ต้าหลี่ (จีน: ???; พินอิน: D?l? sh?) หรือภาษาไทใหญ่ว่า แสหลวง หรือ มิถิลา เป็นเมืองเอกของ เขตปกครองตนเองชนชาติไป๋ ต้าหลี่ มณฑลยูนนานทางตอนใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ตั้งอยู่บนที่ราบสูงระหว่างเทือกเขาชางซานทางด้านตะวันตก และทะเลสาบเอ๋อไห่ทางด้านตะวันออก เป็นที่ตั้งถิ่นฐานของชาวไบ๋และชาวอี้มาตั้งแต่สมัยโบราณ
ต้าหลี่เคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรน่านเจ้า ซึ่งเป็นอาณาจักรของชาวไป๋ในราวศตวรรษที่ 8-9 ต่อมาได้เป็นเมืองหลวงของอาณาจักรต้าหลี่ในปี พ.ศ. 1480 - 1796 เป็นศูนย์กลางการเคลื่อนไหวของกลุ่มกบฏชาวจีนมุสลิม (จีนฮ่อ)ระหว่างปี พ.ศ. 2399 - 2406
ต้าหลี่ยังมีชื่อเสียงในฐานะเป็นแหล่งผลิตหินอ่อนหลากหลายชนิด ซึ่งนำไปใช้ในการก่อสร้างและประดับตกแต่งอาคาร
ปัจจุบันนี้ ต้าหลี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งจากในและต่างประเทศ
ต้าลี่ (ต้าหลี : ?? ในภาษาจีนกลาง) เป็นเมืองเก่าแก่ ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลุ่มระหว่างทะเลสาบเอ๋อไห่ และเทือกเขาชังช้าน (??) ซึ่งมีภูเขามังกรหยกอยู่ทางด้านตะวันตกของเมือง ต้าลี่ถือเป็นรัฐที่มีเอกราชมานานตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 8 คือ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับราชวงศ์ถังและซ่ง ผู้นำมีฐานะเป็นจักรพรรดิแห่งยูนนาน จนกระทั่งมาแตกพ่ายให้กับชาวมองโกล จากนั้นจึงขึ้นอยู่กับศูนย์กลางอำนาจของจีนเป็นต้นมา ตั้งแต่ราชวงศ์หยวน หมิงและชิง คำว่าน่านเจ้า (ภาษาจีนกลางออกเสียงว่า หนานเจ้า : ??) หมายถึง ตระกูลทางใต้หรือพวกทางใต้ ซึ่งคืออณาจักรน่านเจ้าทีเราเคยได้ยินกันและมีศูนย์กลางอยู่ที่ต้าลี่ชาวพื้นเมืองต้าลี่ส่วนใหญ่คือชาวไป๋ซึ่งนับถือศาสนาอิสลาม ในช่วงปีคศ. 1856–1873 สมัยราชวงศ์ชิง เกิดกบฏในมณฑลยูนนานเรียกว่า กบฏตู้เหวินชิ่ว (?????) เกิดจากความขัดแย้งเชิงเชื้อชาติ ระหว่างราชสำนักชิงซึ่งเป็นชาวแมนจูกับชาวพื้นเมืองในมณฑลยูนนาน แต่ชาวฮั่นซึ่งเป็นพลเมืองส่วนใหญ่ของจีนนั้นไม่เกี่ยว ตู้เหวินชิ่วซึ่งเป็นผู้นำ ได้ประกาศเอกราชให้กับมณฑลยูนนานและเรียกว่าประเทศผิงหนาน โดยมีเมืองต้าลี่เป็นเมืองหลวง ปกครองแบบรัฐอิสลาม แต่หลังจากเวลาผ่านไปได้ 17 ปี ท้ายที่สุด ต้าลี่และมณฑลยูนนานก็ขึ้นอยู่กับราชวงศ์ชิงอีกครั้ง ผู้นำผิงหนานถูกตัดศีรษะแช่น้ำผึ้งส่งไปปักกิ่ง ชาวไป๋พาผมไปดูรอยสลักบนกำแพงเมือง ซึ่งชาวเมืองแอบเขียนด่าราชสำนักชิงไว้เมื่อร้อยกว่าปีก่อน และยังคงถูกรักษาไว้จนถึงปัจจุบัน
