จังหวัดไซตะมะ (ญี่ปุ่น: ??? Saitama-ken ?) เป็นเขตการปกครองระดับจังหวัดของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่บริเวณภาคคันโต มีเมืองหลวงชื่อเดียวกันคือ ไซตะมะ
จังหวัดไซตะมะเป็นที่ตั้งของสนามกีฬาไซตะมะ 2002เป็นสนามกีฬาฟุตบอลที่ใช้แข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายปี 2002 ศูนย์กีฬาในร่มไฮเทคไซตะมะซูเปอร์อารีนา จังหวัดไซตะมะเป็นจังหวัดที่มีความเจริญมากเพราะอยู่ติดกับกรุงโตเกียว ซึ่งเขตชิชิบุ(??) (ชิชิบุ) ในจังหวัดนี้มีเทือกเขา ทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม จึงเป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมา ส่วนสถานที่น่าสนใจอีกที่หนึ่งก็คือ หมู่บ้านบอนไซ โอมิยะ
ในสมัยโบราณ เริ่มมีผู้คนเข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองไซตะมะตั้งแต่ประมาณเมื่อ 30,000 ปีก่อน โดยจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เมืองโทะโกะโระซะวะ(??) หรือเมืองคะวะโมโตะ ทำให้ทราบว่าผู้คนในสมัยโบราณนั้นหาอาหารจากการล่าสัตว์และจับปลา หลังจากนั้นก็พบเครื่องใช้ในการหุงหาและเก็บรักษาอาหารในสมัยโจมงที่มีอายุเก่าแก่ 10,000 ปีก่อนหน้านี้ในภายหลัง ทำให้ทราบถึงพฤติกรรมการบริโภคอาหารของคนในสมัยโบราณอย่างแน่ชัด
เมื่อประมาณ 2,000 ปีก่อน ก็ได้มีการนำการปลูกข้าวขึ้นมาเผยแพร่จากฝั่งตะวันตกของประเทศ พร้อมทั้งยังมีการนำวัฒนธรรมการใช้วัสดุทองเหลืองต่าง ๆ ขึ้นมาเผยแพร่พร้อมกันอีกด้วย สร้างเครื่องใช้ไม้สอยในสมัยยะโยะอิขึ้นในช่วงนี้ด้วย
และเมื่อประมาณ 1,600 ปีก่อน ก็ได้เริ่มมีการสร้างหลุมศพแบบสมัยโบราณขึ้นมา ซึ่งมีหลุมศพขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นมา 9 แห่ง และ 1 ในนั้นก็มีความสำคัญศึกษาวัฒนธรรมในสมัยนั้นอย่างมาก หลุมศพสมัยโบราณที่ถูกสร้างขึ้นในเมืองไซตะมะ
เมื่อถึงสมัยนะระ ได้มีการร่างกฎหมายและมีการทำสำมะโนประชากรขึ้น มีการมอบพื้นที่ทำกสิกรรมให้กับพลเรือนและมีการเก็บภาษีจากพลเมืองอีกด้วย ในสมัยเฮอันที่พวกราชวงศ์และขุนนางอาศัยกันอยู่อย่างหรูหราในเมืองหลวง พื้นที่ห่างไกลอย่างไซตะมะก็มีพวกนักรบขึ้นมาครองอำนาจครอบครองและมีบทบาทอย่างมาก สมัยคะมะกุระนั้น ก็มีนักรบหลายคนขึ้นครองอำนาจในเขตต่าง ๆ ของเมืองไซตะมะด้วย
เมื่อถึงสมัยเอะโดะ มีการพัฒนาเมืองเอะโดะขนานใหญ่ ทำให้จังหวัดไซตะมะได้รับการพัฒนาขึ้น มีถนนใหญ่หลายสายตัดผ่านมาและมีการวางท่อชลประทานขนาดใหญ่มากมายด้วย โดยในสมัยนั้นได้พัฒนาพื้นที่เขตคันโตโดยยึดไซตะมะเป็นแกนกลางสำคัญในการพัฒนา
จนเมื่อรัฐบาลโตกุกาวะล่มสลายลง การปกครองภายในจังหวัดก็เกิดการเปลี่ยนแปลง จนมีการจัดตั้ง "จังหวัดไซตะมะ" ขึ้นเมื่อปีเมจิที่ 4 แต่ก็มีเมืองที่ขึ้นอยู่กับจังหวัดไม่มาก จนในช่วงหลังสงครามโลกก็ได้รวบรวมเมืองต่าง ๆ ขึ้นมาจนเป็นจังหวัดในปัจจุบันได้