ค้นหา
  
Search Engine Optimization Services (SEO)

ความถูกต้องทางการเมือง

ความถูกต้องทางการเมือง (อังกฤษ: Political correctness หรือใช้อักษรย่อว่า “PC”) คือคำที่ใช้สำหรับภาษา, ความคิดเห็น, นโยบาย และ พฤติกรรมหลีกเลี่ยงการดูหมิ่นหรือการสร้างความรู้สึกขุ่นเคืองแก่เพศ, ผิว, วัฒนธรรม, เพศภาพ (sexual orientation), ผู้พิการ และ สิ่งที่เกี่ยวกับผู้มีอายุขัย การใช้ในปัจจุบันส่วนใหญ่มักจะใช้ไปในเชิงเสียดสี (pejorative) ที่สื่อความคิดของ “การยอมรับ” และ “การไม่ยอมรับ” ขณะที่คำว่า “ความไม่ถูกต้องทางการเมือง” (อังกฤษ: politically incorrect) เป็นคำที่ใช้สำหรับการบรรยายตนเองในทางบวก ตัวอย่างเช่น “คู่มือความไม่ถูกต้องทางการเมือง” ของฝ่ายอนุรักษนิยม และรายการโทรทัศน์ “ความไม่ถูกต้องทางการเมือง” ฉะนั้นความไม่ถูกต้องทางการเมืองจึงหมายถึงการใช้ภาษา, การออกความคิดเห็น, การออกนโยบาย และ พฤติกรรมทีไม่ถูกจำกัดอยูในกรอบของความเป็นอนุรักษนิยม และกรอบของความกังวลที่ว่าสิ่งที่พูดที่กระทำจะสร้างความรู้สึกขุ่นเคืองหรือความหมางใจให้แก่ผู้อื่น

หลักฐานแรกของวลี “ไม่ถูกต้องทางการเมือง” (อังกฤษ: not politically correct) พบในคำตัดสินในกรณี “คดีชิสซอล์ม และ จอร์เจีย” โดยศาลยุติธรรมสูงสุดแห่งสหรัฐอเมริกา (ค.ศ. 1793) ที่กล่าวว่าประโยคของคำตัดสินไม่ถูกต้องตามตัวอักษร ที่เข้าใจกันในสหรัฐในคริสต์ศตวรรษที่ 18 ว่า “รัฐ, แทนที่จะเป็นประชาชน, ผู้ที่เป็นผู้ก่อให้รัฐเกิดขึ้นได้, มักจะเป็นเป้าที่ดึงดูด และ เรียกความสนใจ. . . .ความรู้สึกเช่นนั้นและการแสดงออกของความไม่ถูกต้องยังคงตกค้างอยู่ในภาษาโดยทั่วไป แม้ในโอกาสอันรื่นรมณ์ เช่นการดื่มอวยพรเป็นการถามหรือ? [แด่] ‘สหรัฐอเมริกา’, แทนที่จะเป็น [แด่] ‘ประชาชนแห่งสหรัฐอเมริกา’ จะเป็นการอวยพรที่เป็นคำตอบ ซึ่งเป็นความไม่ถูกต้องทางการเมือง”

ระหว่างสงครามโลกครั้งที่หนึ่งอาร์โนลด์ เบ็นเนทท์แห่งกระทรวงข้อมูลแห่งสหราชอาณาจักรใช้คำว่า “ถูกต้องทางการเมือง” (อังกฤษ: politically correct) ในการกล่าวถึง “ความเหมาะสม”

ในศัพท์ของลัทธิมาร์กซ–ลัทธิเลนิน และ ลัทธิทรอทสกี คำว่า “ถูกต้อง” (อังกฤษ: correct) เป็นคำที่ใช้โดยทั่วไปที่หมายถึง “ความเหมาะสมตามนโยบายของพรรค” และ ตรงตามปรัชญาของพรรค ซึ่งก็ตรงกับการประกาศของเหมา เจ๋อตงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนเกี่ยวกับความ “ถูกต้อง” ในการดำเนินการเกี่ยวกับ “ข้อขัดแย้งที่มิได้สร้างความเป็นปรปักษ์” (อังกฤษ: non-antagonistic contradictions) ศาสตราจารย์ของวิชาวรรณกรรมรูธ เพอร์รีแห่งสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์สืบคำกล่าวของเหมา เจ๋อตงไปถึง “Little Red Book” (ค.ศ. 1964)[ต้องการอ้างอิง]

