ซามูไร เซนไท ชินเคนเจอร์ (ญี่ปุ่น: ?????????? Samurai sentai Shinkenger ?) เป็นภาพยนตร์แนวขบวนการนักสู้ลำดับที่ 33 ของประเทศญี่ปุ่น เริ่มออกอากาศที่ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2009 จนถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2010 ทางสถานีทีวีอาซาฮี ทุกเช้าวันอาทิตย์ เวลา 7.30-8.00 น. ในช่วงซูเปอร์ฮีโร่ ไทม์ โดยออกอากาศทั้งหมด 49 ตอน , ตอนพิเศษทางโรงภาพยนตร์อีก 3 ตอน คือ ซามูไร เซนไท ชินเคนเจอร์ ฉบับจอเงิน , ซามูไร เซนไท ชินเคนเจอร์ VS โกออนเจอร์ ฉบับจอเงิน BANG! ฉายวันที่ 30 มกราคม ค.ศ. 2010 และ เทนโซ เซนไท โกเซย์เจอร์ VS ชินเคนเจอร์ เอพพิค ON จอเงิน ตอนพิเศษทางโอวีเอ อีก1ตอน คือ คาเอรุเทคิตะ ซามูไร เซนไท ชินเคนเจอร์ โทคุเบทสึบาคุ (การกลับมาของซามูไร เซนไท ชินเคนเจอร์ ฉบับพิเศษ)ในวันที่ 21 มิถุนายน ค.ศ. 2010 และ รับเชิญในมาสค์ไรเดอร์ดีเคด ในตอนที่24 และ 25
ในประเทศไทย ลิขสิทธิ์ในการจัดจำหน่าย ชินเคนเจอร(ฉบับทีวีซีรีส์) คือ โรส มีเดียแอนด์เอนเตอร์เทนเมนต์ โดยใช้ชื่อว่า ขบวนการซามูไร ชินเคนเจอร์ และออกอากาศทาง สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ในรายการแก๊งการ์ตูนทุกวันอาทิตย์เวลา7:10-7:40 น. เริ่มวันอาทิตย์ที่18 กันยายน 2554 - 26 สิงหาคม 2555 ปัจจุบันเปลี่ยนเวลาออกอากาศ เป็นทุกวันอาทิตย์ เวลา 6:15-6:45 น.
ในอดีตกาลได้มีปิศาจคอยทำร้ายมวลมนุษย์เพื่อต้องการครองโลกนาม เงโดวชูว พวกเขาปรากฏตัวจากอีกภพหนึ่งเพื่อแสวงหาพลังงงานและคอยกัดกินมนุษย์ จึงเป็นเหตุให้เกิดกลุ่มผู้พิทักษ์ขึ้นมา โดยรวบรวมนักดาบฝีมือดีจากตระกูลต่างๆของเหล่าซามูไรขึ้นมา นาม ชินเคนเจอร์ เพื่อต่อกรและขับไล่ปิศาจให้พ้นจากโลก
ในปัจจุบันเงโดวชูวได้กลับมาอาละวาดอีกครั้ง จึงเป็นเหตุให้ ชิบะ ทาเครุ บุตรชายคนเดียวของตระกูลชิบะ ทายาทรุ่นที่ 18 ของชินเคนเจอร์ ได้ทำการต่อกรกับเงโดวชูวเพียงลำพัง แม้จะสามารถเอาชนะได้แต่การอาละวาดของเงโดวชูว ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องและรุนแรงขึ้น ทำให้ คุซาคาเบะ ฮิโคมะ พ่อบ้านประจำตระกูลชิบะ จำเป็นต้องเรียกสมาชิกชินเคนเจอร์คนอื่นๆมาช่วยสู้รบร่วมกับทาเครุ แม้ทาเครุไม่ต้องการคนอื่นๆ แต่ด้วยคำขอร้องประกอบกับสถานการณ์ความวุ่นวายที่เกิดจากเงโดวชูว ทำให้ทาเครุตัดสินใจที่ให้ฮิโคมะเรียกสมาชิกคนอื่นๆมาร่วมรบกับเขา โดยใช้ธนูยิงลูกศรที่แนบกับสาส์นเชิญรบไปยังสถานที่ต่างๆ
