งานวันวิสาขบูชาโลก เป็นการจัดงาน เฉลิมฉลอง วันวิสาขบูชา วันสำคัญสากล ของสหประชาชาติ ภายใต้งาน คุณูปการของพระพุทธศาสนา ต่อสันติภาพโลก และการพัฒนาที่ยั่งยืน และจะพัฒนาพุทธศาสนา ให้เป็นศูนย์กลาง พระพุทธศาสนาโลก เริ่มต้นตามมติสหประชาชาติ ในปี พ.ศ. 2547 โดยประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ในปี 2548 และ 2549
ระหว่างวันที่ 18-21 พฤษภาคม 2548 ซึ่งมีชาวพุทธนานาชาติจาก 42 ประเทศ เข้าร่วมและมีมติลงนามในแถลงการณ์ร่วมให้พุทธมณฑลเป็นศูนย์พระพุทธศาสนาโลก และให้จัดฉลองวันวิสาขบูชาโลกในไทยต่อไป โดยให้ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยเป็นองค์กรประสานงานและดำเนินการนั้น งานในปี 2548 ยังมีกิจกรรมมากมาย รวมทั้งการร่วมทำการ์ด 1คน1สัจจะ ทำดีได้ไม่ต้องเดี๋ยว แจกผู้เข้าร่วมงานให้ทุกคนเขียนคำอธิษฐาน ตั้งใจว่าทำความดีเป็นการให้สัจจะไว้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากนั้นจะได้ส่งมอบให้กับนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร มีการประชาสัมพันธ์ ตัวมาสคอต (Mascot) สีขาวที่มีชื่อว่า "ดี" และสีดำที่ชื่อว่า "เดี๋ยว" ประชุมชาวพุทธนานาชาติ ที่ศูนย์ประชุมองค์การสหประชาชาติ, นิทรรศการสัปดาห์พระพุทธศาสนาขึ้น ที่ท้องสนามหลวง โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ออกมาให้ประชาชนได้มีโอกาสสักการบูชา และเวียนเทียน เพื่อเป็นสิริมงคลต่อชีวิต, การจัดสัมมนาวิชาการ, ทัศนศึกษาศาสนสถาน เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในวโรกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เจริญพระชนมพรรษา 50 พรรษา เป็นการเริ่มจัดงานเฉลิมฉลองบูชาพิเศษกว่าที่มีมา โดยยึดแบบอย่างจารีตประเพณีในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น สมัยรัชกาลที่ 2
คณะกรรมการโครงการรวม ดวงใจศิลปิน เพื่อพระพุทธศาสนาร่วม กับบรรดาองค์กร ทางพระพุทธศาสนาต่าง ๆ จึงจัด "มหกรรมละครพุทธประวัติ" เรื่อง "สิทธัตถะ พุทธบารมี" เป็นการประชาสัมพันธ์การจัดเฉลิมฉลองดังกล่าวโดยมี ดาราและนักแสดงกิตติมศักดิ์ร่วมแสดง อาทิ ต่อ-นันทวัฒน์ อาศิรพจนกุล รับบทเป็นเจ้าชายสิทธัตถะและ บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี เป็นพระแม่ธรณีบีบมวยผม ส่วนนักแสดงกิตติมศักดิ์ คุณหญิงพันธุ์เครือ ยงใจยุทธ เป็นพระนางสิริมหามายา ศุภชัย ไพจิตร เป็นพระสันตดุสิตโพธิสัตว์ และ วรภัทร วิลาวรณ์ เป็นเจ้าชายเทวฑัต พร้อมผู้แสดงอื่น ๆ อีกมากมายโดยมีกำหนดแสดงในวันที่ 16 พ.ค. 2547 ณ หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 18.00 น. นำรายได้สมทบกองทุนยาพระวรราชาทินัดดามาตุฯ และสมทบกองทุนเผยแผ่ ธรรมะทางวิทยุโทรทัศน์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย