ค้นหา
  
Search Engine Optimization Services (SEO)

ซิตีออฟแมนเชสเตอร์

สนามกีฬาซิตีออฟแมนเชสเตอร์ (อังกฤษ: City of Manchester Stadium) หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ สนามกีฬาอัลติฮัด (อังกฤษ: Etihad Stadium) ด้วยเหตุผลตามชื่อผู้สนับสนุน หรือในบางครั้งอาจเรียกว่า คอมส์ (CoMS) หรือ อีสต์แลนส์ (Eastlands) เป็นสนามกีฬาในเมืองแมนเชสเตอร์ เป็นสนามกีฬาเหย้าของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี เป็นสนามกีฬาใหญ่เป็นอันดับ 5 ของทีมพรีเมียร์ลีก และใหญ่เป็นอันดับ 12 ในสหราชอาณาจักร มีจำนวนที่นั่ง 47,805 ที่

เดิมทีสนามกีฬามีวัตถุประสงค์สำหรับเป็นสนามแข่งกีฬาหลักในกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2000 ที่สหราชอาณาจักรพลาดการประมูลไป จนได้ชนะการประมูลในการแข่งขันกีฬาเครือจักรภพ 2002 หลังจบการแข่งขันได้ลดความจุสนามจาก 80,000 คน ไปเป็น 50,000 คน สนามแห่งนี้ก่อสร้างโดยเลียงคอนสตรักชัน ด้วยงบประมาณ 112 ล้านปอนด์ โดยออกแบบโดยอารัปสปอร์ต

เพื่อแน่ใจว่าจะไม่ใช่โครงการที่เสี่ยง แมนเชสเตอร์ซิตีจึงตัดสินใจรับสนามกีฬาแห่งนี้แทนที่สนามกีฬาเก่า เมนโรด ทันทีที่การแข่งขันจบลง ก็ได้มีการเพิ่มที่นั่งลดหลั่นเจาะลงไปในลู่วิ่งเดิม การปรับปรุงนี้ทางสภาเทศบาลเมืองแมนเชสเตอร์จ่ายไป 22 ล้านปอนด์ และแมนเชสเตอร์ซิตีจ่ายเพิ่มอีก 20 ล้านปอนด์ และเพิ่มที่จำหน่ายเครื่องดื่ม ร้านอาหาร และพื้นที่สันทนาการอื่น สโมสรย้ายเข้ามาใช้สนามแห่งใหม่ระหว่างช่วงฤดูร้อน ค.ศ. 2003

นอกจากแข่งขันกีฬาแล้ว ยังใช้จัดนัดแข่งขันยูฟ่าคัพ 2008 นัดการแข่งขันฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ นัดแข่งขันรักบี้ระหว่างประเทศ แข่งขันมวย และคอนเสิร์ตอีกหลายคอนเสิร์ต

ชื่อสนาม ซิตีออฟแมนเชสเตอร์ ตั้งชื่อโดยสภาเทศบาลเมืองแมนเชสเตอร์ ก่อนที่การก่อสร้างจะเริ่มขึ้นในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1999 แต่ก็มีการใช้ชื่ออื่นอีกหลายชื่อ อีสต์แลนด์ เป็นชื่อเรียกสถานที่ก่อสร้างและสนามกีฬา ก่อนที่จะตั้งชื่อว่า สปอร์ตซิตี และ คอมส์ ตามลำดับ และเป็นชื่อที่ใช้ประจำ สำหรับสนามกีฬาและโครงการกีฬาทั้งหมด ใช้ชื่อว่า สปอร์ตซิตี ส่วนชื่อ ซิตีออฟแมนเชสเตอร์ (City of Manchester Stadium) จะย่อเขียนย่อว่า CoMS และภาษาพูดเรียกว่า เดอะบลูแคมป์ ล้อมาจากชื่อสนามกัมนอว์ ของสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา หลังจากที่อาบูดาบียูไนเต็ดกรุปเข้าดูแลสโมสรในปี ค.ศ. 2008 ผู้สนับสนุนบางคนเรียกชื่อสนามติดตลกว่า มิดเดิลอีสต์แลนด์

ภายใต้การดูแลของเจ้าของใหม่ สโมสรได้เจรจาสัญญาเช่าใหม่กับสภาเทศบาลเมืองในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2010 โดยเช่าสถานที่เป็นระยะเวลา 250 ปี และขอเพิ่มสิทธิ์ในการใช้ชื่อ ในการแลกเปลี่ยนกับค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นมาก โดยขอเปลี่ยนชื่อสนามมาเป็น สนามกีฬาอัลติฮัด ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2011 ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงการสนับสนุนสโมสรเป็นเวลา 10 ปี บนชุดกีฬาที่ปักชื่อ สายการบินเอติฮัด ข้อตกลงนี้รวมถึงชื่อของสนามกีฬาด้วย รวมถึงแผนการย้ายสโมสรเยาวชนและสิ่งอำนวยความสะดวกในการฝึกซ้อม ไปยังที่แห่งใหม่ คือ วิทยาลัยเอติฮัด ที่อยู่ใกล้กับสนาม