ทั้ง 4 คน ต่างมาถึงสถานที่ที่เงโดวชูว ออกอาละวาดแต่ด้วยความที่รู้จักแค่เพียงชื่อตระกูลชิบะ แต่ไม่เคยได้พบตัวจริงของทายาทตระกูลชิบะ ทำให้เกิดเรื่องเข้าใจผิดเล็กน้อย แต่กระนั้นทั้ง 4 คนได้พบทาเครุ จึงจำเป็นต้องร่วมมือทาเครุเพื่อปกป้องมวลมนุษย์ให้พ้นภัยจากเงโดวชูวอีกครั้ง และตำนานแห่งซามูไรรุ่นที่ 18 ได้ถือกำเนิดขึ้น
บทขานชื่อของชินเคนเจอร์นั้น มีลักษณะคล้ายกับการประกาศตนของซามูไร โดยคนแรกที่พูดจะเอ่ยนามของตนเอง (ยศ และชื่อ-นามสกุล) และเมื่อคนถัดมาเอ่ยนามอย่างย่อตามลำดับตำแหน่ง เช่น
โดยเอ่ยนามของตนในรูปแบบเต็มนั้นจะทำได้ก็ต่อเมื่อเป็นทำการแปลงร่างคนเดียว หรือ ผู้ที่มีตำแหน่งสูดสุดของกลุ่มกล่าวนำเท่านั้น
ฮิเดน ดิสค์ (??????) คือ อุปกรณ์รูปแบบแผ่นดิสค์ มีขนาดเท่ากับแผ่นซีดี ใช้ในการเดินพลังให้กับอาวุธและเทพพยนต์ของชินเคนเจอร์ ตัวแผ่นจะมีรูปสัตว์อยู่ในท่าทางเคลื่อนไหวทั้งหมด 8 ภาพคล้ายกับการทำอะนิเมะ โดยภาพจะเคลื่อนไหวก็ต่อเมื่อทำการหมุนและมีโลหะสะท้อนแสง เช่น ชินเคนมารุ เป็นต้น โดยปกติ ฮิเดน ดิสค์จะถูกเก็บไว้ในหัวเข็มขัดของชินเคนเจอร์ และเมื่อใช้งานจะสามารถขยายรูปร่างของดิสค์ ตามขนาดของอาวุธที่ใช้ในขณะนั้น , ฮิเดน ดิสค์ มีหลายรูปแบบโดยแตกต่างกันออกไปตามวัตถุประสงค์ที่ใช้ เช่น
ชินเคนโอเกิดจากการรวมตัวของเทพพยนต์ทั้งห้าโดย ชิชิ โอริงามิ เป็นส่วนหัวและลำตัว ,ริว โอริงามิ เป็นขาซ้ายและหมวก,คาเมะ โอริงามิ เป็นแขนขวา ,คุมะ โอริงามิ เป็นขาขวาและ ซารุ โอริงามิ เป็นแขนซ้าย โดยทั้งหมดเทพพยนต์ทั้ง 5 มีความสามารถในการต่อสู้โดยใช้ดาบเป็นหลัก นอกจากนี้ยังสามารถถอดส่วนแขนทั้ง 2 ข้างเพื่อเป็นอาวุธในการโจมตี ส่วนขาทั้ง2ข้างจะเน้นการโจมตีด้วยการเตะและกระโดดเป็นหลัก (ขาขวาเน้นโจมตีด้วยการเตะ ขาซ้ายเน้นในการกระโดด)
เกิดจากการรวมร่างของ ชินเคนโอ และ คาบูโตะ โอริงามิ โดย คาบูโตะ โอริงามิ ทำหน้าที่เป็นหมวกและเกราะแขนของหุ่น เมื่อเป็นคาบูโตะ ชินเคนโอ จะทำให้ชินเคนโอมีพลังในการโจมตีในระยะกลางและระยะไกลเพิ่มขึ้น โดยรูปแบบการโจมตีจะเป็นการโจมตีด้วยลำแสงเป็นหลัก