ในคริสต์ทศวรรษ 1960 ฝ่ายซ้ายจัดเริ่มนำวลีนี้มาใช้ โดยเริ่มการใช้ตามความหมายตามตัวอักษร แต่ต่อมาใช้ในเชิงประชดประชันในการวิจารณ์ตนเองเกี่ยวกับการยึดมั่นในทัศนคติทางหลักการอย่างฝังหัว (dogmatic attitudes) เมื่อมาถึงปี ค.ศ. 1970 ผู้สนับสนุนฝ่ายซ้ายใหม่ก็เริ่มใช้คำว่า “ความถูกต้องทางการเมือง” (อังกฤษ: political correctness) ในบทความ “สตรีผิวดำ” โดยนักประพันธ์และนักต่อสู้เพื่อสังคมโทนี คาเด บามบารากล่าวว่า: “ผู้ชายไม่สามารถที่จะเป็นผู้ที่มีพฤติกรรมที่ “ถูกต้องทางการเมือง” และเป็นชายหลงตัวหลงอำนาจ (Male chauvinism) ไปด้วยในขณะเดียวกัน” ต่อมาฝ่ายซ้ายใหม่ก็ใช้วลี “ความถูกต้องทางการเมือง” ในการวิจารณ์ตนเองเชิงเสียดสี เช่นในกรณีของเดบรา ชุลทซ์ผู้กล่าวว่า: “ตลอดคริสต์ทศวรรษ 1970 และ 1980 ฝ่ายซ้ายใหม่, ผู้ต่อสู้เพื่อสิทธิสตรี และผู้มีหัวก้าวหน้า. . .ใช้คำว่า “ความถูกต้องทางการเมือง” ในเชิงเหยียดในการป้องกันแนวคิดเชิงอนุรักษนิยมของตนเองต่อความพยายามในการเปลี่ยนแปลงสังคม” นอกจากนั้นนักเขียนเอลเลน วิลลิสก็ยังกล่าวว่า: “ . . . เมื่อต้นคริสต์ทศวรรษ 1980 ผู้ต่อสู้เพื่อสิทธิสตรีใช้คำว่า “ความถูกต้องทางการเมือง” ในการกล่าวอย่างเสียดสีถึงความพยายามของขบวนการต่อต้านการอนาจาร (Anti-pornography movement) ในการให้ความหมายของคำว่า “เพศสภาพของสตรี” (feminist sexuality)

การใช้วลี “ความถูกต้องทางการเมือง” และวลีที่คล้ายคลึงกันอย่างกว้างขวางเริ่มขึ้นเมื่อเริ่มใช้ในเชิงเหยียดโดยนักการเมืองฝ่ายขวาในคริสต์ทศวรรษ 1990 ในบริบทของสงครามวัฒนธรรม ริชาร์ด เบิร์นสไตน์ในเดอะนิวยอร์กไทมส์ในปี ค.ศ. 1990 ตั้งข้อสังเกตว่า “คำว่า “ความถูกต้องทางการเมือง” ในเชิงอนุรักษนิยมของลัทธิสตาลินมักจะใช้ในเชิงเหน็บแนมและไม่เห็นด้วยมากกว่าที่จะเป็นเชิงชื่นชม แต่โดยทั่วไปแล้วคำว่า “ความถูกต้องทางการเมือง” จะได้ยินกันบ่อยขึ้นในบริบทของการโต้เถียงกันว่าสิ่งใดควรสอนหรือสิ่งใดไม่ควรสอนในมหาวิทยาลัย” เบิร์นสไตน์กล่าวถึงการประชุมของ Western Humanities Conference ที่เบิร์คลีย์ในหัวเรื่อง “ความถูกต้องทางการเมือง” และ “วัฒนธรรมศึกษา” ที่วิจัย “ผลที่เกิดขึ้นจากความกดดันในการพยายามที่จะทำตามความนิยมร่วมสมัยที่เป็นที่ยอมรับต่อทุนการเรียน” และกล่าวถึง “ผู้ปฏิบัติตามความถูกต้องทางการเมือง” (อังกฤษ: politically correct people หรือ p.c.p) แต่เป็นคำที่ไม่ได้รับความนิยมจนเป็นที่ใช้โดยทั่วไป