แผนการก่อสร้างสนามกีฬาแห่งใหม่ในเมืองแมนเชสเตอร์เริ่มมีขึ้นก่อนปี ค.ศ. 1989 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่เมืองประมูลในการเป็นผู้จัดการโอลิมปิกฤดูร้อน 1996 สภาเทศบาลเมืองแมนเชสเตอร์ได้เสนอการประมูลแบบสนามกีฬา 80,000 ที่นั่ง บริเวณพื้นที่สีเขียวทางตะวันตกของแมนเชสเตอร์ แต่การประมูลก็ตกไปเมื่อแอตแลนตาได้เป็นเมืองเจ้าภาพ อีก 4 ปีต่อมา สภาเทศบาลฯ ก็ได้ยื่นประมูลเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูร้อน 2000 แต่ครั้งนี้มุ่งตำแหน่งสนามกีฬาไปที่รกร้างทางตะวันออกของศูนย์กลางเมือง 1.6 กิโลเมตร (0.99 ไมล์) บริเวณเหมืองร้างแบรดฟอร์ดโคลเลียรี หรือรู้จักในชื่อ อีสต์แลนส์ การเปลี่ยนสถานที่ของสภาเทศบาลฯ เกิดจากการออกกฎหมายผลักดันในการบูรณะเขตเมือง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากหลายโครงการ รัฐบาลมีส่วนในการหาเงินและทำความสะอาดสถานที่ของอีสต์แลนส์ ในปี ค.ศ. 1992

ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1993 สภาเทศบาลฯ ได้เปิดประมูลรับแบบของสนามกีฬา 80,000 ที่นั่ง อีกแบบ โดยได้บริษัทอารัป เป็นผู้ดูแลงาน บริษัทได้ช่วยเลือกอีสต์แลนด์เป็นสถานที่ก่อสร้างด้วย ต่อมาในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1993 กำหนดให้ซิดนีย์เป็นเมืองเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ในปีต่อมาแมนเชสเตอร์ได้เสนอแบบเดียวให้กับโครงการปรับปรุงเมืองในช่วงสหัสวรรษ มิลเลนเนียมคอมมิสชัน โดยเสนอชื่อเป็น "มิลเลนเนียมสเตเดียม" แต่โครงการนี้ก็ตกไป ต่อมาสภาเทศบาลฯ ยังคงเสนอประมูลเจ้าภาพกีฬาเครือจักรภพ 2002 เป็นอีกครั้งที่ได้เสนอในพื้นที่เดิม และผังแบบจากการประมูลโอลิมปิกฤดูร้อน 2000 และครั้งนี้ก็ประมูลสำเร็จ ในปี ค.ศ. 1996 แบบสนามกีฬาเดียวกันนี้ที่ใช้ในการแข่งขันกับสนามกีฬาเวมบลีย์ ในการหาทุนในการสร้างสนามกีฬาแห่งชาติแห่งใหม่ แต่งบก็ถูกใช้ในการพัฒนาเวมบลีย์แทน

สนามกีฬาได้วางศิลาฤกษ์โดยนายกรัฐมนตรี โทนี แบลร์ ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1999 และเริ่มก่อสร้างในเดือนมกราคม ค.ศ. 2000 สนามกีฬาออกแบบโดยอารัป และก่อสร้างโดยเลียงคอนสตรักชัน ด้วยงบประมาณราว 112 ล้านปอนด์ โดยได้มาจากสปอร์ตอิงแลนด์ 77 ล้านปอนด์ และที่เหลือเป็นการหารายได้จากสภาเทศบาลฯ สำหรับการแข่งขันกีฬาเครือจักรภพ แถวที่นั่งเดี่ยวชั้นล่าง จะวิ่งไปรอบลู่วิ่งทั้ง 3 ด้าน ส่วนแถวที่นั่งชั้นบนจะวิ่งไป 2 ด้าน มีอัฒจันทร์ชั่วคราวไม่มีหลังคาคลุมที่ปลายสุด มีที่นั่งสำหรับการแข่งขันนี้ราว 38,000 ที่นั่ง

เปิดใช้ครั้งแรกในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเครือจักรภพ 2002 เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ค.ศ. 2002 โดยสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 พระราชทานสุนทรพจน์และเปิดพิธีแข่งขัน โดยในการแข่งขัน 10 วัน สนามกีฬาใช้จัดการแข่งขันกรีฑาและรักบี้ฟุตบอล 7 คน เกิดสถิติในการแข่งขันครั้งนี้อาทิ เขย่งก้าวกระโดดหญิง และวิ่ง 5000 เมตรหญิง

หลังจากประสบความสำเร็จในการจัดแข่งขันกีฬาในกีฬาเครือจักรภพ 2002 แนวคิดที่จะเปลี่ยนสนามกีฬามาเป็นสนามฟุตบอลนั้นก็ได้รับเสียงวิจารณ์จากนักกีฬาอย่าง โจนาทาน เอดเวิดส์ และเซบาสเตียน โค เนื่องจากสหราชอาณาจักรขาดแคลนสนามแข่งขันกรีฑา สภาเทศบาลฯ ตั้งใจไว้ว่าจะคงลู่วิ่งไว้และจะติดตั้งที่นั่งที่ถอดได้หลังจากการแข่งขันกีฬาเครือจักรภพ โดยข้อเสนอที่ได้รับอนุญาต มีที่นั่งราว 60,000 ที่นั่ง แต่ต้องใช้งบประมาณราว 50 ล้านปอนด์ เมื่อเปรียบเทียบกับงบ 22 ล้านปอนด์ สำหรับการรื้อลู่วิ่งและมีความจุเพียง 48,000 ที่นั่ง บริษัทสถาปนิก อารัป เชื่อว่าจากในประวัติศาสตร์นั้น แสดงให้เห็นว่า การเก็บลู่วิ่งสำหรับการปรับเปลี่ยนมาเป็นสนามฟุตบอล โดยมากแล้วลู่วิ่งจะไม่ค่อยได้ใช้งาน และไม่เหมาะสมกับสนามฟุตบอล และยกตัวอย่างสนามอย่างเช่น สตาดีโอเดลเลอัลปี และสนามโอลิมปิก สเตเดียม มิวนิก ที่ทั้งสโมสรฟุตบอลยูเวนตุสและบาเยิร์น มิวนิก ได้ย้ายมายังสนามกีฬาแห่งใหม่ไม่ถึง 40 ปีหลังใช้งานต่อ สภาเทศบาลฯ ไม่อยากให้เกิดโครงการที่ดูแลรักษายาก ดังนั้น เพื่อให้สนามกีฬามีอายุการใช้งานในด้านงบการเงิน จึงดำเนินงานเพิ่มเติมโดยเปลี่ยนสนามและลู่วิ่งมาเป็นสนามกีฬาฟุตบอล