เกิดจากการรวมร่างของ ชินเคนโอ และ คาจิคิ โอริงามิ โดย คาจิคิ โอริงามิ ทำหน้าที่เป็นหมวกและเกราะหลังของหุ่น เมื่อเป็น คาจิคิ ชินเคนโอ จะเพิ่มประสิทธิภาพการโจมตีระยะประชิดและระยะกลางเพิ่มขึ้น
เกิดจากการรวมร่างของ ชินเคนโอ และ โทระ โอริงามิ โดย โทระ โอริงามิ ทำหน้าที่เป็นหมวกให้กับหุ่น เมื่อเป็นโทระ ชินเคนโอ จะเพิ่มประสิทธิภาพการโจมตีในระยะประชิดตัวมากขึ้น โจมตีด้วยสว่านทั้ง 4 ตัวพร้อมกัน
เกิดจากการรวมร่างของ ชินเคนโอ และ อิกะ โอริงามิ โดย อิกะ โอริงามิ ทำหน้าที่เป็นปีกหลัง ฉมวก และ โล่ดาวกระจาย 3 แฉก ให้กับหุ่น
เกิดจากการรวมร่างของชินเคนโอ และ เคียวริว โอริงามิ โดยเคียวริว โอริงามิ ทำหน้าที่เป็นหมวกและดาบขนาดยักษ์ให้กับหุ่น
เทนคูชินเคนโอเกิดจากการรวมร่างของชินเคนโอ และ ไดเทนคู ทำให้ชินเคนเจอร์ สามารถโจมตีบนอากาศได้ โดยไดเทนคู จะทำหน้าที่เป็นหมวก (ใช้หมวกของโทระ ชินเคนโอเป็นหลัก) เกราะหน้าอก (ใช้ขาสว่านส่วนหน้าทั้ง 2 ข้างของโทระ โอริงามิ เป็นเกราะหน้าอก) เกราะหลัง และปีกให้กับชินเคนโอ
เกิดจากการเปลี่ยนร่างของเอบิ โอริงามิ สามารถเปลี่ยนได้ทั้งหมด 4 รูปแบบโดยหมุนหน้ากาก (เอบิ ดิสค์) บนส่วนหัวของหุ่นพร้อมกับที่ห้องบังคับหุ่น โกลด์จะหมุนวงล้อเพื่อทำการเปลี่ยนรูปแบบบเช่นเดียวกัน
เมื่อโกลด์ หมุนวงล้อได้ ทิศเหนือ จะเกิดหุ่นยนต์ตัวแทนแห่งทิศเหนือ โดยเกิดจากการรวมร่างของ ไดไคโอ และ อิกะ โอริงามิ โดย อิกะ โอริงามิ ทำหน้าที่เป็นอาวุธประเภทหอกและเกราะหน้าอกให้กับหุ่น สีของหน้ากากทิศเหนือจะเป็นสีเหลือง-แดง
เมื่อโกลด์ หมุนวงล้อได้ ทิศใต้ จะเกิดหุ่นยนต์ตัวแทนแห่งทิศใต้ โดยเกิดจากการหมุนหน้ากากบนส่วนหัวของหุ่น สีของหน้ากากทิศใต้จะเป็นสีฟ้า-เหลือง ใช้ในการต่อสู้ด้วยความเร็วและถนัดการต่อสู้ด้วยดาบคู่
เมื่อโกลด์ หมุนวงล้อได้ ทิศตะวันออก จะเกิดหุ่นยนต์ตัวแทนแห่งทิศตะวันออก ซึ่งเป็นโหมดหลักของไดไคโอ โดยเกิดจากการหมุนหน้ากากบนส่วนหัวของหุ่น สีของหน้ากากทิศตะวันออกจะเป็นสีแดง-ขาว ใช้ในการต่อสู้ด้วยพละกำลัง หัวไหล่สามารถพับเป็นก้ามไว้หนีบหรือทำลายอายาคาชิในรูปแบบ ซิสเซอร์โหมด
