ตลก 6 ฉาก เป็นรายการวาไรตี้ผสมละครซิตคอมตลกสั้นจบในตอนมีความกระชับ ออกอากาศทุกวันเสาร์ 11:30 - 12:30 น. ทางช่องเวิร์คพอยท์ ผลิตโดย บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ในยุคแรกมีฉากทั้งหมด 6 ฉาก เช่น ฉากโรงพยาบาล, ร้านกาแฟ, ซูเปอร์มาเก็ต, ฟิตเนส เป็นต้น จึงได้ชื่อว่า "ตลก 6 ฉาก" ละครจะเน้นความตลกขบขัน ภายใต้สโลแกนว่า “จะฉากอะไรในชีวิต ก็คิดให้มันเป็นเรื่อง..ตลก”
นอกจากนี้ยังเป็นรายการโทรทัศน์รายการแรกของไทยที่ได้รับ เหรียญรางวัลและเกียรติบัตรจาก เวที อินเตอร์เนชั่นแนล เอมี่ อะวอร์ดส รางวัลทางโทรทัศน์ระดับโลก
ในปัจจุบัน ฉากในรายการจะมีทั้งหมด 10 ฉาก ได้แก่ ออฟฟิศจิตป่วน , ข่าวด่วนชวนยิ้ม, แท็กซี่ฮาเฮ , ห้องเรียน , ร้านเฮียพัน , ร้านเฟอร์นิเจอร์ , รถไฟฟ้า , บ้าน , ห้าง , ร้านโยเกิร์ต แต่ละฉากก็จะมีเนื้อเรื่องที่แตกต่างกันออกไป มีนักแสดงหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันแสดงทุกฉาก หากตอนในฉากใดมีหมายเลขกำกับด้านล่าง แสดงว่าเป็นตอนที่จะมีมากกว่า 1 ช่วงในตอนนั้น ๆ
ในยุคแรก เปิดรายการมาพิธีกรจะกล่าวสวัสดีท่านผู้ชมแล้วก็แนะนำแขกรับเชิญประจำสัปดาห์ โดยร้องเพลงต้อนรับ หลังจากนั้นก็จะมีการคุยกับแขกรับเชิญ แล้วจึงตัดมาเป็นละครซิตคอมสั้นช่วงละ 2 ฉาก (ปัจจุบันจะมีช่วงละ 4 ฉาก และ 6 ฉากในภายหลัง) เมื่อละครจบครบทั้ง 6 ฉาก (หรือ 11 ฉากและ 12 ฉากในภายหลัง) ก็มาถึงช่วงสุดท้ายของรายการ ซึ่งดารารับเชิญจะร่วมเล่นเกมกับพิธีกร (แต่อย่างไรก็ดี ตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม 2553 ถึง 30 ธันวาคม 2553 ทางรายการจะไม่มีแขกรับเชิญมาร่วมรายการ จึงกลายเป็นการแข่งขันเกมของพิธีกรแทน)
โดยช่วงแรกจะไม่มีเพลงบรรเลงเข้าฉากถัดไปจะเป็นผู้บรรยายประกาศชื่อฉากที่จะนำออกอากาศ ต่อมา พ.ศ. 2552 มีการใช้เพลงบรรเลงประกอบฉากซึ่งทำนองจะเข้ากับฉากของแต่ละฉาก ต้นปี 2556 มีการดัดแปลงเพลงเข้าฉากเพื่อให้เข้ากับไตเติ้ลใหม่ แต่กลางปีเดียวกันกลายเป็นไตเติ้ลรายการแทน จนกระทั่งปี 2558
ต่อมา ปี 2557 เบรกแรก จะเปิดรายการด้วยละครก่อนต่อด้วยผู้ดำเนินรายการหลัก 10 คนมาต้อนรับผู้ชม และมีประเด็นประจำสัปดาห์มาให้ผู้ดำเนินรายการพูดคุยกัน แล้วส่งผู้ชมไปชมละคร ต่อมาเบรก 2-4 จะเป็นละคร เบรก 5 เล่นเกมของผู้ดำเนินรายการ ปิดท้ายด้วยคำคม และช่วงมุกหลุด ที่รวบรวมมุกหลุดๆ จากละคร หรือมุกที่ไม่ได้มีในละคร
