พม่า (พม่า: ဗမာလူမျိုး; เอ็มแอลซีทีเอส: ba. ma lu myui:; สัทอักษรสากล: [bəmà lùmjó] บะหม่า หลุ มฺโย้, คำเมือง: ᨾᩣ᩠᩵ᨶ) เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ส่วนใหญ่ในประเทศพม่า ชาวพม่าส่วนใหญ่อาศัยอยู่แถบลุ่มแม่น้ำอิรวดี ชาวพม่าส่วนใหญ่ใช้ภาษาพม่าเป็นภาษาที่พูดกันในชีวิตประจำวัน
การศึกษาทางพันธุกรรมแสดงให้เห็นว่าชาวพม่ามีพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับชาวเอเชียตะวันออกและอินเดีย พูดภาษาในตระกูลภาษาจีน-ทิเบต เวลาหลายสหัสวรรษต่อมาชาวพม่าได้แผ่ขยายครอบคลุมเขตพม่าตอนกลางและพม่าตอนล่างทั้งหมด พวกเขาได้เข้ามาแทนที่และดูดกลืนกลุ่มชนชาติมอญและชาวปยูซึ่งอาศัยอยู่ก่อนหน้านี้
ภาษาพม่า เป็นภาษาหลักของประเทศพม่า เป็นภาษาทางการใช้กันในหมู่ชาวพม่า และได้ใช้เป็นภาษากลางในการติดต่อระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์อื่น ๆ ด้วย คำศัพท์หลักในภาษาพม่าประกอบด้วย คำศัพท์ที่มีรากศัพท์มาจากภาษาตระกูลภาษาจีน-ทิเบต แต่คำศัพท์หลายคำที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนาและศิลปะนั้นได้มาจากภาษาบาลีและภาษาสันสกฤต ส่วนคำศัทพ์ที่มีรากศัพท์มาจากภาษาอังกฤษจะเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยใช้คำทับศัพท์
ชาวพม่าส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในประเทศพม่า ชาวพม่าบางส่วนแผ่กระจายไปตั้งถิ่นฐานในทวีปยุโรปโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหราชอาณาจักร ชาวพม่าพลัดถิ่นเป็นปรากฏการณ์มากสุดในประวัติศาสตร์คือช่วงเริ่มต้นสงครามโลกครั้งที่สองที่ส่วนใหญ่มีความขัดแย้งจากการปกครองทางทหารและความหลากหลายของชาติพันธุ์ในพม่า
ช่วงต้นพม่าของสหราชอาณาจักรจนได้รับเอกราชในปี ค.ศ. 1948 ชาวพม่าเริ่มย้ายไปอยู่ที่สหราชอาณาจักร, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, ทวีปอเมริกาเหนือ, มาเลเซีย, สิงค์โปร์, ฮ่องกง,ไต้หวัน, เกาหลี, ญี่ปุ่นและไทย[ต้องการอ้างอิง]
วัฒนธรรมของพม่าได้รับอิทธิพลจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะ ด้านภาษา อาหาร ดนตรี การเต้นรำ และศิลปะการแสดง ในด้านศิลปะและวรรณกรรมได้รับอิทธิพลจากศาสนาพุทธนิกายเถรวาท ในชีวิตประจำวัน วัดเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวพม่า โดยมีพระสงฆ์เป็นที่สักการะบูชาและได้รับการสนับสนุนจากฆราวาส ชาวพม่าให้ความสำคัญกับพิธีกรรมทางศาสนามาก เช่นพิธี ชีน-บยุ (ရှင်ပြု)
ชาวพม่าจะนิยมนุ่งโสร่ง ชายชาวพม่าจะนุ่งโสร่งที่เรียกกันว่า โลนจี (လုံချည်) ส่วนผู้หญิงจะนิยมนุ่งโสร่งแบบ ทะบี (ထဘီ) และทาแป้งทานาคา (သနပ်ခါး) ทั้งชายและหญิงจะใส่รองเท้าแตะแบบพม่า ญะพะนะ (ကတ္တီပါဖိနပ်)
ในโอกาสที่เป็นทางการหรืองานพิธีการ ชายชาวพม่าจะใส่เสื้อคอจีนสีขาว ที่เรียกว่า ไตปอน (တိုက်ပုံ) นุ่งโสร่งแบบโลนจีสีโทนเข้มและใช้ผ้าโพกหัว ที่เรียกว่า กองบอง (ခေါင်းပေါင်း) ส่วนหญิงชาวพม่าจะใส่ผ้าซิ่นและนุ่งโสร่งแบบทะบี
