จังหวัดโอะกินะวะ (ญี่ปุ่น: ??? โอะกินะวะเค็ง ?; โอะกินะวะ: ?????? อุชินาชิง) เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางใต้สุดของญี่ปุ่น ประกอบด้วยหมู่เกาะริวกิว (???? Ry?ky? Shot?) นับร้อยเกาะ เรียงเป็นแนวยาวกว่าหนึ่งพันกิโลเมตร โดยเรียงตัวจากทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะคีวชู (?? Ky?sh?) (เป็นเกาะทางตะวันตกเฉียงใต้สุดของสี่เกาะหลักของญี่ปุ่น) จนถึงเกาะไต้หวัน เมืองเอกของจังหวัดโอะกินะวะคือเมืองนะฮะ (??? Naha-shi) ตั้งอยู่ทางใต้ของเกาะโอะกินะวะ (??? Okinawa-jima) อันเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดของหมู่เกาะ เกาะโอะกินะวะนี้ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างเกาะคีวชูกับเกาะไต้หวัน เกาะเซงกะกุ (ภาษาญี่ปุ่น:???? Senkaku Shot?; จีนตัวย่อ: ?????; จีนตัวเต็ม: ?????; พินอิน: Di?oy?t?i Q?nd?o) ที่เป็นข้อพิพาทระหว่างญี่ปุ่น สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และสาธารณรัฐประชาชนจีน ก็ถูกญี่ปุ่นจัดอยู่ในจังหวัดโอะกินะวะด้วย
นอกจากนี้ จังหวัดโอะกินะวะยังเป็นที่ตั้งฐานทัพเรือของสหรัฐอเมริกา ในช่วงสงครามโลกอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันยังคงเหลืออยู่ ตั้งอยู่บนเกาะโอะกินะวะ เมืองนะฮะอันเป็นเมืองเอกในปัจจุบัน ในอดีตเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรริวกิว แต่ถูกญี่ปุ่นยึดเอามาผนวกเข้ากัน ปัจจุบันเป็นเมืองพักตากอากาศ และเป็นต้นกำเนิดศิลปะการต่อสู้อย่างคาราเต้ มีหาดทรายขาวสวย น้ำทะเลสีครามและปะการังที่ยังสมบูรณ์ ทำให้จังหวัดโอะกินะวะเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักร้อนในฝันของชาวญี่ปุ่น
โอะกินะวะกลับคืนสู่ใต้การปกครองของแผ่นดินแม่หรือญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2515 (ค.ศ. 1972) หลังจากถูกปกครองด้วยกองทัพจากสหรัฐอเมริกาตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2
นอกจากนั้นจังหวัดนี้ยังเป็นจังหวัดที่มีสัดส่วนผู้สูงอายุมาก ซึ่งมากกว่า 100 ปี โดยผู้ชายมีอายุเฉลี่ยยืนยาวถึง 90.1 ปี และผู้หญิงมีอายุเฉลี่ยถึง 93.2 ปี ซึ่งมากที่สุดในโลก สาเหตุที่คาดกันนั้นก็น่าจะเป็นเพราะว่าสภาพของสังคมและอาหารที่ถูกสุขลักษณะ
หลักฐานที่เก่าที่สุดที่แสดงว่ามีมนุษย์บนหมู่เกาะริวกิว ถูกค้นพบที่เมืองนะฮะ (??? Naha-shi) และเมืองยะเอะเสะ (???? Yaese-ch?) มีการค้นพบชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์จากยุคหินเก่า แต่ก็ไม่เป็นหลักฐานที่แน่ชัด นอกจากนี้ ยังมีการค้นพบเครื่องปั้นดินเผาอันเป็นร่องรอยอิทธิพลของญี่ปุ่นในยุคโจมง (???? J?mon jidai) (14,000-400 ปีก่อนคริสต์ศักราช) บนหมู่เกาะซะกิชิมะ (???? Sakishima shot?) อันเป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะริวกิว อย่างไรก็ตาม เครื่องปั้นดินเผานี้ มีลักษณะคล้ายกับเครื่องปั้นดินเผาที่พบได้ทั่วไปบนเกาะไต้หวัน