ได้มีการรื้อลู่วิ่งออกและนำไปใช้ในสนามกีฬาแห่งอื่น ได้มีการทำชั้นระดับดินให้ต่ำลงมาเพื่อให้สามารถเพิ่มที่นั่งได้ และรื้ออัฒจันทร์ชั่วคราวออก แทนที่ด้วยโครงสร้างถาวร ในรูปแบบการออกแบบคล้ายกันบริเวณปลายของทิศใต้ งานนี้ใช้เวลาทำงานเกือบปี และเพิ่มที่นั่งอีก 10,000 ที่นั่ง สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตีได้ใช้สนามกีฬาแห่งนี้เป็นสนามกีฬาเหย้าเมื่อเริ่มฤดูกาล 2003–04 ใช้งบประมาณในการปรับปรุงสนามเกินงบไป 40 ล้านปอนด์ โดยปรับเปลี่ยนในส่วนทางเดิน สนามแข่ง และที่นั่ง ที่ได้งบประมาณมาจากสภาเทศบาล 22 ล้านปอนด์ และเพิ่มที่จำหน่ายเครื่องดื่ม ร้านอาหาร และพื้นที่สันทนาการอื่น งบประมาณส่วนนี้มาจากสโมสร ใช้งบ 20 ล้านปอนด์

นัดแข่งขันฟุตบอลครั้งแรกของสนาม เป็นนัดกระชับมิตรระหว่างแมนเชสเตอร์ซิตีกับบาร์เซโลนา เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ค.ศ. 2003 โดยแมนเชสเตอร์ซิตีชนะ 2–1 โดยนีกอลา อาแนลกาเป็นคนยิงประตูแรกในการเปิดสนามแห่งนี้

ส่วนการแข่งขันแรกในระบบการแข่งขัน เกิดขึ้นถัดจากนั้น 4 วัน ในถ้วยยูฟ่าคัพ ระหว่างแมนเชสเตอร์ซิตีกับทีมจากเวลส์พรีเมียร์ลีก สโมสรฟุตบอลเดอะนิวเซนส์ โดยแมนเชสเตอร์ซิตีชนะ 5–0 โดยเทรเวอร์ ซินแคลร์เป็นผู้ยิงประตูแรกในนัดการแข่งขันแรกในระบบการแข่งขันของสนามแห่งนี้ เมื่อเริ่มฤดูกาลในพรีเมียร์ลีก แมนเชสเตอร์ซิตีเป็นทีมเยือน ดังนั้นนัดการแข่งขันที่บ้านนัดแรกของสนามแห่งนี้มีขึ้นวันที่ 23 สิงหาคม ผลการแข่งขันเสมอกับสโมสรฟุตบอลพอร์ตสมัท 1–1 โดยยาคูบู ยิงประตูแรกของสนามกีฬาแห่งนี้ในการแข่งขันลีก

จนถึงวันนี้ สถิติผู้เข้าชมมากสุด อยู่ที่ 47,408 คน ในนัดการแข่งขันในพรีเมียร์ลีก เจ้าบ้านแข่งกับสโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ค.ศ. 2011 การแข่งขันครั้งนี้ยังสร้างสถิติใหม่ให้กับสโมสรและพรีเมียร์ลีก คือ แมนเชสเตอร์ซิตีเป็นทีมแรกที่ชนะ 11 เกม จาก 12 เกมแรกของฤดูกาลในพรีเมียร์ลีก

เมื่ออยู่ในขั้นตอนการพัฒนา สภาเทศบาลเมืองแมนเชสเตอร์ต้องการโครงสร้างที่เป็นจุดสังเกตที่ยั่งยืน ที่สามารถเป็นสัญลักษณ์ของการปฏิรูป ที่ครั้งหนึ่งในสถานที่ก่อสร้าง แบรดฟอร์ดโคลเลียรี เคยเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมหนัก เช่นเดียวกับให้ผู้ชมเห็นแนวสายตาที่สวยงามในบรรยากาศของสนามกีฬา บริษัทอารัปได้ "ออกแบบสนามกีฬาให้ดูคุ้นเคย ไม่ข่ม เป็นสนามกีฬาต่อสู้ที่รวมบรรยากาศของสโมสรฟุตบอลไว้" โดยพื้นสนามแข่งอยู่ลึกลงไป 6 เมตรจากระดับพื้นดิน และมีรูปแบบบรรยากาศสนามกีฬาโรมันและมีแอมฟิเทียร์เตอร์

ภายนอกสนาม สร้างความโดดเด่นโดยเสากระโดง 12 ต้นที่พยุงหลังขาของสนามที่มีรูปทรงเหมือนห่วงยาง โดยใช้ระบบสายเคเบิล ซึ่งแตกต่างจากสนามกีฬาอื่นที่มักใช้ระบบเสา-คาน รับน้ำหนัก โดยสายเคเบิลได้ยึดติดเข้ากับเสากระโดง 12 ต้น รอบทั้งสนาม และมีคานค้ำหลังคาและแป รับหลังคาอื่น นอกจากนั้นยังมีเสากระโดงยังเพิ่มความสวยงาม ซึ่งมีความสูงสูงสุดที่ 75 เมตร (246 ฟุต) เข้าถึงที่นั่งชั้นบนโดยมีทางลาดรูปร่างกลม ที่มีส่วนบนสุดเป็นรูปทรงกรวย มีรูปร่างคล้ายหอคอย โดยมีเสากระโดง 8 ต้น (จาก 12 ต้น) ที่รับน้ำหนักของโครงสร้างหลังคา

หลังคาทางทิศใต้ ทิศตะวันออก และอัฒจันทร์ทางทิศตะวันตก ที่มีโครงสร้างภายนอกสร้างแบบสนามกีฬากรีฑา ใช้ระบบสายเคเบิลรับน้ำหนัก ส่วนอัฒจันทร์ชั่วคราวแบบเปิดโล่งทางปลายสุดของทิศเหนือ สร้างล้อมรอบเสากระโดงและยึดติดกับสายเคเบิล ที่รับน้ำหนักของหลังคาอัฒจันทร์ทิศเหนือ หลังจากจบการแข่งขันกีฬาเครือจักรภพ ก็ได้ขุดดินบริเวณลู่วงและสนามลงไป และได้นำอัฒจันทร์กลางแจ้งชั่วคราวทางทิศเหนือออกไป และอัฒจันทร์ทิศเหนือและที่นั่งชั้นล่างก็ได้มีการก่อสร้างปรับปรุงเพื่อเตรียมการสำหรับขุดดิน หลังคาอัฒจันทร์ทิศเหนือเพิ่มคานค้ำหลังคา แป และเพิ่มวัสดุหุ้มตกแต่งอาคาร โดยใช้เวลาการปรับปรุงราว 1 ปี และเพิ่มจำนวนที่นั่งได้อีกราว 10,000 ที่นั่ง

สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักฟุตบอลและเจ้าหน้าที่ อยู่บริเวณชั้นใต้ดิน ใต้อัฒจันทร์ทิศตะวันตก มีครัวที่สามารถรองรับการเสิร์ฟอาหารให้คน 6,000 คน ในวันแข่งขัน มีห้องสื่อมวลชน ห้องเก็บของเจ้าหน้าที่สนาม และห้องกักขังผู้กระทำความผิด ส่วนอุปกรณ์บริการ ครัว สำนักงาน และทางเดิน ออกแบบโดย เคเอสเอสอาร์คิเทกส์ รวมถึงการติดตั้งเคเบิลสื่อสายและระบบการควบคุมการเข้าออกของรถ สนามกีฬายังมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการประชุมและมีใบอนุญาตให้การประกอบพิธีแต่งงานอีกด้วย

เพื่อให้ได้หญ้าที่ดีที่สุดในสนาม จึงมีการออกแบบหลังคาให้หญ้าได้รับแสงอาทิตย์มากที่สุด โดยหลังคาใช้โพลีคาร์บอเนตโปร่งแสง 10 เมตร ที่ส่วนปลายและมุมของหลังคาของสนามกีฬา และมีผนังเจาะรูระบายอากาศ ให้ลมไหลผ่านลงสู่สนามได้ มีการติดตั้งระบายน้ำและระบบทำความร้อนใต้พื้นสนามแข่ง เพื่อให้หญ้าเจริญเติบโตได้ดีที่สุด

เมื่อใช้สมาร์ตการ์ดแบบไร้สัมผัส ผู้ชมสามารถเข้าสนามได้เร็วขึ้นกว่าระบบทางเข้าแบบเหล็กหมุนแบบเดิม โดยระบบสามารถรองรับคนได้ถึง 1,200 คนต่อนาทีจากทุกทางเข้าออก มีอุโมงค์บริการใต้สนามกีฬาสำหรับยานพาหนะฉุกเฉินและรถโคชของทีมเยือนให้เข้าสนามได้โดยตรง ส่วนสนับสนุนสนามกีฬาภายในสามารถเข้าถึงร้านอาหาร 6 แบบ โดย มี 2 ร้านที่มีมุมมองเห็นสนามแข่ง และมีที่นั่งชมเกมบนที่นั่งพิเศษ 70 ชุด เหนือที่นั่งชั้นสองทางอัฒจันทร์ทิศเหนือ ทิศตะวันตก และทิศตะวันออก

ภายในสนามกีฬามีรูปร่างชามรูปไข่ ด้านยาวมีที่นั่ง 3 ชั้น และมีที่นั่ง 2 ชั้นที่ด้านกว้าง เป็นที่นั่งยาวต่อเนื่อง แต่ละด้านของอัฒจันทร์มีการตั้งชื่อตามรูปแบบทั่วไปของสนามฟุตบอล เริ่มแรกแต่ละด้านของอัฒจันทร์มีชื่อตามทิศ (อัฒจันทร์ทิศเหนือ และ อัฒจันทร์ทิศใต้ ที่ด้านกว้าง และอัฒจันทร์ทิศตะวันออก และอัฒจันทร์ทิศตะวันตก ทีด้านยาว) ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2004 หลังจากได้รับการลงคะแนนเสียงจากแฟนฟุตบอล อัฒจันทร์ทิศตะวันตก เปลี่ยนชื่อมาเป็น อัฒจันทร์โคลิน เบลล์ เพื่อเป็นเกียรติให้กับอดีตนักฟุตบอล อัฒจันทร์ทิศใต้ เปลี่ยนชื่อมาเป็น คีย์ 103 ตามชื่อผู้สนับสนุนตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003-2006 ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากแฟนฟุตบอลสำหรับชื่อนี้

บางส่วนของอัฒจันทร์ทิศเหนือออกแบบมาสำหรับเป็นอัฒจันทร์ครอบครัว ที่มากับเด็ก ๆ โดยตั้งชื่อว่า อัฒจันทร์แฟมิลีสแตนด์ แต่ตั้งแต่ฤดูกาล 2010–11 ทั้งหมดของอัฒจันทร์ทิศเหนือก็จัดสรรให้สำหรับเป็นอัฒจันทร์สำหรับครอบครัว ส่วนอัฒจันทร์ทิศตะวันออกเป็นที่รู้จักอย่างไม่เป็นทางการว่า คิปแปกซ์ สอดคล้องกับอัฒจันทร์ที่สนามเมนโรด ส่วนผู้ชมของทีมเยือน จะนั่งที่อัฒจันทร์ทิศใต้