“ตลก 6 ฉาก” เดิมออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00 น. ทางช่อง 5 เริ่มครั้งแรก 21 ตุลาคม 2550 ต่อมารายการนี้มีการเปลี่ยนแปลงเวลาออกอากาศมาเป็นทุกวันเสาร์ ช่อง 5 เวลา 14.00 น. ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2551 เป็นต้นไป และเมื่อต้นปี พ.ศ. 2552 ละครก็หลุดออกจากผังช่อง 5 พร้อมรายการอื่นในเครืออีก 4 รายการเนื่องจากความผิดพลาดในการสื่อสารและประสานงานกันของบริษัทกับสถานี โดยตอนสุดท้ายออกอากาศเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2551
ใน พ.ศ. 2552 กลับมาออกอากาศอีกครั้งที่ช่อง 5 เช่นเดิม ทุกวันศุกร์ เวลา 23.00 น. เป็นต้นไป เริ่มออกอากาศ 24 เมษายน พ.ศ. 2552 เพื่อทดแทนรายการแฟนพันธุ์แท้
ใน พ.ศ. 2553 ตั้งแต่เทปวันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 จะย้ายวัน และ เวลาออกอากาศไปเป็นวันพฤหัสบดี เวลา 23.30 - 00.10 น. เนื่องจากมีรายการของทางบริษัทฯ คือ SME ตีแตก มาออกอากาศในช่วงเวลาดังกล่าว และ เป็นการแข่งขันอีกรายการของทางบริษัท คือ ล้วงลับตับแตก ซึ่งออกอากาศคนละช่อง แต่อยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน
ใน พ.ศ. 2554 เปลี่ยนแปลงเวลาออกอากาศเป็นทุกวันเสาร์เวลา 12.50 น. เริ่มวันเสาร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2554 ต่อมาในปี พ.ศ. 2557 มีการขยับเวลาการออกอากาศจากเดิม 12.50 - 14.00 น. เป็น 13.50 - 15.00 น.(โดยประมาณ) เนื่องจากมีรายการคืนความสุขให้คนในชาติของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ออกอากาศรีรันในช่วง 08.00 น. โดยเริ่มออกอากาศตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2557 จนถึง ธันวาคม 2557
ใน พ.ศ. 2558 มีการเปลี่ยนแปลงการออกอากาศเป็นทุกวันเสาร์ เวลา 12.00 - 13.30 น. ( 1 ชั่วโมงครึ่ง ) และ ย้ายการออกอากาศจาก สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 มาเป็น ช่อง 1 เวิร์คพอยท์ โดยเริ่มออกอากาศครั้งแรกวันเสาร์ที่ 3 มกราคม 2558 นี้ เป็นต้นไปและออกอากาศซ้ำอีกครั้งทุกวันจันทร์เวลา 23.00 - 00.30 น.
ใน พ.ศ. 2559 งดออกอากาศจำนวน 5 สัปดาห์ ระหว่างวันที่ 15 ตุลาคม - 12 พฤศจิกายน 2559 ถวายความอาลัยเนื่องจากการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ใน พ.ศ. 2560 เฉพาะเทปวันเสาร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2560 รายการ ตลก 6 ฉาก ขอเลื่อนเวลาการออกอากาศรายการ 1 วันจากเดิมในเวลา 12.00 - 13.30 น. ไปเป็นเวลา 14.38 - 15.38 น. เนื่องจากทางสถานี , สถานีโทรทัศน์ไทยทุกสถานี , สถานีวิทยุแห่งประเทศไทยทุกคลื่นความถี่ ร่วมกับ โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทรท.) ถ่ายทอดสดพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสตมวารถวายพระบรมศพ ครบ 100 วัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายในพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่เวลา 10.25 - 14.50 น. และงดออกอากาศจำนวน 3 สัปดาห์ ระหว่างวันที่ 14,21 และ28 ตุลาคม ถวายความอาลัยและอยู่ในระหว่างพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยจะกลับมาออกอากาศอีกครั้งในวันเสาร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2560
