ตี๋ใหญ่ เป็นอดีตจอมโจรชื่อกระฉ่อนของไทยในยุคระหว่างปี พ.ศ. 2516–24 ได้ชื่อว่าเป็นอาชญากรหมายเลขหนึ่งตามหมายจับของกรมตำรวจ แต่ท้ายสุดต้องมาจบชีวิตด้วยน้ำมือของผู้ใกล้ชิดและไว้ใจ
ตี๋ใหญ่ มีชื่อจริงว่า กรประเสริฐ ช่างเขียน เป็นชาวไทยเชื้อสายจีน เกิดเมื่อปลายปีพ.ศ. 2495 ที่ตำบลดอนไผ่ อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี เดิมมีชื่อว่า "ไพโรจน์" ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น กรประเสริฐ เป็นลูกชายคนโตในจำนวนลูก ๆ ทั้ง 7 คนของครอบครัวที่มีอาชีพทำสวน เมื่อยังเด็ก ตี๋ใหญ่เป็นคนนิสัยสุภาพเรียบร้อย ไม่มีวี่แววว่าจะเป็นอาชญากรได้เลย จนกระทั่งเรียนจบ ป.4 แม่ได้ส่งเข้ามาทำงานที่กรุงเทพที่ตลาดมหานาค ณ ที่นั่นตี๋ใหญ่ถูกนักเลงเจ้าถิ่นรังแก เลยทำให้เป็นคนสู้คนขึ้นมา จนกระทั่งก่ออาชญากรรมได้ในที่สุด ซึ่งเมื่อพ่อของตี๋ใหญ่ทราบว่าลูกชายเป็นโจร ก็ประกาศตัดขาดความเป็นพ่อ-ลูกกันและไม่ยอมให้ตี๋ใหญ่กลับเข้าบ้านอีกเป็นอันขาด
ตี๋ใหญ่ เริ่มต้นการเป็นอาชญากรจากการเป็นนักเลงหัวไม้ ต่อยตีกับเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันแถวบ้าน และกระชากสร้อย ก่อนจะเริ่มปล้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2516 ด้วยการเข้าปล้นบ้านเศรษฐีผู้หนึ่งที่ริมคลองดำเนินสะดวก ขณะที่ตี๋ใหญ่มีอายุเพียง 21 ปี จากนั้นตี๋ใหญ่จึงมีชื่อเสียงโด่งดังจากการเป็นโจรปล้นฆ่า โดยก่อเหตุไปทั่วแถบบริเวณจังหวัดราชบุรีและหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคกลาง และบางส่วนของพื้นที่กรุงเทพมหานคร นอกจากนี้แล้ว ตี๋ใหญ่ ยังถือเป็นโจรใจเด็ด เพราะเคยหนีตำรวจโดยกระโดดลงจากรถไฟมาแล้ว และสลัดกุญแจมือด้วยการซ่อนตัวอยู่ใต้สะพานให้รถไฟทับให้ขาด ในขณะที่ถูกควบคุมตัวบนขบวนรถไฟจากกรุงเทพไปขึ้นศาลที่จังหวัดเชียงใหม่ จากคดีปล้นร้านเฟอร์นิเจอร์ที่เขตภาษีเจริญ เมื่อปี พ.ศ. 2518 และยังเคยบุกปล้นคุกเพื่อช่วยลูกน้อยที่ติดคุกอยู่อีกด้วย และนอกจากนี้ยังเชื่อว่ากัน ตี๋ใหญ่ เป็นโจรจอมขมังเวทย์ มีคาถาอาคมกำบังหายตัวได้ จึงทำให้หลุดรอดจากการจับกุมของตำรวจอยู่เสมอ ๆ โดยอาวุธคู่ใจของตี๋ใหญ่ คือ ปืนพกขนาด 11 มม. Colt M 1911 A1
นอกจากนี้แล้ว ตี๋ใหญ่ ยังเป็นโจรเจ้าชู้ กล่าวกันว่ามีภรรยาหลายคน เพราะเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง โดยตี๋ใหญ่โกหกชื่อตน ว่าชื่อแจ็คบ้าง ไพโรจน์บ้าง เป็นต้น โดยที่ภรรยาเหล่านี้บางคนยังไม่ทราบเสียด้วยซ้ำว่า สามีของตนนั้นเป็นโจร ปัจจุบันบุตรชายของตี๋ใหญ่มีเพียงคนเดียว
ตี๋ใหญ่มักจะอยู่ไม่เป็นที่ ต้องคอยหลบหนีตลอด โดยเวลานอนจะจุดธูปหนีบไว้ที่นิ้วเท้าเมื่อธูปหมดดอก ก็จะย้ายไปที่อื่น ตี๋ใหญ่มีเอกลักษณ์ประจำตัวคือ มักจะแต่งกายด้วยเสื้อเชิร์ตลายสก๊อต กางเกงยีนส์ลีวายส์ สวมแว่นตาดำเรย์แบนด์ และรองเท้าผ้าใบคอนเวิร์ส เวลาตี๋ใหญ่ออกปล้นมักจะฆ่าเจ้าทรัพย์ด้วยความโหดเหี้ยม โดยจะส่งเสียงขู่ด้วยน้ำเสียงที่น่าหวาดกลัว แต่ก็เสียงเล่าลือกันอีกว่า ในบางครั้งตี๋ใหญ่ก็ปล้นแต่เฉพาะคนรวย และใครเคยช่วยเหลือก็ไม่เคยลืมบุญคุณและจะนำทรัพย์สินที่ปล้นได้มาแบ่งให้ โดยวางทิ้งไว้ที่หน้าบ้าน และก่อนออกปล้นตี๋ใหญ่จะศึกษาสถานที่ ๆ จะปล้นอยู่เป็นเวลานานนับเดือน รวมถึงจะไปดูลาดเลาสถานที่เกิดเหตุด้วยตัวเอง อีกเรื่องหนึ่งที่เป็นที่เล่าลือของตี๋ใหญ่ คือ เมื่อหลบหนีตำรวจ จะใช้วิธีดำน้ำโดยใช้ปากดูดอากาศจากก้านมะละกอเหมือนหลอด ซึ่งตี๋ใหญ่เคยทำแบบนี้มาตั้งแต่สมัยยังเด็ก ๆ เพราะสภาพแวดล้อมแถวบ้านเป็นเรือกสวนไร่นาและลำคลอง