คำว่า ริวกิว ถูกกล่าวขึ้นครั้งแรกในพงศาวดารราชวงศ์สุย (จีนตัวย่อ: ??; จีนตัวเต็ม: ??; พินอิน: Su?sh?) ของจีน แต่คำว่า ริวกิว ในที่นี้อาจหมายถึงเกาะไต้หวัน ไม่ใช่หมู่เกาะริวกิวในปัจจุบัน ซึ่งกำลังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ คำว่า โอะกินะวะ เป็นคำภาษาญี่ปุ่นใช้เรียกหมู่เกาะนี้ ปรากฏขึ้นครั้งแรกในบันทึกของภิกษุเจียนเจียงหรือกันจิง (?? หรือ ??) ภิกษุชาวจีนผู้เดินทางมาญี่ปุ่นเพื่อเผยแพร่พุทธศาสนา และเขียนไว้ใน ค.ศ. 779 ในคริสต์ศตวรรษที่ 8 เริ่มมีสังคมเกษตรกรรมและเติบโตอย่างช้า ๆ จนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 12 เนื่องจากหมู่เกาะตั้งอยู่ใจกลางทะเลจีนตะวันออก ใกล้กับญี่ปุ่น จีน และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาณาจักรริวกิวจึงกลายเป็นศูนย์กลางการค้าแห่งหนึ่งในภูมิภาค ในยุคนี้จะมีการสร้างกุสุคุ (?? Gusuku) หรือปราสาทแบบโอะกินะวะขึ้นมากมาย และในคริสต์ศตวรรษที่ 15 อาณาจักรริวกิวได้กลายเป็นรัฐบรรณาการแห่งหนึ่งของจักรวรรดิจีน
ในค.ศ. 1609 ไดเมียว (เจ้าเมือง) แคว้นซัตสึมะ (?? Satsuma) ดินแดนซึ่งในปัจจุบันคือจังหวัดคะโงะชิมะ (???? Kagoshima-ken) ได้เข้ารุกรานอาณาจักรริวกิว ส่งผลให้อาณาจักรริวกิวต้องยอมจำนนและเป็นรัฐบรรณาการของแคว้นซัตสึมะและรัฐบาลโชกุนโทะคุงะวะ (???? Tokugawa bakufu) หรือรัฐบาลเอะโดะ (???? Edo bakufu) อย่างไรก็ตาม การยึดอาณาจักรริวกิวไว้อาจสร้างความบาดหมางกับจักรวรรดิจีนได้ ดังนั้น สิทธิเสรีภาพของชาวริวกิวจึงยังคงไว้เหมือนเดิม แคว้นซัตสึมะได้รับผลประโยชน์อย่างมหาศาลจากการค้ากับจักรวรรดิจีนในยุคเอะโดะที่รัฐบาลโชกุนโทะคุงะวะสั่งให้ญี่ปุ่นปิดประเทศและห้ามการค้าใด ๆ กับชาวต่างชาติ
แม้ว่าแคว้นซัตสึมะจะมีอิทธิพลเหนือหมู่เกาะริวกิวอย่างมาก แต่อาณาจักรริวกิวก็ยังมีเสรีภาพทางการเมืองภายในอย่างไม่น้อยมาตลอดสองร้อยปี สี่ปีหลังการปฏิรูปสมัยเมจิ (?????? Meiji Ishin) ในค.ศ. 1868 รัฐบาลญี่ปุ่นในสมัยนั้นได้บุกยึกอาณาจักรริวกิวอย่างถาวรโดยหนุนหลังของกองทัพ และเปลี่ยนชื่อเป็นแคว้นริวกิว หรือริวกิวฮัน (??? Ry?ky? han) ซึ่งเป็นเขตปกครองโดยไดเมียวหรือเจ้าเมือง แต่ขึ้นตรงกับรัฐบาลกลาง ในขณะเดียวกัน รัฐบาลราชวงศ์ชิงของจักรวรรดิจีนก็อ้างสิทธิบนหมู่เกาะของอาณาจักรริวกิวเช่นเดียวกัน โดยอ้างว่าอาณาจักรริวกิว เคยเป็นรัฐบรรณาการของจีนมาก่อน ในค.ค. 1879 แคว้นริวกิวก็กลายเป็นจังหวัดโอะกินะวะของญี่ปุ่น เป็นแคว้นสุดท้ายหลักจากกาแคว้นทั้งหมดถูกยกฐานะเป็นจังหวัดในค.ศ. 1872
หลักจากยุทธการโอะกินะวะในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง โอะกินะวะอยู่ภายใต้อารักขาของสหรัฐอเมริกาถึง 27 ปี ในระหว่างที่โอะกินะวะอยู่ภายใต้ภาวะทรัสตีนั้น กองทัพอากาศสหรัฐฯ ได้ตั้งฐานทัพทหารบนมากมายบนหลายเกาะของโอะกินะวะ
ในค.ศ. 1972 รัฐบาลสหรัฐฯ ได้คืนโอะกินะวะคืนให้แก่รัฐบาลญี่ปุ่นภายใต้สนธิสัญญาความร่วมมือและความปลอดภัยระดับทวิภาคีระหว่างสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น (ภาษาอังกฤษ: Treaty of Mutual Cooperation and Security between the United States and Japan; ภาษาญี่ปุ่น: ??????????????????????????? Nippon-koku to Amerika-gassh?koku to no Aida no S?go Ky?ryoku oyobi Anzen Hosh? J?yaku) ในปัจจุบัน กองกำลังสหรัฐอเมริกาในญี่ปุ่น (ภาษาอังกฤษ: United States Forces in Japan (USFJ) ; ภาษาญี่ปุ่น: ???? Zainichi Beigun) มีขนาดใหญ่ถึง 27,000 นาย รวมถึงนาวิกโยธิน 15,000 นาย ซึ่งมีทั้งกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ นอกจากนี้ยังมีสมาชิกครอบครัวอีก 22,000 คนอาศัยอยู่ในโอะกินะวะ เนื้อที่ 18% ของเกาะโอะกินะวะอันเป็นเกาะหลักเป็นพื้นที่ของฐานทัพสหรัฐฯ และ 75% ของ USFJ ของในจังหวัดโอะกินะวะ