ภายในสองสามปีวลีที่เดิมไม่ไคร่เป็นที่รู้จักกันเท่าใดนักก็เริ่มนำมาใช้กันอย่างสม่ำเสมอในความหมายในการท้าทายความอนุรักษนิยมทางการเมืองและสังคมในการต่อต้านการขยายตัวของวิธีการสอนแบบก้าวหน้า (progressive teaching method) ในโรงเรียนมัธยมในสหรัฐอเมริกา และมหาวิทยาลัย ในปี ค.ศ. 1991 ประธานาธิบดีจอร์จ เอช. ดับเบิลยู. บุชกล่าวปาฐกถาต่อนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยมิชิแกนต่อต้าน “ . . . ขบวนการ[ที่จะ]ประกาศว่าหัวเรื่องบางเรื่องเป็นหัวเรื่องที่อยู่ ‘นอกข่าย’ (off-limits), หรือคำพูดบางคำว่าอยู่ ‘นอกข่าย’, หรือแม้แต่ท่าทางบางอย่างว่าเป็นสิ่ง ‘นอกข่าย’” ที่เป็นนัยยะถึงผู้ปฏิบัติตามความถูกต้องทางการเมืองผู้เป็นเสรีนิยม การใช้วลีที่ทำกันเสมอที่สุดคือการใช้ในเชิงเหยียดว่าเป็นการพยายามหลีกเลี่ยงความกระทบกระเทือนต่อผู้หนึ่งผู้ใดหรือสิ่งหนึ่งสิ่งใดกันอย่างพร่ำเพรื่อ เหนือวิจารณญาณอื่นใด

การใช้วลีนี้ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับหัวข้อเรื่องชาติพันธุ์และเพศ ที่รวมทั้งภาษาที่ใช้และทัศนคติที่มีต่อหัวข้อที่กล่าวถึง ผู้สนับสนุนทัศนคติที่ว่าชนผิดดำโดยทั่วไปมีสติปัญญาด้อยกว่าชนผิวขาว หรือ สตรีมีสติปัญญาด้อยกว่าชายกล่าวว่าการวิจารณ์ทัศนคติดังกล่าวมีสาเหตุมาจากความถูกต้องทางการเมือง

โดยทั่วไปแล้วไม่ว่าจะนโยบายใดหรือข้ออ้างใดที่เป็นปฏิปักษ์ต่อฝ่ายขวาเช่นการอ้างว่าปรากฏการณ์โลกร้อนเป็นปัญหาวิกฤติที่ต้องมีการออกนโยบายตอบโต้ปัญหาที่เกิดขึ้นก็จะได้รับการวิจารณ์ว่าเป็นพฤติกรรมที่มีแรงบันดาลใจมาจาก “ความถูกต้องทางการเมือง”

ในสหราชอาณาจักร “ความเกินเลยของความถูกต้องทางการเมือง” เป็นสำนวนติดปากที่ใช้กันอย่างแพร่หลายโดยหนังสือพิมพ์อนุรักษนิยมเดลลีเมล การตีความหมายตามตัวอักษรก็อาจจะหมายความว่าสำนวนติดปากที่ใช้เพื่อ “ความถูกต้องทางการเมือง” ทำกันอย่างพร่ำเพรื่อเกินเลยกว่าที่ควรจะเป็น แต่ตามความเป็นจริงแล้ววลีนี้เป็นวลีที่ส่วนใหญ่จะใช้ในเชิงเหยียด และสำนวนติดปากที่ใช้ก็จะเกี่ยวกับเรื่องราว (ที่ส่วนใหญ่เป็นเกร็ดเรื่อง) ที่เป็นตัวอย่างของการใช้ “ความถูกต้องทางการเมือง” อย่างเกินกว่าเหตุ

การใช้ “ความถูกต้องทางการเมือง” เป็นที่นิยมกันในสแกนดิเนเวีย (“politiskt korrekt” ย่อว่า “PK”), ในโปรตุเกส, สเปน และ ลาตินอเมริกา (สเปน: pol?ticamente correcto, โปรตุเกส: politicamente correcto), ฝรั่งเศส (politiquement correct), เยอรมนี (politisch korrekt), โปแลนด์ (poprawno?? polityczna), สโลวีเนีย (politi?no korekten), เนเธอร์แลนด์ และ ฟลานเดอร์ส (politiek correct), อิตาลี (politicamente corretto), รัสเซีย (?????????????????) และ นิวซีแลนด์,