อาหารพม่ามีหลากหลายแตกต่างกันไปตามภูมิภาค ซึ่งส่วนใหญ่อาหารพม่าได้รับอิทธิพลจากอาหารจีนและอาหารอินเดีย การปรุงอาหารของพม่านั้นจะใช้การผัดแบบจีน การแกงแบบอินเดีย ซึ่งใช้ความร้อนแต่อาจจะปรุงเผ็ดเล็กน้อย ส่วนใหญ่มักจะใช้กะปิในการปรุง รวมทั้ง หัวหอม กระเทียม ขิง พริกแห้งและขมิ้น ส่วนข้าว (ထမင်း ทมีน) เป็นวัตถุดิบหลัก ชาวพม่านิยมใช้ชาในการต้มเพื่อดื่มและนำมาทำสลัดหรือกินเป็นเมี่ยง ละแพะ (လက်ဖက်သုပ်) จัดเป็นอาหารประจำชาติพม่า ส่วน ก๋วยเตี๋ยว (ခေါက်ဆွဲ ฮกุ๊ก ซเว) ได้รับอิทธิพลจากประเทศจีน โมนฮีนกา (မုန့်ဟင်းခါး) เป็นอีกหนึ่งอาหารประจำชาติของพม่า ส่วนโรตี จปาตี ก็ได้รับความนิยมในพม่าด้วย ซึ่งได้รับอิทธิพลจากอินเดีย
ดนตรีของพม่าแบบดั้งเดิมส่วนใหญ่ประกอบด้วยเครื่องตีและเครื่องเป่าลมเป็นหลัก แต่ ซองเกาะ (စောင်းကောက်) เป็นพิณลักษณะรูปร่างคล้ายเรือ เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของชาวพม่า เครื่องดนตรีแบบอื่น ๆ ได้แก่ ปัตตะลา (ระนาดพม่า) วาลัตก๊อก แล๊กวิน และ ปัตเหวี่ยง เพลงพม่าสมัยใหม่มักได้รับอิทธิพลแบบตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งดนตรีคันทรีจากสหรัฐ อย่างไรก็ตามแร็พและฮิปฮอปก็ยังได้รับความนิยม
เทศกาลทางศาสนาพุทธและวันหยุดจะมีการเฉลิมฉลองกันอย่างแพร่หลายในหมู่ชาวพม่า ตะจาน (သင်္ကြန်) หรือเทศกาลน้ำซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นปีใหม่ของพม่าในเดือนเมษายน ตัวอย่างหนึ่งเช่น ตะดิงยุต ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของวันเข้าพรรษา จะมีการเฉลิมฉลองกับเทศกาลแห่งแสงในเดือนตุลาคม กะตีนา (ကထိန်) หรือ กฐิน พิธีถวายผ้าไตรจีวรบูชาพระสงฆ์จะจัดขึ้นเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมและอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน
ชาวพม่าส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ นิกายเถรวาท ผู้คนนิยมถือศีลห้า ให้ทาน และ วิปัสสนา ส่วนเด็กชายชาวพม่าก็จะเข้าร่วมพิธีชีน-บยุ ในขณะเดียวกันชาวพม่าก็นับถือบูชานะ ซึ่งเป็นศาสนาพื้นบ้านเคียงคู่ศาสนาพุทธไปด้วย นะที่ชาวพม่านับถือเป็นผีหรือวิญญาณที่สิงสถิตตามธรรมชาติหรือตามสถานที่ต่าง ๆ โดยศาสนาพื้นบ้านนี้มีลักษณะคล้ายคลึงกับศาสนาชินโตของญี่ปุ่น การบูชานะของชาวพม่านั้นจะนับถือนะทั้งหมด 37 ตน ในแต่ละบ้านของชาวพม่าจะมีศาลเทพนะเล็ก ๆ ไว้บูชาเพื่อความเป็นมงคลและช่วยคุ้มครองจากสิ่งชั่วร้าย
ในอดีต ชาวพม่ามักนิยมใช้ชื่อสั้น ๆ มักจำกัดเพียงหนึ่งหรือสองพยางค์เท่านั้น อย่างไรก็ตามการตั้งชื่อตามเทรนด์จะนิยมตั้งชื่อให้ยาว (4 หรือ 5 พยางค์ สำหรับเพศหญิงและ 3 พยางค์ สำหรับผู้ชาย) ได้รับความนิยมมากขึ้น ชื่อแบบพม่ามักใช้คำยืมมาจากภาษาบาลี ชาวพม่ามักใช้วันเกิด (ปฏิทิน 8 วันแบบดั้งเดิมซึ่งรวมถึง ยาฮู, บ่ายวันพุธ) เป็นพื้นฐานสำหรับการตั้งชื่อ แม้ว่าการปฏิบัตินี้ไม่ได้เป็นสากล ตัวอักษรชื่อมักจะมาจากกลุ่มที่อยู่ในตัวอักษรพม่า