ต้าหลี่ เป็นเมืองโบราณทางตะวันตกของคุนหมิง ห่างมา 400 กิโลเมตร มีกำแพงล้อมรอบ และเป็นหนึ่งในเมืองที่สวยที่สุดของจีน ด้านหนึ่งติดเทือกเขาชางซานที่สูง 4,000 เมตร อีกด้านติดบึงเอ๋อไห่ซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองของจีน ถือเป็นชัยภูมิที่หาเมืองอื่นใดมาเทียบได้ยาก และด้วยความสูง 1,900 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล อากาศที่นี่จึงเย็นสบายตลอดทั้งปี
เมืองเก่าต้าหลี่ที่หลงเหลืออยู่ในปัจจุบันเป็นมรดกที่ตกทอดมาจากอาณาจักรน่านเจ้า ซึ่งรุ่งเรืองอยู่ในสมัยเดียวกับราชวงศ์เหนือ-ใต้ ในช่วงศตวรรษที่ 5 และ 6 ในช่วงดังกล่าว ศูนย์กลางของหยุนหนานได้ย้ายจากคุนหมิงมาอยู่ยังอาณาจักรทั้งหกของชนเผ่าไป๋ทางตะวันตก ครั้นถึงยุคราชวงศ์ถัง หัวหน้าเผ่านามผีลั่วเก๋อ (พีล่อโก๊ะ ค.ศ.697-748) ได้รวบรวมอาณาจักรทั้งหกเข้าไว้ด้วยกัน และสถาปนาขึ้นเป็นอาณาจักรน่านเจ้า (แปลว่า “อาณาจักรใต้” ค.ศ.738-902) มีเมืองต้าหลี่เป็นราชธานี
อาณาจักรน่านเจ้าได้ต่อต้านอำนาจของราชวงศ์ถังเสมอมา ในยุคเรืองอำนาจสูงสุดน่านเจ้ามีเขตแดนทางตอนบนยื่นลึกเข้าไปในซื่อชวน ตอนใต้เลยเข้าไปในพม่า ทางตะวันออกเฉียงเหนือกินแดนเข้าไปในเขตตอนบนของเวียดนาม ช่วงปลายศตวรรษที่ 9 อาณาจักรน่านเจ้าอ่อนแอลงเพราะความขัดแย้งภายใน นำไปสู่การก่อกบฏใน ค.ศ.939 อาณาจักรจึงหดเล็กจงเป็นแค่อาณาจักรต้าหลี่ ซึ่งปัจจุบันคือเขตปกครองตนเองของชนเผ่าไป๋
เมืองโบราณต้าหลี่สร้างขึ้นเมื่อกว่า 1,000 ปีก่อนโน้น ถึงแม้ได้ผ่านกาลเวลามาช้านาน แต่เมืองโบราณแห่งนี้ก็ยังคงอยู่ในสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ นักท่องเที่ยวจะเห็นประตูเมืองทั้งด้านใต้และด้านเหนือที่มีสถาปัตยกรรมสอดรับกัน ตามสองฟากของถนนสายเก่าแก่มีบ้านโบราณปลูกสร้างไว้อย่างกระจัดกระจาย มีถนนสายเก่าแก่ที่ตัดผ่านตัวเมืองโบราณสายหนึ่งซึ่งทุกวันนี้ได้กลายเป็นถนนย่านการค้าที่เจริญคึกคัก ตามสองข้างถนนเต็มไปด้วยร้านค้าต่างๆ มีพ่อค้าชาวไป๋ที่แต่งชุดประจำเผ่ากำลังค้าขายสินค้าพื้นเมืองต่างๆ เช่น หินอ่อนต้าหลี่ ผ้าพื้นเมืองและเครื่องเงิน เป็นต้น