ผู้วิจารณ์อนุรักษนิยมฝ่ายขวา และ ฝ่ายอิสรเสรีนิยมอ้างว่า “ความถูกต้องทางการเมือง” เป็นปรัชญาลัทธิมาร์กซที่กัดกร่องคุณค่าของวัฒนธรรมตะวันตกปีเตอร์ ฮิทเคนส์เขียนใน “การยุบเลิกบริเตน” (อังกฤษ: The Abolition of Britain) ว่า: “วลีที่ชาวอเมริกันใช้กันตามสบาย. . .“ความถูกต้องทางการเมือง” คือระบบความคิดที่แคบที่มามีอิทธิพลเป็นอันมากที่สุดในเกาะอังกฤษตั้งแต่ การปฏิรูปศาสนา” วิลเลียม เอส. ลินด์ และ แพ็ททริค บุคานันบรรยาย “ความถูกต้องทางการเมือง” ว่าเป็นเท็คนิคที่เริ่มขึ้นโดยตระกูลความคิดฟรังเฟิร์ตที่มีวัตถุประสงค์ในการบ่อนทำลายคุณค่าของวัฒนธรรมตะวันตกโดยมีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมสมัยนิยมโดยวัฒนธรรมมลัทธิมาร์กซ.แพ็ททริค บุคานันกล่าวในหนังสือ “การสิ้นสุดของโลกตะวันตก” (อังกฤษ: The Death of the West) ว่า: “ความถูกต้องทางการเมืองคือวัฒนธรรมมลัทธิมาร์กซ ของสถาบันการปกครองที่ลงโทษผู้ทรยศต่อหลักการและประทับตราผู้ไม่เห็นด้วยว่าเป็นผู้นอกระบบสังคม เช่นเดียวกับการลงโทษผู้นอกศาสนาคริสต์โดยผู้ไต่สวนศรัทธา สิ่งที่เด่นของความคิดที่ว่านี้คือการไม่ยอมรับความคิดนอกระบบ”

ในการพยายามเลือกคำที่ใช้ให้ “ถูกต้องทางการเมือง” เอ็ดนา แอนดรูว์ส์กล่าวว่าการใช้ภาษาที่เป็น “คำรวม” (inclusive) และ “คำกลาง” (neutral) มีรากฐานมาจากปรัชญาที่ว่า “ภาษาคือสิ่งที่แทนความคิด และอาจจะถึงกับควบคุมความคิด” ข้ออ้างนี้มาจากสมมุติฐานซาเพียร์–วอร์ฟ (Sapir–Whorf hypothesis) ที่กล่าวว่ากลุ่มไวยากรณ์ของภาษามีอิทธิพลต่อความคิดและพฤติกรรม แต่แอนดรูว์ส์กล่าวว่าความเข้าใจเพียงเล็กน้อยของความสัมพันธ์ระหว่างภาษาและความคิดก็เพียงพอที่จะสนับสนุน “การกำจัดระดับอย่างมีเหตุผล. . . [ของ]ความเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมโดยเปลี่ยนแปลงทางภาษาศาสตร์”

งานทางด้านจิตวิทยาเชิงการรู้ (cognitive psychology) และ ภาษาศาสตร์เชิงการรู้ (cognitive linguistics) ชี้ให้เห็นว่าการเลือกคำมีอิทธิพลสร้างรูปแบบของสัญชาน, ความทรงจำ และทัศนคติของทั้งผู้พูดและผู้ฟัง ฉะนั้นคำถามจึงอยู่ที่ว่าภาษาที่ไม่มีเพศจะสามารถสร้างความลำเอียงทางต่อทัศนคติเกี่ยวกับเพศ (sexism) ได้หรือไม่--ทัศนคติหรือพฤติกรรมทางลบ

ผู้สนับสนุนภาษาเอกเพศ (Gender-neutral language) โต้ว่าการใช้ภาษาดังว่าเป็นการใช้ภาษาที่ไม่สร้างอันตรายจากเหตุผลหลายประการ:

ผู้วิจารณ์ความคิดดังว่านี้และภาษาเอกเพศโดยทั่วไปก็มักจะใช้คำว่า “ความถูกต้องทางการเมือง”.

