 10 ก่อนคริสตกาล อารยธรรมวิลลาโนเวียน (Villanovian) ซึ่งมีที่มาจากชื่อวิลลาโนวา (Villanova) เริ่มเข้ามามีอิทธิพลต่อมนุษย์ในแถบบริเวณนั้น และ เจริญเติบโตงอย่างอกงาม
ในช่วงศตวรรษที่ 10 ก่อนคริสตกาล นักประวัติศาสตร์ได้พบหลักฐานการอาศัยอยู่ของชาวอีทรัสคันในภาคเหนือไปจนถึงบางส่วนของภาคกลางตอนบนของประเทศอิตาลี ซึ่งแคว้นทัสกานีอยู่ในภาคกลางตอนบน (ส่วนภาคกลางเป็นที่อยู่ของชาวละติน และภาคใต้เป็นที่อยู่ของชาวกรีก ซึ่งในเวลาต่อมา ชาวละตินสามารถครอบครองดินแดนทั้งหมดของประเทศอิตาลีได้)ชื่อ "แคว้นทัสกานี" นี้ มาจากชื่อของชาวอีทรัสคัน ต่อมาชาวโรมันเปลี่ยนชื่อเป็นภาษาละติน ทัสเซีย (Tuscia) ทัสคาเนีย (Tuscania) และสุดท้าย ตอสกานา (Toscana)
ที่มาที่ไปและการตั้งรกรากเริ่มแรกของชาวอีทรัสคันยังคงเป็นปริศนาต่อนักประวัติศาสตร์จนถึงทุกวันนี้ เนื่องจากว่าไม่มีบันทึกเกี่ยวกับเรื่องนี้ในภาษาหรือการเขียนของพวกเขาเลย อย่างไรก็ตามนักประวัติศาสตร์ตั้งสมมุติฐานเอาไว้ว่าชาวอีทรัสคันมีถิ่นฐานดั้งเดิมอยู่ที่ ลิเดีย ในเขตเอเชียไมเนอร์ (แถบตุรกีและบริเวณที่เชื่อมต่อทวีปเอเชียเข้ากับทวีปยุโรป) ในช่วงศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสตกาลเป็นยุคทองของชาวอีทรัสคัน อารยธรรมเจริญเติบโตถึงขั้นสูงสุด บริเวณที่ชาวอีทรัสคันอาศัยอยู่มีอาณาเขตตั้งแต่หุบเขาโป ไปจนถึง กัมปาเนีย พวกเขาได้สร้างถนนหนทางและเมืองใหญ่ต่าง ๆ ไว้มากมาย เช่น อาเรซโซ ฟิลาเดลเฟีย โรเซลเล เวตูโลเนีย เป็นต้น ซึ่งเป็นหลักฐานถึงความเจริญงอกงามของอารยธรรมได้อย่างดี
ชาวอีทรัสคันได้ทิ้งสิ่งต่าง ๆ ไว้มากมายให้ชาวโรมันหลังจากที่พวกเขาถูกขับไล่ออกจากประเทศอิตาลี ในปี 509 ก่อนคริสตกาล ไม่ว่าจะเป็นในด้าน อักษรละตินที่ชาวอีทรัสคันปรับปรุงขึ้นเองจากอักษรกรีก และนำมาเผยแพร่ให้กับชาวโรมัน การตั้งชื่อที่เป็นแบบแผนของการตั้งชื่อตะวันตกในทุกวันนี้ สถาปัตยกรรมศิลปะรูปโค้ง การแสดงละครเวที ไปจนกระทั่งชุดโทกาที่ชาวโรมันใส่ ชาวอีทรัสคันนี้เองที่ทำให้อารยธรรมโรมันกำเนิดขึ้นมาได้ พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของประวัติศาสตร์แคว้นทัสกานีและประเทศอิตาลี
การท่องเที่ยวส่วนใหญ่ของแคว้นทัสกานีจะเน้นไปที่ พิพิธภัณฑ์ ภาพวาดผลงานชิ้นเอก (มาสเตอร์พีซ) จัตุรัสต่าง ๆ ในเมืองฟลอเรนซ์ ปิซา และเซียนาที่โด่งดังไปทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีสถานที่น่าสนใจอื่น ๆ อีก เช่น ชายหาด ป่าไม้ และ ภูเขาที่มีความสูงถึง 2,054 เมตร สปาที่ช่วยรักษาสุขภาพ หมู่บ้านที่ช่างฝีมือยังคงทำงานเกี่ยวกับหนังสัตว์ และคอรส์เรียนกอล์ฟ เป็นต้น
