คอนโดมิเนียม หรือเรียกสั้น ๆ ว่า คอนโด ส่วนในภาษาไทยคณะกรรมการบัญญัติศัพท์สถาปัตยกรรมศาสตร์บัญญัติเรียกว่า อาคารชุด
เป็นอีกรูปแบบของที่อยู่อาศัยที่เจ้าของห้องชุดจะต้องแชร์ความเป็นเจ้าของร่วมกับเจ้าของห้องชุดอื่นๆ ในพื้นที่ส่วนกลางเช่น ทางเดิน บริเวณห้องโถง ลิฟท์ โรงจอดรถ สระว่ายน้ำ สนามเด็กเล่น ซึ่งเจ้าของห้องชุดทุกท่านจะเป็นเจ้าของร่วมตามกฎหมาย ลักษณะของห้องเหมือนกับการอยู่อพารตร์เมนท์เพียงแต่เราเป็นเจ้าของห้องไม่ใช่ผู้เช่า
คอนโดมิเนียมเริ่มจากประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดา คำเรียก Condominium จะต่างกันไปในแต่ละประเทศ ธนิดา กิตติอดิสร จากราชบัณฑิตยสถานระบุว่า "คำว่าคอนโดมิเนียมในภาษาอังกฤษหมายถึงการถือกรรมสิทธิ์ร่วมกันในอาคารขนาดใหญ่ที่แบ่งซอยเป็นส่วนต่าง ๆ ให้คนต่างครอบครัวพักอยู่ ต่อมามีความหมายถึง อาคารที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน หรืออาคารอื่น ที่บุคคลสามารถแยกการถือกรรมสิทธิ์ออกได้เป็นส่วน ๆ โดยแต่ละส่วนประกอบด้วยกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ส่วนบุคคลและกรรมสิทธิ์ร่วมกัน"
ในออสเตรเลียและแคนาดาเฉพาะรัฐ บริติชโคลัมเบีย นิยมเรียกว่า Strata Title ในขณะที่ ควิเบค เรียกว่า "Divided Co-property" (French: co-propri?t? divis?e) ส่วนในประเทศอังกฤษและเวลส์ เรียกว่า Commondhold ในฝรั่งเศสเรียกว่า Copropri?t? (co-ownership)
คอนโดแนวสูง หรือ Condominium High Rise หมายถึงคอนโดที่มีจำนวนชั้นสูงๆ จำนวนยูนิตมากๆ หลายร้อยถึงพันยูนิต โดยธรรมชาติคอนโดพวกนี้จะต้องติดถนนใหญ่ (กว้างกว่า 10 เมตร ตามกฎหมาย) และอยู่ในทำเลที่ค่อนข้างดี จึงต้องทำสูงๆเพื่อให้ผลตอบแทนคุ้มค่า ข้อดีของคอนโดประเภทนี้คือสามารถได้รับวิวที่สูง เช่น วิวในตัวเมืองใหญ่ๆ และมักจะมีค่าส่วนกลางที่ถูกกว่า เนื่องมาจากมียูนิตหารมาก สำหรับปัญหาส่วนหนึ่งอเรื่องของการขาดความเป็นส่วนตัว ถูกรบกวนจากเพื่อนบ้าน หรือบางทีเราก็เป็นคนหนึ่งที่กำลังรบกวนความสงบของเพื่อนบ้านโดยที่ไม่รู้ตัว ซึ่งอันที่จริงปัญหานี้อาจไม่ได้เกิดจากผู้อยู่อาศัยเสมอไป แต่อยู่ที่การออกแบบโครงสร้างอาคารที่ไม่เหมาะสมกับจำนวนผู้อยู่อาศัย อาคารที่สูงมักมีจำนวนยูนิตมากเกินไป สวนทางกับพื้นที่ส่วนกลางที่มีอยู่น้อยนิด ไม่เพียงพอที่จะรองรับผู้อยู่อาศัยได้ทั้งหมด
คอนโดแนวต่ำ Condominium Low Rise หมายถึงคอนโดที่มีจำนวนชั้นไม่มาก จุดเด่นของโลว์ไรส์ อยู่ที่จำนวนยูนิตน้อย เปรียบเทียบง่ายๆ ถ้าเป็นคอนโดขนาดใหญ่ สูง 20-30 ชั้น ทั้งอาคารจำนวนยูนิตเป็นพันขึ้นไป คนอยู่เยอะมาก ขณะที่คอนโดขนาดเล็กอย่างโครงการ The Privacy ที่เน้นให้ผู้อยู่อาศัยมีพื้นที่ส่วนตัว อยู่สบายเหมือนอยู่บ้าน จึงออกแบบให้อาคารสูงแค่ 7 ชั้น ทั้งอาคาร 78 ยูนิตเท่านั้น ผู้อยู่อาศัยจึงน้อยกว่ากันมาก ทำให้แต่ละคนมีพื้นที่ส่วนตัวของตัวเองได้ ไม่ต้องแย่งกันใช้พื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกอย่าง ห้องนั่งเล่น ห้องฟิตเนส และสระว่ายน้ำมากนัก เวลามีรถก็ไม่ต้องลำบากวนขึ้นไปจอดตามชั้นสูงๆ หรือเจอปัญหารถติดในคอนโด แล้วข้อดีอีกอย่างที่ใครหลายคนอาจไม่เคยนึกถึงคือ เวลาเกิดเหตุฉุกเฉิน อย่าง อัคคีภัย หรือแผ่นดินไหว ชาวคอนโดขนาดเล็กสามารถใช้บันไดหลบหนีได้สะดวกและรวดเร็วกว่าคอนโดขนาดใหญ่แน่นอน