เมื่อโกลด์ หมุนวงล้อได้ ทิศตะวันตก จะเกิดหุ่นยนต์ตัวแทนแห่งทิศตะวันตกขึ้นมา โดยเกิดจากการหมุนหน้ากากบนส่วนหัวของหุ่น สีของหน้ากากทิศตะวันตกจะเป็นสีเขียวโดยหน้ากากจะมีลักษณะคล้ายกับพัดกระดาษ ใช้ในการต่อสู้ในระยะกลางและระยะไกล โจมตีด้วยพัดเหล็กที่สามารถปล่อยกระแสลมเพื่อพัดอายาคาชิให้กระเด็นหรือทำลายในคราวเดียว
เกิดจากการรวมร่างของชินเคนโอ และ ไดไคโอ โดย ชิชิ โอริงามิ เป็นส่วนลำตัวช่วงล่างตั้งแต่สะโพกช่วงล่างถึงต้นขา ,ริว โอริงามิ เป็นขาซ้าย ,คุมะ โอริงามิ เป็นขาขวา ,ซารุ โอริงามิ เป็นฝักดาบด้านซ้าย (เชื่อมต่อกับส่วนเอวและเกราะหลังด้านซ้าย),คาเมะ โอริงามิ เป็นฝักดาบด้านขวา (เชื่อมต่อกับส่วนเอวและเกราะหลังด้านขวา) และ ไดไคโอ เป็นส่วนหัวจนถึงสะโพกช่วงบน กระโปรง เกราะหลังช่วงบน แขนทั้ง 2 ข้าง หัวเข่า และ เกราะขาทั้ง 2 ข้าง
เกิดจากการเปลี่ยนร่างของ อุชิ โอริงามิ โจมตีด้วยปืนกลและมิซไซล์ที่หัวไหล่ทั้ง 2 ข้าง ส่วนเท้าทั้ง2ข้างจะมีฮิเดน ดิสค์ติดตั้งอยู่ ที่ขาขวาเป็นเซนซามูไรกัตไทดิสค์ และ ขาซ้ายเป็น อุชิ ดิสค์ มีพลังการโจมตีที่รุนแรงและหนักหน่วง
เกิดจากการรวมร่างของไดไค ชินเคนโอ , อิกะเทนคูบัสเตอร์ และ โมกิว ไดโอ จนเกิดหุ่นยนต์ร่างสุดยอดขึ้นมา โดย
ซามูไรฮาโอ ขับเคลื่อนด้วยล้อเกวียนที่ส่วนหลังของซามูไร ฮาโอ ซึ่งส่วนล้อเกวียนจะทำหน้าที่เป็นตัวห้ามล้อเมื่อถูกโจมตีและกระเด็นถอยหลัง ทำให้ลดอัตารความเสียหายของสภาพแวดล้อมโดยรอบที่เกิดจากการถูกโจมตี
หุ่นยนต์เสริมของชินเคนโกลด์ เกิดจากการรวมร่างของโคมไฟ และ ไม้กระบอง ภายในลำตัวของไดโกโย สามารถบรรจุฮิเดน ดิสค์ เพื่อใช้เป็นอาวุธดาวกระจาย
เกิดจากการรวมร่างของ ไดโกโย (ส่วนลำตัว),ริว โอริงามิ เป็นขาซ้ายและหมวก,คาเมะ โอริงามิ เป็นแขนขวา ,คุมะ โอริงามิ เป็นขาขวาและซารุ โอริงามิ เป็นแขนซ้าย
โอริงามิคือเทพพยนต์ที่ใช้ในการต่อสู้กับศัตรูทั้งขนาดเล็กและขนาดยักษ์ โดยปกติจะอยู่ในรูปแบบของตราสัญลักษณ์ (เอมเบลมโหมด) ซึ่งมีขนาดเท่ากับฝ่ามือของมนุษย์ สามารถเปลี่ยนร่างเป็นโหมดสัตว์ และต่อสู้ตามคำสั่งของผู้ที่เป็นเจ้าของได้ แต่เมื่อเจออายาคาชิขนาดใหญ่จำเป็นต้องใช้โชโดโฟนโหมดพู่กัน ในการอัญเชิญเทพที่สถิตย์อยู่ให้ตื่นขึ้น โดยเขียนคำว่า ใหญ่ (ญี่ปุ่น: ? dai ?) ลงบนโอรางามิเอมเบลมโหมด และจะทำการขยายร่างยักษ์ขึ้นมา
