ภาพเหมือน (ภาษาอังกฤษ: portrait) เป็นจิตรกรรม, ภาพถ่าย, ประติมากรรม หรือสื่ออื่นๆ ที่เป็นรูปของผู้เป็นแบบ ซึ่งส่วนที่สำคัญที่สุดจะเป็นหน้าและการแสดงออกทางความรู้สึกของผู้เป็นแบบ จุดประสงค์ในการสร้างภาพเหมือนก็เพื่อแสดงความละม้าย, บุคลิก, หรือแม้แต่อารมณ์ของผู้เป็นแบบ ฉะนั้นภาพถ่ายที่เป็นภาพเหมือนจึงมิใช่ภาพถ่ายแบบชั่ววินาที แต่เป็นภาพถ่ายที่ช่างถ่ายจะพยายามจัดท่าหรือองค์ประกอบของภาพที่ให้ผู้เป็นแบบนั่งนิ่ง ภาพเหมือนมักจะแสดงผู้เป็นแบบมองตรงมายังจิตรกรหรือช่างภาพ เพื่อแสดงให้เห็นว่ามีความสัมพันธ์โดยตรงกับผู้ที่ดูรูปในภายหลัง
ภาพเหมือน ในสมัยแรกที่พบเป็นภาพเขียนสำหรับปิดศพที่รู้จักกันว่า “เฟยุมมัมมี่” (Fayum mummy) ในประเทศอียิปต์ที่ถูกรักษาไว้เป็นอย่างดีเพราะความแห้งของอากาศในทะเลทราย “เฟยุมมัมมี่” เป็นภาพเขียนจากสมัยจักรวรรดิโรมันอย่างเดียวที่พบนอกไปจากจิตรกรรมฝาผนัง
ในสมัยโรมันศิลปะภาพเหมือนนิยมกันทำประติมากรรมซึ่งผู้เป็นแบบต้องการให้เหมือนตนเองจริงๆ ถึงแม้ว่าบางครั้งผู้เป็นแบบอาจจะมีรูปร่างลักษณะที่ไม่เรียกว่าสวย ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 4 ภาพเหมือนเริ่มละทิ้งความเป็นจริงมาหาความเป็นจินตนิยมเป็นภาพเหมือนที่ผู้เป็นแบบต้องการให้จิตรกรสร้างภาพที่ “ควรจะ” มีหน้าตาอย่างที่ต้องการ ซึ่งจะเห็นได้จากประติมากรรมเหมือนของจักรพรรดิคอนสแตนตินที่ 1 และจักรพรรดิทีโอโดเซียสที่ 1 ในยุโรปการเขียนภาพเหมือนแบบเหมือนจริงมานิยมกันอีกครั้งในสมัยปลายยุคกลาง ในบริเวณเบอร์กันดีในประเทศฝรั่งเศส
งานภาพเหมือนที่มีชื่อที่สุดที่เป็นที่รู้จักันทั่วโลกคือภาพ “โมนาลิซา” โดย เลโอนาร์โด ดา วินชีเป็นภาพสตรีที่ไม่ทราบชื่อที่มีรอยยิ้มปริศนา ภาพเหมือนที่เก่าที่สุดเท่าที่ทราบพบเมื่อปี ค.ศ. 2006 โดย เจอราร์ด โจดีย์ นักโทษท้องถิ่นในถ้ำวิลโอเนอร์ไม่ใกลจากอังโจเลม ที่เชื่อว่ามีอายุถึง 27,000 ปี
เมื่อจิตรกรวาดภาพเหมือนของตนเองภาพนี้ก็จะเรียกว่า “ภาพเหมือนตนเอง” (self-portrait) ซึ่งเป็นที่นิยมกันในสมัยปลายยุคกลาง การสร้างภาพเหมือนตนเองอาจจะเริ่มมาตั้งแต่สมัย อียิปต์โบราณเมื่อประติมากรแบ็คของฟาโรห์อเคนาเตนแกะรูปของตนเองและภรรยาเมื่อ หรืออาจจะเริ่มมาตั้งแต่สมัยที่มนุษย์ยังอยู่ในถ้ำก็ได้ตามหลักฐานที่ปัจจุบันสูญหายไป
“ภาพถ่ายภาพเหมือน” เป็นที่นิยมกันทั่วไปในโลก บางครั้งลูกค้าก็จะต้องการภาพเหมือนของตนเองและครอบครัว หรือภาพเหมือนในโอกาสพิเศษเช่นงานแต่งงานหรืองานจบปริญญา ภาพถ่ายภาพเหมือนเริ่มพร้อมกับการเริ่มต้นการถ่ายภาพ ความต้องการเป็นที่นิยมกันมากเพราะผู้ต้องการสามารถเป็นเจ้าของภาพเหมือนได้โดยไม่ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก กิจการร้านถ่ายรูปก็รุ่งเรืองตามไปด้วยบางร้านถ่ายถึง 500 เพลทต่อวัน ลักษณะการถ่ายภาพเหมือนสมัยต้นๆ นี้ต้องเปิดหน้ากล้องถึง 30 วินาทีจึงจะถ่ายได้ และจะใช้ลักษณะคล้าย “วาด” (painterly) ผู้เป็นแบบมักจะนั่งหน้าฉากเกลี้ยงๆ แสงเป็นแสงอ่อนเหนือแบบและแสงสะท้อนจากกระจก
เมื่อวิธีการถ่ายภาพวิวัฒนาการขึ้นช่างภาพก็ออกถ่ายภาพเหมือนนอกสถานที่เช่นในสนามรบ หรือ สถานที่ไกลจากผู้คน เช่นงานของวิลเลียม ชู (William Shew) โรเจอร์ เฟ็นตัน (Roger Fenton) และ แม็ทธิว เบรดี (Mathew Brady) ซึ่งเป็นผู้สร้างทฤษฏีการถ่ายภาพเหมือน
ในทางการเมืองภาพเหมือนของผู้นำมักจะใช้เป็นสัญลักษณ์ของรัฐ ในหลายประเทศจะมีประเพณีในการแขวนภาพเหมือนของผู้นำในสถานที่ราชการ การใช้ภาพเขียนกันเป็นอย่างมากอาจจะเป็นสิ่งที่เรียกว่าลัทธินิยมบุคคล
ในทางวรรณกรรม คำว่า “ภาพเหมือน” หมายถึงคำบรรยายหรือคำวิจัยของคนหรือสิ่งของ คำบรรยายของบุคคลมักจะเป็นคำบรรยายที่บอกลักษณะที่แท้จริงที่เกินไปกว่าที่เห็นอย่างผิวเผิน เช่นงานเขียนของนักประพันธ์อเมริกันแพทริเชี คอร์นวอล ในหนังสือ “ภาพเหมือนฆาตกร” (Portrait of a Killer) ซึ่งบรรยายบุคลิก, เบื้องหลัง, และสาเหตุที่ แจ็คเดอะริปเปอร์เป็นฆาตกรซึ่งรวมทั้งเรื่องที่สื่มวลชนเขียนและการสืบสวนของตำรวจ
วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ ภาพเหมือน วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ ภาพเหมือนตนเอง
ภาพถ่ายภาพเหมือนสมัยแรก
ของเฮนรี วินสโลว์ คอร์เบ็ทท์
ราวปี ค.ศ. 1860 - 1875
หอสมุดคองเกรส, วอชิงตัน ดี.ซี., สหรัฐอเมริกา