จำนวนอุบัติเหตุและอาชญากรรมที่คนของสหรัฐฯ เป็นผู้ก่อนั้น ได้ทำให้ชาวโอะกินะวะสนับสนุนการตั้งฐานทัพน้อยลงทุกที ๆ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหรัฐฯและญี่ปุ่นต่างเห็นพ้องกันว่าการมีฐานทัพทหารบนเกาะโอะกินะวะนั้นจำเป็นอย่างยิ่ง เหตุการณ์คนของสหรัฐฯข่มขืนเด็กหญิงอายุ 12 ขวบบนเกาะโอะกินะวะในค.ศ. 1995 ได้ก่อให้เกิดกระแสต่อต้านฐานทัพสหรัฐฯเป็นอย่างมาก ส่งผลให้รัฐบาลสหรัฐฯและญี่ปุ่นต้องย้ายฐานทัพอากาศนาวิกโยธินฟุเตนมะ (Marine Corps Air Station Futenma หรือ MCAS Futenma) และฐานทัพเล็กอื่น ๆ ออกไปห่างไกลชุมชน อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน การปิดฐานทัพถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด ประเด็นนี้ได้ก่อให้เกิดความรู้สึกต่อต้านญี่ปุ่นและกลุ่มเรียกร้องอิสรภาพริวกิว (?????? Ry?ky? Dokuritsu Und?) ขึ้นมาไม่นานมานี้เอง
เนื่องจากในอดีต โอะกินะวะ เคยมีเอกราชของตัวเองมาก่อน ภาษาและวัฒนธรรมของโอะกินะวะจึงค่อนข้างแตกต่างจากญี่ปุ่น
ยังคงมีผู้พูดภาษาริวกิวอันอยู่บ้าง ซึ่งผู้พูดภาษาญี่ปุ่นจะเข้าใจได้ยาก ภาษาริวกิวอันนี้ไม่เป็นที่ยอมรับในญี่ปุ่นแผ่นดินใหญ่ คนรุ่นใหม่ละเลยภาษาพื้นเมืองดั้งเดิมของตัวเองมากขึ้นทุกที ๆ นักภาษาศาสตร์ที่ไม่ใช่ชาวญี่ปุ่นส่วนมากจัดให้ภาษาริวกิวอันมีความแตกต่างจากภาษาญี่ปุ่น แต่ในชาวญี่ปุ่นและชาวท้องถิ่นจัดให้เป็นภาษาท้องถิ่นหนึ่งของญี่ปุ่น โดยปัจจุบัน ภาษาญี่ปุ่นมาตรฐานถูกใช้เป็นภาษาทางการ ในความเป็นจริงแล้ว ภาษาที่ชาวโอะกินะวะอายุต่ำกว่า 60 ปีใช้กันทั่วไปเป็นภาษาญี่ปุ่นสำเนียงโอกินะวะที่เรียกว่า ภาษาปากโอะกินะวัน (?????????, ????? Uchin? Yamatoguchi) ซึ่งได้รับอิทธิพลจากภาษาริวกิวอัน และภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกัน และมักสับสนกับภาษาโอกินะวันดั้งเดิม (?????? Uchinaaguchi) ที่มักใช้ในการการแสดงและการละเลนพื้นเมือง เช่น เพลงพื้นเมือง ระบำพื้นเมือง เป็นต้น นอกจากนี้ ข่าวท้องถิ่นยังใช้ภาษาโอกินะวันดั้งเดิมเช่นกัน
ชาวโอะกินะวะ มีความเชื่อของตัวเอง โดยจะบูชาบรรพบุรุษ และเคารพความสัมพันธ์ระหว่างชีวิต ความตาย เทพเจ้า และวิญญาณต่าง ๆ ที่สถิตในธรรมชาติ
วัฒนธรรมโอะกินะวะได้รับอิทธิพลจากชาติต่าง ๆ ที่เคยทำการค้าด้วยกันมาแต่ในอดีต แม้ในปัจจุบัน เราอาจพบสินค้าและวัฒนธรรมจากประเทศต่าง ๆ เช่น จีน ไทย และออสโตรเนเชียน (ชวา มาเลย์) ในย่านการค้าของโอะกินะวะ เราอาจพูดได้ว่าวัฒนธรรมที่โอะกินะวะส่งออกไปทั่วโลกคือ คาราเต้ (?? Karate) ซึ่งเป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวของศิลปะการต่อสู้ของจีนนั่นคือ กังฟู (??, g?ngf?) และศิลปะการต่อสู้ดั้งเดิมของโอะกินะวะ ศิลปะการต่อสู้นี้พัฒนาอย่างต่อเนื่องถึงสองสมัย คือในระหว่างการสั่งห้ามใช้อาวุธหลังการยึดครองของญี่ปุ่นจนถึงรัฐบาลเมจิ
สินค้าท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงของโอะกินะวะอีกอย่างคือ อะวะโมะริ (?? Awamori) ซึ่งเป็นสุรากลั่น ทำจากข้าวเจ้านำเข้าจากประเทศไทย