เทพพยนต์ของเรด มีรูปร่างคล้ายกับสิงโต ลำตัวสีแดง โจมตีด้วยเปลวเพลิง สามารถเปลี่ยนเป็นเอมเบลมโหมดได้ โดยเมื่อเป็นเอมเบลมโหมดจะมีลักษณะเป็นรูปห้าเหลี่ยมคล้ายตัวหมากในเกมหมากรุกญี่ปุ่น แปลงเป็นลำตัวและหัวของชินเคนโอ
ข้อมูลเบื้องต้น - สูง 20.1 เมตร / กว้าง 19.3 เมตร / ยาว 26.5 เมตร / หนัก 800 ตัน / ความเร็ว 500 กม.ต่อ ชม. / พลัง 600 แรงม้า
ท่าไม้ตาย - Gokaku dai ka en (?????; เป็นการพุ่งชนอายาคาชิด้วยการแปรสภาพเป็นกึ่งเอมเบลมโหมด พร้อมกับลูกไฟที่ออกมาจากเทพพยนต์) , All star cannonball
เทพพยนต์ของบลู มีรูปร่างคล้ายกับมังกร ลำตัวสีน้ำเงิน เดินทางด้วยการลอยตัวบนอากาศ โจมตีด้วยความเร็วสูงโดยใช้แรงกดกันอากาศเป็นพลังรวมไปถึงพลังน้ำจากปากของริว โอริงามิ สามารถเปลี่ยนเป็นเอมเบลมโหมดได้ โดยเมื่อเป็นเอมเบลมโหมดจะมีลักษณะเป็นรูปหกเหลี่ยม แปลงเป็นขาซ้ายและหมวกของชินเคนโอ
ข้อมูลเบื้องต้น - สูง 19.3 เมตร / กว้าง 8.5 เมตร / ยาว 52.3 เมตร / หนัก 420 ตัน / ความเร็ว 600 กม.ต่อ ชม. / พลัง 300 แรงม้า
ท่าไม้ตาย - Ryu bakufu (???; เป็นการปล่อยพลังสายน้ำรูปแบบเพลิงสีฟ้าจากปากของริว โอริงามิ โจมตีใส่อายาคาชิ) , All star cannonball
เทพพยนต์ของพิงค์ มีรูปร่างคล้ายเต่า ลำตัวสีเงิน เดินทางด้วยการลอยตัวบนอากาศ โจมตีโดยสร้างพายุหมุนขนาดยักษ์โดยหมุนตัวเองเป็นแกนกลางพายุ สามารถเปลี่ยนเป็นเอมเบลมโหมดได้ โดยเมื่อเป็นเอมเบลมโหมดจะมีลักษณะเป็นรูปวงกลม แปลงเป็นแขนขวาของชินเคนโอ
ข้อมูลเบื้องต้น - สูง 7 เมตร / กว้าง 17.2 เมตร / ยาว 14.6 เมตร / หนัก 130 ตัน / ความเร็ว 200 กม.ต่อ ชม. / พลัง 100 แรงม้า
เทพพยนต์ของกรีน มีรูปร่างคล้ายกับหมี ลำตัวสีเขียว โจมตีด้วยการพุ่งชนหรือผลักศัตรูให้ล้มคล้ายกับการเล่นซูโม่ สามารถเปลี่ยนเป็นเอมเบลมโหมดได้ โดยเมื่อเป็นเอมเบลมโหมดจะมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส แปลงเป็นขาขวาของชินเคนโอ
ข้อมูลเบื้องต้น - สูง 19.1 เมตร / กว้าง 11.6 เมตร / ยาว 27.5 เมตร / หนัก 420 ตัน / ความเร็ว 400 กม.ต่อ ชม. / พลัง 300 แรงม้า
เทพพยนต์ของเยลโล่ มีรูปร่างคล้ายลิง ลำตัวสีเหลือง โจมตีได้อย่างคล่องตัวและมีพลังหมัดอันหนักหน่วง สามารถเปลี่ยนเป็นเอมเบลมโหมดได้ โดยเมื่อเป็นเอมเบลมโหมดจะมีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยม แปลงเป็นแขนซ้ายของชินเคนโอ