ในแคว้นทัสกานีมีโรงแรมทั้งหมด 11,000 กว่าแห่ง การตั้งแคมป์และการพักที่ฟาร์มดึงดูดนักท่องเที่ยวมากกว่า 40 ล้านคนต่อปี เนื่องจากความสวยงามและวิวทิวทัศน์ของแคว้นทัสกานี อย่างไรก็ตามทางแคว้นก็ได้ลงทุนใช้จ่ายกับการทำให้บริการต่าง ๆ มีคุณภาพมากขึ้น ผลิตสิ่งต่าง ๆ ออกมาอย่างเชี่ยวชาญและมืออาชีพมากขึ้น และ พัฒนาปรับปรุงระบบการคมนาคม
ร้อยละ 13 ของพิพิธภัณฑ์ทั้งหมดในประเทศอิตาลีตั้งอยู่ที่แคว้นทัสกานี โดยรวมในประเทศอิตาลีพิพิธภัณฑ์ทั้งหมด 4,120 แห่ง ซึ่งในแคว้นทัสกานีมี 553 แห่ง บางแห่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่โด่งดังระดับโลก เช่น แกลเลอรีอุฟฟิซี ในพิพิธภัณฑ์ 553 แห่งนี้ จำนวน 246 แห่งเก็บสะสมผลงานชิ้นเอกทางศิลปะ 88 แห่งเก็บสะสมโบราณวัตถุ 48 แห่งบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติของวิทยาศาสตร์ และ 40 แห่งอุทิศให้แก่ประเพณีท้องถิ่น ช่างฝืมือ และชาวนา และที่เหลือเพื่อหัวข้อพิเศษ อาทิ เช่น อุตสาหกรรมทางโบราณคดี ฟุตบอล ประวัติศาสตร์ของดินแดน เป็นต้น พิพิธภัณฑ์ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองฟลอเรนซ์ แต่หลาย ๆ แห่งก็ยังตั้งอยู่ในเมืองเล็ก ๆ ด้วย
พิพิธภัณฑ์อุฟฟิซีมีผลงานชิ้นเอกจากศิลปะเอกชาวอิตาลีมากมาย อาทิ เช่น จอตโต ดี บอนโดเน, ซิโมเน มาร์ตินิ, เปียโร เดลลา ฟรานเชสกา, ฟราอันเจลิโค, ฟิลลิปโป ลิปปี, ซานโดร บอตติเชลลี, ไมเคิล แองเจโล และ เลโอนาร์โด ดา วินชี เป็นต้น ซึ่งโดยลำพังแล้วภาพเหล่านี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้ 1,500,000 คนต่อปี
เพื่อปกป้อง อนุรักษ์ และรักษาภาพต่าง ๆ เจ้าหน้าที่จะต้องคอยดูแลมิให้ผู้ใดมาทำลายภาพเสมอ ยิ่งไปกว่านั้นประเทศอิตาลีมีนโยบายจำกัดนักท่องเที่ยวในพิพิธภัณฑ์ เนื่องจากการรักษาอุณหภูมิเป็นการรักษาภาพด้วย รายได้ของพิพิธภัณฑ์ในแต่ละปีได้ประมาณ ค่าเข้าพิพิธภัณฑ์จะอยู่ประมาณที่ 2.58 ยูโร และรายได้ 26.9% จากการท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ของอิตาลีได้มาจากแคว้นทัสกานี ซึ่งโดยรวมทั้งหมดประเทศอิตาลีมีรายได้ 22 ล้านยูโรจากการท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ต่อปี ผู้คนจำนวนมากกว่า 6 ล้านคนเดินทางมาแวะเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ที่เป็นของรัฐในแคว้นทัสกานีในแต่ละปี
แคว้นอันงดงาม ที่ที่ฉันใส่ชุดนั้นที่ฉันภูมิใจและที่ที่ฉันเอาบทเพลงอันสูงส่งนั้นติดไปด้วย และที่ที่ฉันเอาหัวใจที่ที่ความเกลียดชังและ ความรักไม่เคยนอนหลับ ตอนนี้ฉันเห็นเธออีกครั้ง หัวใจของฉันเริ่มที่จะกระโดดโลดเต้น ฉันจดจำเธอได้อย่างดีในรูปแบบที่ฉันคุ้นเคย กับดวงตาที่ไม่แน่นอนระหว่างยิ้มและร้องไห้