สนามแข่งเป็นไปตามมาตรฐานของยูฟ่า คือ 105 × 68 เมตร (115 × 74 หลา) พื้นสนามเป็นสนามหญ้าจริง ทำให้แข็งแรงยิ่งขึ้นโดยเส้นใยประดิษฐ์ ด้วยการใช้หญ้าเดสโซ ระบบแสงสว่างใช้ไฟ 2000-วัตต์ 218 ดวง บริเวณที่ไม่มีที่นั่งที่แต่ละมุมของสนาม มีช่องระบายอากาศที่ถอดย้ายได้ ให้ลมไหลผ่านลงสนาม สนามกีฬานี้ถือว่าเป็นหนึ่งในสนามกีฬาฟุตบอลอังกฤษที่ดีที่สุด ได้รับการเสนอชื่อ 5 ครั้ง ใน 9 ฤดูกาลล่าสุด ในการเป็นสนามแข่งพรีเมียร์ลีกที่ดีที่สุด และได้รับรางวัลในฤดูกาล 2010–11 นอกจากนั้นยังได้รับรางวัลอื่นอีกเช่นกัน

สนามกีฬานี้เป็นศูนย์กลางในสปอร์ตซิตี ที่มีสถานที่แข่งขันกีฬาหลายแห่ง ถัดจากสนามกีฬาคือ แมนเชสเตอร์รีเจียนนอลอารีนา ที่เป็นสนามอุ่นเครื่องกรีฑาในระหว่างการแข่งขันกีฬาเครือจักรภพ และปัจจุบันมีความจุ 6,178 ที่นั่ง เป็นสถานที่จัดการทดสอบกีฬาระดับชาติหลายชนิด และเคยเป็นสนามของทีมสำรองแมนเชสเตอร์ซิตี มีสนามแมนเชสเตอร์เวโลโดรมและเนชันนอลสควอร์ชเซนเตอร์ ที่อยู่ไม่ไกลจากสนามกีฬา ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2006 แมนเชสเตอร์ซิตีมีแผนที่จะก่อสร้างกังหันลม สูง 85 เมตร ออกแบบโดยนอร์แมน ฟอสเตอร์ โดยตั้งใจไว้ว่าจะให้พลังงานแก่สนามกีฬาและบ้านเรือนใกล้เคียง แต่โครงการนี้ก็ตกไป เพราะกลัวว่าน้ำแข็งบนใบพัดอาจเกิดความไม่ปลอดภัยได้ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2005 ถึง 2009 ได้มีผลงานประติมากรรม บีออฟเดอะแบ็ง ของโทมัส ฮีเทอร์วิก วางอยู่ด้านหน้าของสนามกีฬา สร้างเพื่อเฉลิมฉลองกีฬาเครือจักรภพ 2002 เป็นประติมากรรมที่สูงที่สุดในสหราชอาณาจักร แต่มีปัญหาด้านโครงสร้าง ทำให้ประติมากรรมนี้แตกออกในปี ค.ศ. 2009

ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2007 มีการประกาศออกมาว่าจะสร้างซูเปอร์คาสิโน แห่งแรกในสหราชอาณาจักร ที่สปอร์ตซิตี แต่โครงการนี้ก็ตกไปอีกเช่นกันหลังจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวัฒนธรรม สื่อ และกีฬา ปฏิเสธโครงการนี้

ในการแข่งขันกีฬาเครือจักรภพ 2002 คาดว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก และสนามกีฬาได้รับเสียงวิจารณ์ด้านบวก ในเรื่องบรรยากาศและการออกแบบสถาปัตยกรรม สนามได้รับหลายรางวัลด้านการออกแบบ รวมถึงรางวัลจาก สมาคมสถาปนิกอังกฤษ ปี ค.ศ. 2004 ประเภทการออกแบบทั่วไป สำหรับการออกแบบอาคาร และในปี ค.ศ. 2003 ได้รับรางวัลสถาบันวิศวกรโครงสร้าง สาขารางวัลโครงสร้างพิเศษ

ส่วนการตอบรับจากผู้สนับสนุนทีมแมนเชสเตอร์ซิตี แบ่งออกเป็น 2 ขั้ว ด้านหนึ่งไม่เต็มใจจากการย้ายมาจากเมนโรด เพราะมีกิตติศัพท์ว่าเป็นหนึ่งในสนามฟุตบอลอังกฤษที่มีบรรยากาศดีที่สุด ในขณะที่อีกด้านหนึ่งแสดงความสนใจในเรื่องสนามที่ใหญ่กว่าและได้ย้ายกลับไปแมนเชสเตอร์ตะวันออก ที่ซึ่งสโมสรก่อตั้งขึ้น ปัจจุบันสโมสรอ้างว่าขายบัตรเข้าตลอดฤดูกาลได้ 33,000 ใบ ในแต่ละฤดูกาล ซึ่งมากกว่าจำนวนจุสูงสุดของเมนโรด

จากการสำรวจในพรีเมียร์ลีกปี ค.ศ. 2007 พบว่าแฟนฟุตบอลเห็นว่าสนามแห่งนี้มีความสวยงามเป็นอันดับ 2 ในพรีเมียร์ลีก รองจากสนามเอมิเรตส์สเตเดียม ขณะเดียวกับแฟนของทีมคู่แข่งต่างให้ความเห็นด้านบวก โดยให้เป็นรองจากโอลด์แทรฟฟอร์ด จากการสำรวจในปี ค.ศ. 2005 ในหัวข้อสนามที่ชื่นชอบที่สุดในสหราชอาณาจักร ในปี ค.ศ. 2010 เป็นอันดับ 3 ของสนามที่มีการเยี่ยมชมจากต่างประเทศมากที่สุดรองจากโอลด์แทรฟฟอร์ดและแอนฟีลด์