ใน พ.ศ. 2561 มีการเปลี่ยนแปลงการออกอากาศเป็นทุกวันเสาร์ เวลา 11.30 - 12.30 น. (60 นาที) โดยเริ่มออกอากาศครั้งแรกวันเสาร์ที่ 6 มกราคม 2561 เป็นต้นไป
ยอดนักสืบที่มักจะปรากฏตัวในฉากต่างๆเพื่อสืบคดีหรือแม้กระทั่งตามสืบชู้แต่มักจะไม่ประสบความสำเร็จในการสืบ
จนมีการทำ ตลก6ฉาก ตอนพิเศษ"โคขุน ยอดนักสืบ"
ที่จะมีประโยคพูดเปิดตัวว่าเพราะความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น
รักหกฉาก เป็นชื่อรายการตลกหกฉากในเทปพิเศษ ออกอากาศในช่วงที่มีการงดรายการบันเทิง เพื่อไว้อาลัยแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เมื่อวันที่ 13 มกราคม 20 มกราคม 8 พฤศจิกายน และ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 โดย 2 เทปแรก จะมีแขกรับเชิญเทปละ 2 ท่านเป็นชาย 1 คนและหญิง 1 คน โดยรายการตลกหกฉากในชื่อพิเศษนี้จะเป็นเทปที่งดเสียงหัวเราะ งดความสนุกสนาน งดเสียงดนตรี แต่พิธีกรจะพูดคุยกับแขกรับเชิญในเรื่องของความรัก และมีละครสั้นซิตคอม 6 ฉากเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรักล้วนๆ ทั้งสดใส เหงา เศร้า และสมหวัง เมื่อละครจบครบทั้ง 6 ฉาก พิธีกรก็มีการพูดคุยกับแขกรับเชิญเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนกล่าวปิดรายการ ยกเว้นในเทปวันที่ 8 และ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 ที่มีแขกรับเชิญเพียงคนเดียว ได้ร้องเพลงตามปกติก่อนปิดรายการ
ช่วงสุดท้ายของรายการ จะการร้องเพลงจากแผ่นป้าย แขกรับเชิญจะต้องเลือกแผ่นป้ายที่กำหนดให้ ภายในป้ายจะมีเพลงซ่อนอยู่ เมื่อเลือกแล้วแขกรับเชิญจะต้องร้องเพลงร่วมกับพิธีกร โดยจะมีพิธีกร 1 คนลงไปชี้ตัว เมื่อร้องจบแล้วก็ถึงเวลาสำหรับการให้คะแนนจากท่านผู้ชมในห้องส่งจำนวน 100% ในอดีต ถ้าคะแนนจากท่านผู้ชมมากกว่า 50% ขึ้นไปแขกรับเชิญจะได้รางวัลเครื่องปรับอากาศ แต่ถ้าคะแนนไม่ถึง 50% ก็จะได้รับรางวัลเป็นพัดลมแทน แต่ปัจจุบันจะมีรางวัลเป็นกล้องถ่ายวิดีโอให้หากได้คะแนนจากท่านผู้ชมมากกว่า 50 % (ในภายหลัง ได้เปลี่ยนวิธีแสดงผลคะแนนเป็น O และ X แทน โดย O คือผ่าน X คือไม่ผ่าน)
พิธีกรจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ทีม คือทีมของ "พีค-ทอฟฟี่-โก๊ะตี๋" และ "บอย-โหน่ง-ตุ๊กกี้" โดยจะมีพันเข้ามาเป็นกรรมการด้วย