ข้อมูลเบื้องต้น - สูง 15.7 เมตร / กว้าง 18 เมตร / ยาว 12.5 เมตร / หนัก 130 ตัน / ความเร็ว 300 กม.ต่อ ชม. / พลัง 100 แรงม้า
เทพพยนต์ของโกลด์ มีรูปร่างคล้ายกุ้งล็อบเตอร์ ลำตัวสีน้ำเงิน-ทอง สามารถเปลี่ยนร่างเป็น ไดไคโอ ได้
เอบิ โอริงามิ เป็นเทพพยนต์ที่เกิดจากการที่เกนตะกดข้อความ คำว่า กุ้ง (ญี่ปุ่น: ?? เอบิ ?) บนซูซิ เชนเจอร์ จนทำให้มีชีวิตขึ้นมา
ท่าไม้ตาย - Ebi basami (????? ; เอบิ โอริงามิ ใช้ก้ามทั้ง 2 ข้าง ทำการต่อยและหนีบอายาคาชิไปพร้อมๆกับ จากนั้นทำการยกอายาคาชิด้วยก้ามทั้ง 2 โดยยกอายาคาชิจะทำให้อายาคาชิบาดเจ็บภายในอันเกิดจากการโจมตีของอายาคาชิ เมื่ออายาคาชิบาดเจ็บจะทำการเหวี่ยงออกไปทำให้อายาคาชิบาดเจ็บยิ่งขึ้นจากแรงเหวี่ยงและแรงกระแทกจากการตกลงพื้น) , Futomaki korin (????? ; เอบิ โอริงามิ ปล่อยกงจักรฟูโตมากิ จากก้ามทั้ง 2 ข้างเพื่อทำลายนานาชิขนาดยักษ์ โดย กงจักรฟูโตมากิ สามารถลอยบนอากาศและสั่งการให้โจมตีจากโกลด์โดยตรง) , All star cannonball
เทพพยนต์เสริมของชินเคนเจอร์ มีรูปร่างคล้ายกับด้วงเซนเทารัส ลำตัวสีส้ม-เงิน สามารถโจมตีด้วยการบีบรัดจากคาบูโตะ ฮอร์น ที่ส่วนหัว นอกจากนี้ยังสามารถหมุนส่วนหัวเพื่อทำการเหวี่ยงศัตรูให้ล้ม บริเวณลำตัวจะติดตั้งฮิเดน ดิสค์ เอาไว้
ข้อมูลเบื้องต้น - สูง 16.1 เมตร / กว้าง 27.9 เมตร / ยาว 44.3 เมตร / หนัก 900 ตัน / ความเร็ว 600 กม.ต่อ ชม. / พลัง 700 แรงม้า
เทพพยนต์เสริมของชินเคนเจอร์ มีรูปร่างคล้ายกับปลาดาบ ลำตัวสีฟ้า-เงิน เดินทางด้วยการลอยตัวบนอากาศ สามารถโจมตีด้วยดาบที่ติดตั้งไว้ส่วนหน้าสุดของคาจิคิ โอริงามิและมิซไซล์ขนาดกลาง 2 ลูกที่บริเวณส่วนหน้าของคาจิคิ โอริงามิ บริเวณลำตัวจะติดตั้งฮิเดน ดิสค์ เอาไว้
ข้อมูลเบื้องต้น - สูง 24.4 เมตร / กว้าง 22 เมตร / ยาว 47.8 เมตร / หนัก 900 ตัน / ความเร็ว 120 กม.ต่อ ชม. / พลัง 700 แรงม้า
เทพพยนต์เสริมของชินเคนเจอร์ มีรูปร่างคล้ายเสือขาว ลำตัวสีขาว-เงิน ขาทั้งสี่จะมีลักษณะคล้ายกับสว่าน ใต้ท้องจะติดตั้งฮิเดน ดิสค์ เอาไว้เพื่อทำหน้าที่เป็นแรงขับเคลื่อนให้กับโทระ โอริงามิมีหน้าที่คล้ายกับล้อรถยนต์
โดยเดิมทีโทระ โอริงามิได้ถูกอายาคาชิ ฮิโทมิดามะควบคุมเอาไว้ทำให้มีเพียงอายาคาชิ ฮิโทมิดามะเท่านั้นที่บังคับได้ภายหลังชินเคนเรดได้ใช้ฮัน ดิสค์ ในการควบคุมและขับไล่พลังความมืดออกจากโทระ โอริงามิ