ในช่วงปีแรก แมนเชสเตอร์ซิตีประสบกับความหนักใจกับบรรยากาศที่แย่ จากปัญหาของสนามสมัยใหม่เมื่อเปรียบเทียบกับสนามดั้งเดิมอย่างเมนโรด ในปี ค.ศ. 2007 จากการสำรวจผู้สนับสนุนแมนเชสเตอร์ซิตีในพรีเมียร์ลีก ให้คะแนนสนามว่ามีบรรยากาศแย่ที่สุดในลีกเป็นอันดับ 2 แต่ต่อมาก็พัฒนาบรรยากาศของสนามเรื่อยมา

สภาเทศบาลเมืองแมนเชสเตอร์เป็นเจ้าของสนามกีฬาโดยสโมสรฟุตบอลได้เช่าสนามกีฬา จนเมื่อปี ค.ศ. 2008 หลังจากที่เปลี่ยนเจ้าของ สโมสรแห่งนี้อันเป็นสโมสรที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ก็ได้พิจารณาข้อเสนอการซื้อสนามกีฬาแห่งนี้โดยทันที แมนเชสเตอร์ซิตีได้เซ็นสัญญาตกลงกับสภาเทศบาลฯ เมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ. 2010 เป็นเงิน 1 พันล้านปอนด์ในการพัฒนาสนามแห่งนี้ โดยมีสถาปนิกคือ ราฟาเอล บีโญลย์

ในช่วงปิดฤดูกาล 2010 ได้มีการบูรณะพื้นสนามฟุตบอลและพื้นที่อำนวยความสะดวกด้วยเงิน 1 ล้านปอนด์ โดยยังสามารถหารายได้เข้าสโมสรได้ โดยยอมให้มีการจัดคอนเสิร์ตหรืองานต่าง ๆ ที่ไม่เกิดความเสียหายต่อสนาม ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2010 แมนเชสเตอร์ซิตีได้กลับมาต่อรองสัญญาเช่าของสนาม โดยจ่ายให้สภาเทศบาลฯ เป็นจำนวน 3 ล้านปอนด์ต่อปี โดยก่อนหน้านี้จะจ่ายเพียงรายได้ครึ่งหนึ่งของค่าบัตรเข้า ในนัดที่มีผู้ชมมากกว่า 35,000 คน ข้อตกลงใหม่นี้เป็นส่วนหนึ่งของการเช่าเดิมที่จะมีการพิจารณาค่าเช่าทุก 5 ปี และมีแนวโน้มว่าจะสภาเทศบาลฯ จะมีรายได้เพิ่มขึ้นราว 1 ล้านปอนด์ต่อปี จากสนามกีฬาแห่งนี้

ในฤดูกาลล่าสุดและก่อนหน้านี้ สโมสรได้ขายบัตรเข้าชมตลอดฤดูกาลจำนวน 36,000 ใบได้หมด และปัจจุบันยังหาหนทางที่จะเพิ่มความจุสนาม ข้อตกลงของสโมสรกับสภาเทศบาลฯ ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2010 อนุญาตให้พัฒนารอบสนามและขยับขยายสนามให้จุได้ 60,000 คน การเพิ่มความจุสนามสามารถทำได้โดยเพิ่มที่นั่งชั้น 3 ทางอัฒจันทร์ทิศเหนือและใต้ ให้เท่ากับอัฒจันทร์ทิศตะวันออกและตะวันตก การขยับขยายสนามนี้เชื่อมโยงไปถึงคำพูดที่สโมสรเคยกล่าวไว้ว่า "การพัฒนาสมรรถภาพเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนการปฏิรูปแมนเชสเตอร์ตะวันออก"

ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2011 ได้มีการเปลี่ยนชื่อสนามมาเป็น สนามกีฬาอัลติฮัด (หรือเอทิฮัด) ตามชื่อผู้สนับสนุน คือ สายการบินอัลติฮัด แผนพัฒนาต่อมาคือได้เชื่อมต่อสนามเข้ากับมหาวิทยาลัยอัลติฮัด แผนพัฒนานี้เปิดเผยขึ้นในกลางเดือนกันยายน ค.ศ. 2011 สโมสรยังสร้างภาพลักษณ์สถาบันศึกษาของคนรุ่นใหม่นำสมัย และมีสิ่งอำนวยความสะดวกในการฝึกซ้อม โดยมีสนามกีฬาขนาดเล็กจุได้ 7,000 คน บริเวณพื้นที่ทิ้งร้างในสปอร์ตซิตี

สนามกีฬาตั้งอยู่ทางตะวันออกของศูนย์กลางเมืองแมนเชสเตอร์ สถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุดคือ แอชเบอรีส์ ใช้เวลาเดิน 20 นาทีจากสนามกีฬา อย่างไรก็ตามการให้บริการมีอย่างจำกัด สถานีแมนเชสเตอร์พิกแคดิลลี ที่มีเส้นทางเดินรถไฟจากลอนดอน เบอร์มิงแฮม และเอดินบะระ ใช้เวลาเดินจากสนาม 30 นาที โดยมีป้ายไฟส่องสว่างตลอดทางเดิน ยังมีผู้ดูแลใกล้กับสนามอีกด้วย ส่วนสถานีอัลติฮัดแคมปัสเมโทรลิงก์ บนเส้นทางแมนเชสเตอร์เมโทรลิงก์ ใกล้กับทางเดินโจเมอร์เซอร์เวย์ จะเปิดให้บริการในฤดูกาล 2012–13