ทั้ง 2 ทีมจะส่งตัวแทนออกมาเป่ายิ้งฉุบ เพื่อหาว่าทีมไหนจะได้เล่นก่อน หลังจากนั้น ทางรายการจะเปิดเพลง และแสดงชื่อเพลงบนจอ(โดยไม่มีพยัญชนะ,สระ หรือวรรณยุกต์ใดๆ) ทีมที่ได้เล่นก่อนจะต้องเลือกแผ่นป้ายว่าสมาชิกคนไหนในทีมจะได้ทายชื่อเพลง (โดยทีมของ พีค-ทอฟฟี่-โก๊ะตี๋ จะได้เลือกแผ่นป้ายหมายเลข 1-3 หรือแผ่นป้ายแถวบน ส่วนทีมของ บอย-โหน่ง-ตุ๊กกี้ จะได้เลือกแผ่นป้ายหมายเลข 4-6 หรือแผ่นป้ายแถวล่าง) เมื่อเลือกแผ่นป้ายแล้ว พิธีกรคนนั้นจะมีสิทธิทายพยัญชนะ,สระ หรือวรรณยุกต์ 1 ตัว หากตัวอักษรที่ทาย มีปรากฏอยู่ในชื่อเพลง จะสามารถเล่นต่อไปได้ แต่หากไม่มีปรากฏในชื่อเพลง อีกทีมหนึ่งจะได้เล่นต่อ โดยจะต้องเลือกแผ่นป้ายใหม่ และได้ฟังเพลงเพิ่ม หากทีมไหนทายชื่อเพลงได้ถูกต้องก่อนจะเป็นฝ่ายชนะไป แต่ถ้าหากทายชื่อเพลงแล้วผิด ทีมนั้นจะแพ้ทันที ซึ่งทีมที่แพ้ จะถูกทำโทษไปในแต่ละอาทิตย์
แขกรับเชิญจะต้องเลือกแผ่นป้าย 1 แผ่นป้ายจากทั้งหมด 6 แผ่นป้าย โดยด้านหลังแผ่นป้ายจะเป็นรูปใบหน้าของพิธีกรทั้ง 6 คน คือ โหน่ง บอย พีค ทอฟฟี่ โก๊ะตี๋ และ ตุ๊กกี้ เมื่อเปิดออกมาแล้ว เป็นพิธีกรคนใด พิธีกรคนนั้นจะต้องแต่งชุดเป็นโจรสลัด แล้วต้องเข้ามาอยู่ในถังไม้ที่มีช่องเสียบมีดทั้งหมด 10 ช่อง จากนั้นพิธีกรที่เหลือจะต้องมาแข่งเกมกับแขกรับเชิญ ด้วยการเสียบมีดให้โจรสลัด(พิธีกรที่ถูกเลือก)กระเด้งออกจากถังไม้(ถูกสลิงดึงขึ้นไปข้างบน) โดยแขกรับเชิญจะเริ่มต้นเสียบมีดก่อน หากยังไม่กระเด้ง ทีมพิธีกรก็จะได้เสียบมีดต่อไป สลับกันไปเรื่อยๆจนโจรสลัดกระเด้งออกมา หากแขกรับเชิญสามารถเสียบมีดแล้วโจรสลัดสามารถกระเด้งออกจากถังไม้ได้ ก็จะได้รับรางวัลจากทางรายการ
และตั้งแต่เดือนมีนาคม แขกรับเชิญจะต้องเป็นโจรสลัดด้วย และต้องเลือกพิธีกรเป็นคู่แข่งจากการเลือกแผ่นป้ายทั้ง 6 แผ่นป้าย จากนั้น ทั้งคู่จะต้องอยู่ในถังไม้ โดยทั้งสองถังจะมีช่องเสียบมีดอยู่ 5 ช่อง โดยแขกรับเชิญจะเริ่มเลือกช่องเสียบมีดฝั่งพิธีกรก่อน โดยจะมีพิธีกรที่ไม่ได้เป็นโจรสลัดมาช่วยเสียบมีดให้ หากพิธีกรไม่กระเด้ง พิธีกรที่เป็นโจรสลัดก็จะเลือกเสียบมีดฝั่งแขกรับเชิญสลับกันไป หากโจรสลัดฝั่งใดกระเด้งขึ้นก่อนก็จะแพ้ไป หากเป็นโจรสลัดฝั่งพิธีกรกระเด้งออกจากถังไม้ขึ้นก่อน แขกรับเชิญก็จะชนะและได้รับรางวัลจากทางรายการ
แขกรับเชิญจะต้องแข่งเกมกับพิธีกรทุกคน (ยกเว้นพันที่จะทำหน้าที่กรรมการ) โดยแขกรับเชิญจะต้องเลือก 1 แผ่นป้ายจากทั้งหมด 6 แผ่นป้าย เพื่อดูว่าจะได้เล่นเกมอะไร และถ้าแขกรับเชิญสามารถทำได้ตามเงื่อนไขที่ทางรายการกำหนด แขกรับเชิญก็จะได้รับของรางวัลจากทางรายการทันทีปัจจุบันนี้เป็นการแข่งเกมของพิธีกรกันเอง