ข้อติที่พบโดยทั่วไปเกิดขึ้นเมื่องคำที่เลือกใช้โดยกลุ่มว่าเป็นคำที่เหมาะแก่กลุ่ม และกลายมาเป็นคำที่ใช้กันโดยทั่วไปรวมทั้งการใช้โดยผู้เหยียดผิวเหยียดเพศ ฉะนั้นคำใหม่จึงกลายเป็นคำที่หมดความหมาย ซึ่งทำให้ต้องคิดหาคำใหม่ขึ้นมาแทนที่ เช่นในกรณีของการวิวัฒนาการจากคำว่า “นีโกร” มาเป็น “คนผิวสี” มาเป็น “คนดำ” มาเป็น “แอฟริกันอเมริกัน”

นักวิจารณ์การเมืองฝ่ายซ้ายอ้างว่าหลังจาก ค.ศ. 1980 นักอนุรักษนิยมอเมริกันฝ่ายขวานิยามคำว่า “ความถูกต้องทางการเมือง” ขึ้นมาใหม่เพื่อเปลี่ยนแปลงกรอบความคิดของการเมืองอเมริกันในรูปของสงครามวัฒนธรรม ฮัททันรายงานว่า:

ความถูกต้องทางการเมืองเป็นอุปกรณ์วิเศษที่ชาวอเมริกันฝ่ายขวาพัฒนาขึ้นมาราวกลางคริสต์ทศวรรษ 1980 ที่เป็นส่วนหนึ่งของการทำลายความเป็นเสรีนิยมอเมริกัน. . . .สิ่งที่ฝ่ายขวามองเห็นชัดอย่างรวดเร็วคือถ้าทำการประกาศสงครามพัฒนาทางด้านวัฒนธรรมของเสรีนิยม — โดยใช้ “ความถูกต้องทางการเมือง” ในการต่อต้านแล้ว — ฝ่ายขวาก็จะสร้างความเสื่อมเสียให้แก่โครงการทางการเมืองได้ทั้งหมด

นอกจากนั้นแล้วนักวิจารณ์การเมืองยังอ้างว่าอันที่จริงแล้วสหรัฐไม่เคยมี “ขบวนการเพื่อความถูกต้องทางการเมือง และกล่าวว่าผู้ใช้วลีนี้ทำเพื่อหันเหความสนใจจากประเด็นสำคัญในการถกเถียงในเรื่องที่เกี่ยวกับการเหยียดผิว, ชั้นวรรณะ และเพศ และการปฏิบัติทางกฎหมายที่ไม่เท่าเทียมกัน” ในทำนองเดียวกันพอลลี ทอยน์บีโต้ว่า “วลีดังกล่าวเป็นวลีของฝ่ายขวาที่ปราศจากความหมายที่ใช้เพื่อป้ายสีผู้อื่น เพื่อทำให้ภาพพจน์ของตนเองดีขึ้น”

วลี “ความถูกต้องทางการเมือง” เกิดขึ้นเพื่อใช้เป็นรหัสที่หมายถึงผู้ที่ยังคงต้องการใช้คำว่า “Paki”, “spastic” หรือ “queer” หรือทุกคนที่ต้องการที่จะเหยียดหยามผู้ที่ไม่เหมือนตน หรือ ผู้ชอบข่มเหงผู้อื่นผู้ที่ไม่ยอมโต สังคมของ “ความถูกต้องทางการเมือง” เป็นสังคมที่มีวัฒนธรรม แม้ว่าเราจะต้องหลิ่วตากับการหากลวิธีต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการทำให้ผู้อื่นไม่หมางใจ


 

 