มีเส้นทางรถประจำทางหลายสายจากศูนย์กลางเมือง ที่จอดที่สปอร์ตซิตีหรือบริเวณใกล้เคียง โดยในนัดวันแข่งขันจะมีรถประจำทางพิเศษจากศูนย์กลางเมืองมายังสนามกีฬา สนามมีที่จอดรถ 2,000 คัน และอีก 8,000 คันในบริเวณใกล้เคียงที่ดำเนินงานโดยธุรกิจเอกชนท้องถิ่น และโรงเรียนที่เป็นพันธมิตรกับสโมสรฟุตบอล

ภายใต้สัญญาเช่า แมนเชสเตอร์ซิตีสามารถนำสนามมาใช้จัดงานอื่นที่นอกเหนือจากฟุตบอลได้ เช่น คอนเสิร์ต มวย และรักบี้

นอกเหนือจากฟุตบอลแล้ว สนามยังใช้ในการจัดคอนเสิร์ตในบางโอกาส และเป็นหนึ่งในสถานที่จัดงานดนตรีที่ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร โดยสามารถรองรับคนได้มากสุด 60,000 คน

ถือเป็นสนามกีฬาที่ใหญ่ที่สุดที่ใช้ในการจัดคอนเสิร์ตในอังกฤษ ก่อนที่เวมบลีย์ใหม่จะสร้างขึ้น

คอนเสิร์ตแรกที่จัดขึ้นคือคอนเสิร์ตของเรดฮ็อตชิลิเป็ปเปอร์ส ร่วมด้วยเจมส์ บราวน์ในปี ค.ศ. 2004 คอนเสิร์ตของโอเอซิสที่จัดที่นี่ก็มีออกเป็นดีวีดี ในชื่อ Lord Don't Slow Me Down คอนเสิร์ตนี้ที่จัดในปี ค.ศ. 2005 มีผู้ชมสูงเป็นสถิติถึง 60,000 คน เทกแดดก็ออกดีวีดีคอนเสิร์ตที่แสดงที่นี่ในปี ค.ศ. 2006 ในชื่อชุด Take That: The Ultimate Tour

ส่วนศิลปินอื่นที่เคยมาเล่นที่สนามนี้ได้แก่ ยูทู, ร็อด สจ๊วต, ฟูไฟเตอร์ส, แมนิกสตรีตพรีชเชอร์ส, เดอะฟิวเจอร์เฮดส์, ซูกาเบบส์, บองโจวี, จอร์จ ไมเคิล และโซฟี เอลลิส-เบ็กซ์เตอร์

การจัดคอนเสิร์ตและมวยได้ทำลายพื้นสนามไป ในปี ค.ศ. 2008 หลังจบฤดูกาลได้มีการปรับปรุงพื้นสนาม และเมื่อนัดอุ่นเครื่องก่อนเปิดฤดูกาลเริ่มขึ้น สนามก็ไม่พร้อมจะเป็นสนามเหย้า ซึ่งสนามใช้จัดการแข่งขันยูฟ่าคัปนัดคัดเลือกรอบแรก จึงได้ไปจัดที่สนามกีฬาโอกเวลล์ของสโมสรฟุตบอลบาร์นสลีย์แทน

ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2010 สโมสรหารายได้ในการปรับปรุงสนามแข่งใหม่ และจึงได้มีการมาจัดคอนเสิร์ตในช่วงฤดูร้อนอีกครั้งในปี ค.ศ. 2011 โดยเทกแดดได้จัดคอนเสิร์ตเป็นเวลา 7 คืน มียอดขายตั๋วราว 400,000 ปอนด์

ยูฟ่าจัดสนามนี้อยู่ในประเภท 4 นอกจากจะเป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตีแล้ว ยังเป็นสนามฟุตบอลลำดับที่ 50 ที่จัดการแข่งขันระดับนานาชาติในอังกฤษ โดยแข่งขันระหว่างฟุตบอลทีมชาติอังกฤษกับฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 2004 และในวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 2005 ยังจัดนัดเปิดยูฟ่าแชมเปียนชิปหญิงที่อังกฤษเป็นเจ้าภาพ สร้างสถิติมีผู้ชมเข้าชมมากที่สุดสำหรับการแข่งขันนี้ ด้วยจำนวนคน 29,092 คน นอกจากนั้นยังจัดการแข่งขันยูฟ่าคัปนัดตัดสินในปี ค.ศ. 2008 ที่สโมสรฟุตบอลเซนิตเซนต์ปีเตอส์เบิร์กชนะเรนเจอส์ 2–0

ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2011 สนามได้จัดการแข่งขันฟุตบอลคอนฟีเรนซ์เนชันนอล รอบเพลย์ออฟนัดตัดสินระหว่างสโมสรฟุตบอลวิมเบิลดันกับสวินดันทาวน์ โดยวิมเบิลดันสามารถเลื่อนชั้นสู่ฟุตบอลลีก ด้วยการยิงจุดโทษชนะลูตันทาวน์ไปได้ ยังมีการใช้สนามในการแข่งรอบเพลย์ออฟยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกนัดตัดสิน ปี ค.ศ. 2011 แทนที่จัดที่เวมบลีย์ในวันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม ค.ศ. 2011 เนื่องจากทางยูฟ่าได้ได้กำหนดว่าสนามที่ใช้จัดแชมเปียนส์ลีกนัดตัดสินจะต้องไม่ใช้จัดการแข่งขันใดก่อนหน้านี้ 2 อาทิตย์

ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2004 สนามจัดการแข่งขันรักบี้ลีกนัดระหว่างประเทศระหว่างบริเตนใหญ่กับออสเตรเลีย ในรักบี้ลีกไตรเนชันส์ 2004 มีผู้เข้าชมเกือบ 40,000 คน สนามยังจะใช้ในการจัดเมจิกวีกเอนด์ ในวันที่ 26 และ 27 พฤษภาคม ค.ศ. 2012 ในการแข่งขันนี้มีทีม 14 ทีมจากซูเปอร์ลีกแข่งขันตลอดทั้งสุดสัปดาห์