ตี๋ใหญ่เสียชีวิตในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2524 ขณะที่มีอายุได้ 30 ปี โดยตำรวจโดยนำของ พล.ต.ท.สมเกียรติ พ่วงทรัพย์ (ยศในปัจจุบัน-อดีตผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล) เล่ากันว่าที่ตี๋ใหญ่เสียชีวิตนั้น เพราะกำลังหลบหนี ก่อนหน้านั้นหนึ่งวันได้ให้ลูกน้องขับรถกระบะไปรับเพื่อไปหาพระเกจิอาจารย์รูปหนึ่ง คือ พระครูสมุทรธรรมสุนทร (สุด สิริธโร) หรือหลวงพ่อสุด วัดกาหลง ที่จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อไปขอพระจากท่านเพราะของเดิมถูกเพื่อนขโมยไปทั้งตะกรุดและพระ แต่ไม่พบ ขณะที่เดินทางกลับ ได้ถูกเพื่อนร่วมเดินทางซึ่งเป็นลูกน้องหักหลังยิงตี๋ใหญ่จนตาย แล้วรีบออกจากรถ หลังจากตำรวจมาถึงรถที่ตี๋ใหญ่ตายอยู่ในรถก็ได้ระดมยิงถล่มรถอีกครั้งโดยไม่รู้ว่าตี๋ใหญ่ได้ตายอยู่ในรถก่อนหน้านี้แล้ว แต่ทว่าจากคำบอกกล่าวของลูกน้องคนนึงของตี๋ใหญ่ กล่าวว่า ตี๋ใหญ่ถูกลูกน้องคนนี้หักหลัง ด้วยถูกตำรวจจ้างด้วยเงิน 200,000 บาท พร้อมให้สัญญาจะช่วยในคดีฆ่าคนตาย 2 คดีให้หลุดพ้น ซึ่งตี๋ใหญ่ไม่ได้ถูกตำรวจฆ่าตายเลย
ภายหลังจากการเสียชีวิตแล้ว ยังมีเสียงเล่าลือกันว่า ตี๋ใหญ่ตัวจริงยังไม่ตาย บ้างก็ลือกันว่าตี๋ใหญ่ได้หนีไปอยู่สหรัฐอเมริกา บ้างก็เชื่อว่าที่ตี๋ใหญ่เสียท่าแก่ตำรวจ เพราะได้หลบไปซ่อนอยู่ใต้ผ้าถุง อาคมในตัวจึงเสื่อม เป็นต้น เรื่องราวของตี๋ใหญ่ยังถูกเล่าขานต่อ ๆ กันมา
เรื่องราวของตี๋ใหญ่ถูกสร้างเป็นละครโทรทัศน์ 5 ครั้ง ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2528 ทางช่อง 5 ผู้ที่รับบทตี๋ใหญ่ คือ ฉัตรชัย เปล่งพานิช นายตำรวจผู้ตามล่าตี๋ใหญ่ รับบทโดย ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์ ครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2542 ทางช่อง 3 ผู้รับบทตี๋ใหญ่ คือ ศรราม เทพพิทักษ์ และนายตำรวจผู้ตามล่าตี๋ใหญ่ รับบทโดย ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์ ครั้งที่ 3 ในปี พ.ศ. 2559 ทางช่องวัน ในชื่อเรื่อง เพชฌฆาตดาวโจร และดัดแปลงเรื่องให้เป็นเรื่องใหม่ โดยผู้ที่รับบทตี๋ใหญ่ คือ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ และนายตำรวจผู้ตามล่าตี๋ใหญ่ คือ ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง ครั้งที่ 4 ทางช่องโมโน 29 ในชื่อเรื่อง ตี๋ใหญ่ ดับ ดาว โจร ผู้รับบทตี๋ใหญ่คือ สมชาย เข็มกลัด ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดัดแปลงอีกเช่นกัน และออกฉายก่อนเรื่องเพชฌฆาตดาวโจร และครั้งที่ 5 ทางช่อง 7 ในปี พ.ศ. 2561 ชื่อเรื่อง มือปราบเหยี่ยวดำ โดยผู้ที่รับบทตี๋ใหญ่ คือ รพีภัทร เอกพันธ์กุล
รวมทั้งเคยเป็นภาพยนตร์ครั้งหนึ่ง ในปี พ.ศ. 2554 ในชื่อ ตี๋ใหญ่ จอมขมังเวทย์ ผู้รับบทตี๋ใหญ่ คือ ปวริศร์ มงคลพิสิฐ และนายตำรวจผู้ตามล่าตี๋ใหญ่ รับบทโดย ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์