ดับเบิลเบส (Double bass) มีชื่อเรียกหลายชื่อเช่น สตริงเบส (String Bass) คอนทราเบส (Contra Bass) เบสวิโอล (Bass Viol) ดับเบิลเบสเป็นเครื่องดนตรีที่ที่นิยมเล่นใน วงออร์เคสตรา และ วงเครื่องสาย ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากโลกตะวันตก เป็นหนึ่งในเครื่องดนตรีตระกูลไวโอลิน อันประกอบไปด้วยไวโอลิน วิโอล่า เชลโล และ ดับเบิลเบส มีความสูงมาตรฐานประมาณ 74 นิ้ว ดับเบิ้ลเบสเป็นเครื่องดนตรีเพียงชิ้นเดียวที่อาจจะกล่าวได้ว่ามีความสัมพันธ์กับซอวิโอล (Viol) อย่างแท้จริง โดยสืบทอดมาจาก Violone ซอวิโอลขนาดใหญ่ (Big Viol) ซึ่งเล่นในช่วงเสียง 16 ช่วงเสียง (เสียงของมันจะต่ำกว่าโน้ตที่เขียน 1 ช่วงเสียง)
ส่วนนักดับเบิ้ลเบสคนอื่นๆ ซึ่งทำให้ดับเบิ้ลเบสเป็นที่รู้จัก ได้แก่ นักดับเบิ้ลเบสชาวอังกฤษ เช่น Eugene Cruft, Rodney Slatford และ Duncan Mctier ผู้ซึ่ง Maxwell Davies ได้อุทิศคอนแชร์โตให้กับเขา
ฟ้าสวยอยู่ในศตวรรษที่ 18 ดับเบิ้ลเบสมักจะถูกใช้ในฐานะเครื่องดนตรี 16 ช่วงเสียงในวงเครื่องลม แต่ในปัจจุบันดับเบิ้ลเบสได้รับการยอมรับในฐานะของวงออร์เคสตร้าเครื่องลมและวงดนตรีแจ๊ส วงดนตรีแจ๊สมาตรฐาน 17 ชิ้นในยุคทศวรรษที่ 1930 หรือ 1940 มักจะบรรจุดับเบิ้ลเบสเอาไว้ในวง นอกจากนั้นยังมีแซกโซโฟน เปียโน กีตาร์ เบส และกลอง ปัจจุบันดับเบิ้ลเบสมักจะบรรเลงด้วยเทคนิค Pizzicato แต่บางครั้งจะใช้เทคนิคการตบเบส ซึ่งสายเบสจะไปกระทบกับฟิงเกอร์บอร์ด และขยับจากการเล่นทำนองเพียงอย่างเดียวไปเป็นนักเดี่ยวดับเบิ้ลเบสของดนตรีแจ๊สตามแบบของมันเอง
นักดับเบิ้ลเบสแจ๊สในยุคแรกๆ เช่น John Lindsay และ ‘Pop’ Foster หรือในชื่อจริงคือ (Murphy Foster) ทั้งคู่แสดงอยู่ในวงของ Louis Armstrong ในช่วงทศวรรษที่ 1930 ส่วน Walter Page และ Charles Mingus คือนักดับเบิ้ลเบสที่โดดเด่นในทศวรรษที่ 1940 และนักดับเบิ้ลเบสรุ่นหลังๆ เช่น Ron Carter ประสบความสำเร็จในการใช้ Piccolo bass ขนาดเล็ก และยังได้เขียนตำราการเล่นดับเบิ้ลเบสในแบบแจ๊สขึ้นอีกด้วย
Gary Karr นักดับเบิ้ลเบสชาวอเมริกันซึ่งเกิดในตระกูลนักดับเบิ้ลเบส เขาประสบผลสำเร็จในการเชื่อมโลกดนตรีคลาสสิกและแจ๊สเข้าด้วยกัน ในฐานะนักดนตรีวงออร์เคสตร้าเขาปรากฏตัวร่วมกับวงดนตรีแชมเบอร์ระดับโลกหลายวง แต่ความสนใจของเขาได้ขยายไปสู่การเล่นเบสในบทเพลงร่วมสมัย และทำให้เขาได้รับมอบหมายให้ประพันธ์ผลงานเพลงอีกหลายบท