ข้อมูลเบื้องต้น - สูง 24.3 เมตร / กว้าง 25.6 เมตร / ยาว 50.8 เมตร / หนัก 1100 ตัน / ความเร็ว 650 กม.ต่อ ชม. / พลัง 850 แรงม้า
เทพพยนต์เสริมที่เกิดจากการรวมร่างของคาบูโตะ, คาจิคิ และโทระ กลายเป็นเทพพยนต์วิหคสวรรค์ โดยคาบูโตะจะเป็นส่วนหัวนก ปลายปีกทั้ง 2 ข้างและส่วนปีกขวา, คาจิคิ เป็นส่วนหางและปีกซ้าย และโทระเป็นส่วนลำตัวและโครงปีกทั้ง 2 ข้าง ทำให้กลายเป็นเทพพยนต์ที่มีความเร็วในการบินและพลังการโจมตีทางอากาศที่รุนแรง
แต่เดิมไดเทนคูได้กำหนดผู้ควบคุมไว้แล้วได้แก่ ทาเครุ,ริวโนะสุเกะและมาโกะ แต่ภายหลังมาโกะได้ให้จิอากิควบคุมไดเทนคูแทน
ข้อมูลเบื้องต้น - สูง 25 เมตร / กว้าง 77.7 เมตร / ยาว 73.5 เมตร / หนัก 2900 ตัน / ความเร็ว 800 กม.ต่อ ชม. / พลัง 2250 แรงม้า
ท่าไม้ตาย - Daitenkuu daigekitotsu (????????? ;ไดเทนคู ทำการปล่อยลำแสงดิสค์ทั้ง 3 แผ่น เรียงเป็นแถวเดียวกันเพื่อทำการสะสมพลังให้กับไดเทนคู จากนั้นไดเทนคูทำการบินผ่านแผ่นทั้ง 3 พุ่งชนอายาคาชิจนดับสูญในที่สุด)
เทพพยนต์เสริมของชินเคนโกลด์ มีรูปร่างคล้ายกับปลาหมึกกล้วย ลำตัวสีม่วง-ขาว เดินทางด้วยการลอยตัวบนอากาศ สามารถโจมตีด้วยหนวดทั้ง5เส้น และ พ่นหมึกออกมาทางปาก
ข้อมูลเบื้องต้น - สูง 42.6 เมตร / กว้าง 13.6 เมตร (เมื่อกางหนวดออกจะกว้าง 66.2 เมตร / ยาว 14.4 เมตร (เมื่อกางหนวดออกจะยาว 33.9 เมตร) / หนัก 900 ตัน / ความเร็ว 650 กม.ต่อ ชม. / พลัง 650 แรงม้า
อาวุธ - Ikasumiho (???? ;อิกะ โอริงามิ พ่นหมึกออกมาทางปาก ทำให้อายาคาชิรูปแบบโปร่งใสไม่สามารถพรางตัวได้อีก หรือ ใช้ในการโจมตีอายาคาชิใส่บริเวณส่วนหัวและลำตัวช่วงบน ทำให้อายาคาชิเกิดอาการพร่ามัว)
เทพพยนต์เสริมของชินเคนเจอร์ มีลักษณะคล้ายกับไดโนเสาร์พันธุ์ Diplodocus ลำตัวสีแดงเข้ม (แดงเลือดหมู) โจมตีด้วยการกัดจากส่วนหัว เป็นเทพพยนต์รุ่นแรกที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ต่อกรกับเงโดวชูว มีอายุประมาณ 300 ปี
ข้อมูลเบื้องต้น - สูง 27.5 เมตร / กว้าง 19 เมตร / ยาว 88.5 เมตร / หนัก 1000 ตัน / ความเร็ว 600 กม.ต่อชม. / พลัง 800 แรงม้า