รับจำนำรถยนต์ รับจำนำรถจอด

เบอร์ลินตะวันออก ประเทศเยอรมนีตะวันออก ปฏิทินฮิบรู เจ้า โย่วถิง ดาบมังกรหยก สตรอเบอร์รี ไทยพาณิชย์ เคน ธีรเดช อุรัสยา เสปอร์บันด์ พรุ่งนี้ฉันจะรักคุณ ตะวันทอแสง รัก 7 ปี ดี 7 หน มอร์ มิวสิค วงทู อนึ่ง คิดถึงพอสังเขป รุ่น 2 เธอกับฉัน เป๊ปซี่ น้ำอัดลม แยม ผ้าอ้อม ชัชชัย สุขขาวดี ประชากรศาสตร์สิงคโปร์ โนโลโก้ นายแบบ จารุจินต์ นภีตะภัฏ ยัน ฟัน เดอร์ไฮเดิน พระเจ้าอาฟงซูที่ 6 แห่งโปรตุเกส บังทันบอยส์ เฟย์ ฟาง แก้ว ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ เอ็มมี รอสซัม หยาง มี่ ศรัณยู วินัยพานิช เจนนิเฟอร์ ฮัดสัน เค็นอิชิ ซุซุมุระ พอล วอล์กเกอร์ แอนดรูว์ บิ๊กส์ ฮันส์ ซิมเมอร์ แบร์รี ไวต์ สตาญิสวัฟ แลม เดสมอนด์ เลเวลีน หลุยส์ที่ 4 แกรนด์ดยุคแห่งเฮสส์และไรน์ กีโยม เลอ ฌ็องตี ลอเรนโซที่ 2 เดอ เมดิชิ มาตราริกเตอร์ วงจรรวม แจ็ก คิลบี ซิมโฟนีหมายเลข 8 (มาห์เลอร์) เรอัลเบติส เฮนรี ฮัดสัน แคว้นอารากอง ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน กันต์ กันตถาวร เอก ฮิมสกุล ปัญญา นิรันดร์กุล แฟนพันธุ์แท้ 2014 แฟนพันธุ์แท้ 2013 แฟนพันธุ์แท้ 2012 แฟนพันธุ์แท้ 2008 แฟนพันธุ์แท้ 2007 แฟนพันธุ์แท้ 2006 แฟนพันธุ์แท้ 2005 แฟนพันธุ์แท้ 2004 แฟนพันธุ์แท้ 2003 แฟนพันธุ์แท้ 2002 แฟนพันธุ์แท้ 2001 แฟนพันธุ์แท้ 2000 บัวชมพู ฟอร์ด ซาซ่า เดอะแบนด์ไทยแลนด์ แฟนพันธุ์แท้ปี 2015 แฟนพันธุ์แท้ปี 2014 แฟนพันธุ์แท้ปี 2013 แฟนพันธุ์แท้ปี 2012 ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ พรสวรรค์ บันดาลชีวิต บุปผาราตรี เฟส 2 โมเดิร์นไนน์ ทีวี บุปผาราตรี ไฟว์ไลฟ์ แฟนพันธุ์แท้ รางวัลนาฏราช นักจัดรายการวิทยุ สมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 7 แบร์นาร์แห่งแกลร์โว กาอึน จิรายุทธ ผโลประการ อัลบาโร เนเกรโด ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ เอมี่ อดัมส์ ทรงยศ สุขมากอนันต์ ดอน คิง สมเด็จพระวันรัต (จ่าย ปุณฺณทตฺโต) สาธารณรัฐเอสโตเนีย สาธารณรัฐอาหรับซีเรีย เน็ตไอดอล เอะโระเก คอสเพลย์ เอวีไอดอล ช็อคโกบอล มุกะอิ

 

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45
46
47
48
49
50
51
52
53
54
55
56
57
58
59
60
61
62
63
64
65
66
67
68
69
70
71
72
73
74
75
76
77
78
79
80
81
82
83
84
85
86
87
88
89
90
91
92
93
94
95
96
97
98
99
100
101
102
103
104
105
106
107
108
109
110
111
112
113
114
115
116
117
118
119
120
121
122
123
124
125
126
127
128
129
130
131
132
133
134
135
136
137
138
139
140
141
142
143
144
145
146
147
148
149
150
151
152
153
154
155
156
157
158
159
160
161
162
163
164
165
166
167
168
169
170
171
172
173
174
175
176
177
178
179
180
181
182
183
184
185
186
187
188
189
190
191
192
193
194
195
196
197
198
199
200
201
202
203
204
205
206
207
208
209
210
211
212
213
214
215
216
217
218
219
220
221
222
223
224
225
226
227
228
229
230
231
232
233
จำนำรถราชบุรี รถยนต์ เงินด่วน รับจำนำรถยนต์ จำนำรถยนต์ จำนำรถ 23301