ในวันที่ 24 พฤษภาคม ค.ศ. 2008 ริกกี้ แฮตตัน ผู้เกิดในสต็อกพอร์ต นักมวยเจ้าของแชมป์รุ่นซูเปอร์ไลท์เวททั้งจากสหพันธ์มวยนานาชาติและสมาคมมวยโลก ชนะควน ลัซกาโน ใช้ชื่อรายการแข่งขันว่า "แฮตตันส์โฮมคัมมิง" โดยมีผู้เข้าชม 56,337 คน สร้างสถิติผู้เข้าชมมากที่สุดของวงการมวยอังกฤษนับตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง


 

 

รับจำนำรถยนต์ รับจำนำรถจอด

วอร์เนอร์ แบ็กซ์เตอร์ เอมีล ยันนิงส์ รางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม สถาบันภาพยนตร์อเมริกัน ยูฮิ คุเรไน ทิวา เงินยวง ทิก กว๋าง ดึ๊ก พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 1 แห่งเซอร์เบีย เฮนรียุวกษัตริย์ ไชอา เลอบัฟ โจชัว แจ็กสัน ชเว จี-อู เมทินี กิ่งโพยม คัง โฮ ดง เจ้าชายเฮนริกแห่งเดนมาร์ก พระราชสวามี สมเด็จพระราชินีฟาบิโอลาแห่งเบลเยียม แอนน์ เนวิลล์ สมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ ขบวนรถด่วนพิเศษ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน เกรตแบริเออร์รีฟ แคเธอรีนแห่งอารากอน พระราชินีแห่งอังกฤษ วันสิ่งแวดล้อมโลก หลัว จิง สตีเฟน เครน เจ้าพระยาวิชาเยนทร์ สุทัตตา อุดมศิลป์ คณวัฒน์ จันทรลาวัณย์ สินิทธา บุญยศักดิ์ ฟ้าสั่ง พ.ธวัชชัย มาร์ก วาห์ลเบิร์ก แอดัม สมิท มอซิลลา โปรแกรมค้นดูเว็บ มูลนิธิมอซิลลา อมฤตสาร์ จอร์จ มาร์แชล แผนมาร์แชล Hungary Szeged หลอดรังสีคาโทด ฮอโลกราฟี วิทยาลัยอิมพีเรียลลอนดอน ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า 3 ตอน ศึกอภินิหารครูเสด แดรกคูลา บราม สโตกเกอร์ จีน เคลลี อาร์เอ็มเอสไททานิก สนธิสัญญาเฟซ Clannad อุจิวะ มาดาระ ตัวละครในฮายาเตะ พ่อบ้านประจัญบาน มอเตอร์เฮด เล็มมี วันไดเรกชัน ราณี แคมเปน อาราชิ ไอบะ มาซากิ ดิมา บิลาน ไรอัน ซีเครสต์ ริคกี้ มาร์ติน วันรำลึกถึงการล้างชาติพันธุ์โดยนาซี เจ. ดี. ซาลินเจอร์ จูเซปเป เวอร์ดิ มารัต ซาฟิน หลิน ซินหยู ฟั่น เหวินฟาง งามพรรณ เวชชาชีวะ ไททานิค เอ็ดเวิร์ด จอห์น สมิธ วาตภัย เครือรัฐออสเตรเลีย ศูนย์อวกาศเคนเนดี ซีอุย แซ่อึ้ง โรงเรียนเตรียมทหาร ค่ายกักกันเอาส์ชวิตซ์ เนชั่นแนล จีโอกราฟิก โค้ดกีอัส พระเจนดุริยางค์ (ปิติ วาทยะกร) หลวงพ่อโหน่ง อินฺทสุวณฺโณ ตู่ ภพธร หยกไท ศิษย์ อ. ราม นารายัณ มาร์กาเร็ตแห่งออสเตรีย สมเด็จพระราชินีแห่งสเปนและโปรตุเกส ราวัลปินดี เปอร์เวซ มูชาร์ราฟ ประธานาธิบดีสหภาพโซเวียต กรุงคาบูล สงครามในอัฟกานิสถานของโซเวียต เกาะเลย์เต แซนแอนโทนีโอ ซานตาโมนิกา ค.ศ. 1401 แคทเธอรินแห่งวาลัวส์ สมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ ค.ศ. 1322 ค.ศ. 1098 ค.ศ. 276 จักรพรรดิจิ้นหยวนตี้ ค.ศ. 323 ชอร์ดี มาซิป รถสูตรหนึ่ง

 

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45
46
47
48
49
50
51
52
53
54
55
56
57
58
59
60
61
62
63
64
65
66
67
68
69
70
71
72
73
74
75
76
77
78
79
80
81
82
83
84
85
86
87
88
89
90
91
92
93
94
95
96
97
98
99
100
101
102
103
104
105
106
107
108
109
110
111
112
113
114
115
116
117
118
119
120
121
122
123
124
125
126
127
128
129
130
131
132
133
134
135
136
137
138
139
140
141
142
143
144
145
146
147
148
149
150
151
152
153
154
155
156
157
158
159
160
161
162
163
164
165
166
167
168
169
170
171
172
173
174
175
176
177
178
179
180
181
182
183
184
185
186
187
188
189
190
191
192
193
194
195
196
197
198
199
200
201
202
203
204
205
206
207
208
209
210
211
212
213
214
215
216
217
218
219
220
221
222
223
224
225
226
227
228
229
230
231
232
233
234
235
236
237
จำนำรถราชบุรี รถยนต์ เงินด่วน รับจำนำรถยนต์ จำนำรถยนต์ จำนำรถ 23681