เทพพยนต์ของชินเคนเจอร์ มีลักษณะคล้ายกับวัว และ รถลาก มีขนาดใหญ่เท่ากับชินเคนโอ ลำตัวของอุชิ โอริงามิเป็นสีแดงขลิบทอง ส่วนรถลากเป็นรถสีดำคลิบทอง โจมตีด้วยพุ่งชนด้วยเขา การขวิด และ จรวดมิซไซล์จากส่วนบน สามารถบรรทุกชินเคนโอ
ข้อมูลเบื้องต้น - สูง 45.9 เมตร / กว้าง 42.6 เมตร / ยาว 87.9 เมตร / หนัก 10,000 ตัน / ความเร็ว 630 กม.ต่อ ชม. / พลัง 6,000 แรงม้า
เงโดวชูว (???) คือกลุ่มองค์กรที่หวังต้องการยึดครองโลก เป็นคู่ปรับกับชินเคนเจอร์มาตั้งแต่สมัยโบราณกาล ต่อกรกับซามูไรมาแล้วถึง 18 รุ่น โดยปกติเงโดวชูวอาศัยอยู่ในมิติแห่งหนึ่งซึ่งคล้ายกับนรกภูมิ โดยอาศัยเรือสำเภาลอยอยู่ท่ามกลางแม่น้ำสายนรก (ญี่ปุ่น: ???? sanzu no kawa ?) และอาศัยช่องว่างระหว่างสิ่งของในโลกมนุษย์เป็นสะพานในการเชื่อมต่อโลกทั้ง 2 มิติ จุดเด่นของเงโดวชูวคือชุดจะเน้นไปทางสีแดงเป็นหลัก
หญิงสาวผู้รักความงาม โดยปกติมักจะเล่นซามิเซนอยู่เสมอๆ โดยในอดีตกาลนั้นเป็นเคยเป็นมนุษย์ที่ชื่อว่า อูซุยูคิ ซึ่งแอบชอบกับชายคนหนึ่งที่แต่งงาน แต่แล้วอูซุยูคิจึงถือคบเพลิงและเผาบ้านที่แต่งงานของคนรัก แต่ด้วยดายูได้รับ เงโดวนิน ทำให้ร่างกายของอูซุยูคิกลายเป็นดายูพร้อมกับคนรักของเธอเป็นซามิเซนไปด้วย
ขุนพลคนที่ 4 ของเงโดวชูวเป็นคู่ปรับของชินเคนเรดตั้งแต่อดีตกาล โดยในยุคเอโดะนั้นเป็นซามูไรที่มีฝีมือดีแต่ด้วยชื่นชอบการต่อสู้จึงทำให้กลายเป็นจูโซแต่ว่าตัวตนเขาเสียชีวิตไป 300 ปี
ขุนพลคนที่ 5 ของเงโดวชูว มีความสามารถพิเศษในการสร้างสัตว์ประหลาด คิริงามิ แต่กลับมีเป้าหมายครองตำแหน่งผู้นำเดโงวชูเสียเอง
นานาชิขนาดยักษ์ มักต่อสู้เป็นกลุ่ม , โอ นานาชิ จะออกมาเพื่ออายาคาชิ (ขนาดยักษ์) ออกคำสั่งให้โจมตีคู่ต่อสู้
อายาคาชิ (????) คือสัตว์ประหลาดที่มีลักษณะผสมระหว่างตำนานภูติผีปิศาจของญี่ปุ่นกับสิ่งของต่างๆ โดยสีผิวของอายาคาชิจะเน้นด้วยสีแดงเป็นหลักเช่นเดียวกับเงโดวชูว ระดับต่างๆ ตำแหน่งของอายาคาชิเทียบเท่ากับหัวหน้าหน่วยหรือหัวหน้ากองร้อย แม้อายาคาชิจะถูกสังหารแต่สามารถคืนชีพและขยายร่างยักษ์ได้ด้วยเพลิงสีเงิน
ปกติอายาคาชิจะอยู่ในแม่น้ำสายนรกและออกมายังโลกมนุษย์เมื่อมีคำสั่งแต่มีจุดอ่อนคือเมื่อเข้าไปในโลกมนุษย์นานเกินไปทำให้ร่างกายเกิดขาดน้ำขึ้นมาเมื่อขาดน้ำจึงต้องกลับไปยังแม่น้ำสายนรกเพื่อที่ร่างกายไม่ขาดน้ำ