การเขียนโปรแกรมเชิงแข่งขัน เป็นการเขียนโปรแกรมเพื่อแก้ไขโจทย์ปัญหาทางตรรกะหรือคณิตศาสตร์ภายใต้ข้อจำกัดบางอย่างเพื่อให้ได้คำตอบออกมา โจทย์ปัญหาส่วนใหญ่จะมีคำตอบที่แน่นอนอยู่แล้ว การเขียนโปรแกรมนี้ไม่ได้มีจุดประสงค์ในการนำโปรแกรมมาใช้งานจริง แต่เป็นการเขียนเพื่อความสนุกและวัดทักษะในการแก้ไขปัญหา อาจถือได้ว่าเป็นกีฬาความคิดรูปแบบหนึ่ง โดยมากแล้วการเขียนโปรแกรมเชิงแข่งขันจะมีขึ้นในการแข่งขันเขียนโปรแกรมซึ่งส่วนใหญ่จะจัดขึ้นผ่านทางอินเทอร์เน็ตหรือไม่ก็เครือข่ายท้องถิ่น และมักจะมีบริษัทซอฟต์แวร์และอินเทอร์เน็ตเป็นผู้สนับสนุน เช่น กูเกิลเฟซบุ๊ก และไอบีเอ็ม
การตัดสินผลโดยทั่วไปจะดูที่จำนวนโจทย์ที่ทำได้กับเวลาที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมรวมทั้งหมด และอาจจะมีปัจจัยอื่น ๆ ที่นำมาพิจารณาด้วย เช่น ขนาดของโปรแกรม เวลาทำงานของโปรแกรม หรือการเทียบคำตอบกันระหว่างผู้เข้าแข่งขันด้วยกันเอง
การเขียนโปรแกรมเชิงแข่งขันเป็นกีฬาที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานเมื่อเทียบกับกีฬาความคิดชนิดอื่น ๆ เนื่องจากสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ก็เป็นสาขาที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานเมื่อเทียบกับสาขาวิทยาศาสตร์อื่น ๆ เช่นกัน หนึ่งในการแข่งขันที่เก่าแก่ที่สุดคือ ACM ICPC ซึ่งเริ่มต้นแข่งขันขึ้นในทศวรรตที่ 1970 ปัจจุบันการแข่งขันดังกล่าวมีประเทศเข้าร่วมกว่า 90 ประเทศแล้ว
ความสนใจในการเขียนโปรแกรมเชิงแข่งขันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังปี 2000[ต้องการอ้างอิง] ซึ่งก็เกิดขึ้นจากการที่อินเทอร์เน็ตเริ่มเป็นที่แพร่หลาย ส่งผลให้สามารถจัดการแข่งขันออนไลน์ได้โดยไม่มีปัญหาด้านสถานที่
เป้าหมายของการเขียนโปรแกรมเชิงแข่งขันคือการเขียนและส่งรหัสต้นฉบับของโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่ผู้ออกโจทย์กำหนดให้ ปัญหาที่ใช้ในการแข่งขันจะเกี่ยวกับตรรกะหรือคณิตศาสตร์ เช่น คณิตศาสตร์เชิงการจัด ทฤษฎีจำนวน ทฤษฎีกราฟ เรขาคณิต สตริง โครงสร้างข้อมูล และในการแข่งขันบางรายการจะนิยมปัญหาเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์เป็นอย่างมาก
กระบวนการในการแก้โจทย์ปัญหาจะประกอบไปด้วย 2 ขั้นตอน คือการออกแบบขั้นตอนวิธีที่ใช้ในการแก้ปัญหา ซึ่งจะต้องให้ผลลัพธ์ถูกต้องและมีประสิทธิภาพเพียงพอภายใต้ข้อจำกัดที่ให้มา ซึ่งส่วนมากก็ได้แก่พื้นที่หน่วยความจำที่มีจำกัด และเวลาทำงานที่จำกัด อีกขั้นตอนในการแก้โจทย์ปัญหาก็คือการอิมพลีเมนต์โปรแกรมจากขั้นตอนวิธีที่คิดขึ้นมา โดยส่วนใหญ่แล้วผู้จัดการแข่งขันจะจำกัดภาษาโปรแกรมที่ให้ใช้ในการแข่งขันไว้เพียงบางภาษาเท่านั้น
กระบวนการตรวจโปรแกรมของผู้เข้าแข่งขันจะตรวจอัตโนมัติด้วยโปรแกรมของผู้จัดการแข่งขัน โดยโปรแกรมทั้งหมดที่ผู้เข้าแข่งขันส่งมาให้ตรวจจะถูกนำมาทดสอบกับชุดทดสอบหลาย ๆ ชุดที่เป็นความลับ หากผลลัพธ์ที่ได้จากโปรแกรมถูกต้องทั้งหมดก็จะถือว่าโปรแกรมของผู้เข้าแข่งขันนั้นถูกต้อง กล่าวคือเป็นการทดสอบแบบกล่องดำนั่นเอง และด้วยการตรวจโปรแกรมเช่นนี้จึงทำให้มีผู้ไม่เห็นด้วยที่จะรวมการแข่งขันเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์เป็นหนึ่งในการแข่งขันวิทยาศาสตร์
การให้คะแนนก็มีหลากหลายรูปแบบ เช่น โปรแกรมต้องทำงานถูกต้องสำหรับทุก ๆ ชุดทดสอบจึงจะถือว่าผ่าน หรือบางการแข่งขันอาจมีการให้คะแนนเพียงบางส่วนในกรณีที่โปรแกรมให้ผลลัพธ์ถูกต้องในบางชุดทดสอบเท่านั้น หากโจทย์ปัญหาไม่ใช่ปัญหาค่าดีสุดหรือปัญหาที่มีคำตอบเพียงรูปแบบเดียว อาจมีการให้คะแนนโดยนำคำตอบมาเทียบกับคำตอบผู้เข้าแข่งขันคนอื่นหรือคำตอบของผู้จัดการแข่งขันเองว่าคำตอบของใครดีกว่า และตัดเป็นคะแนนออกมา นอกจากนี้บางการแข่งขันไม่จำเป็นต้องส่งรหัสต้นฉบับของโปรแกรมเลยด้วยซ้ำ แต่ให้ส่งคำตอบสำหรับข้อมูลนำเข้าที่กำหนดให้แทน ซึ่งการจะได้คำตอบนั้นส่วนใหญ่ก็ต้องเขียนโปรแกรมช่วยหาคำตอบอยู่ดี
การเขียนโปรแกรมเชิงแข่งขันอาจแบ่งได้เป็น 3 ประเภทคือ การแข่งขันนอกสถานที่ การแข่งขันออนไลน์ และระบบตรวจออนไลน์ โดยแข่งขันนอกสถานที่ส่วนมากจะมีรางวัลตอบแทน ในขณะที่อีก 2 ประเภทมักจะไม่มีรางวัลตอบแทน อย่างไรก็ดี การที่ผู้เข้าแข่งขันสามารถทำคะแนนได้ดีหรือแก้โจทย์ปัญหาได้เป็นจำนวนมากก็จะเป็นการสร้างโอกาสและดึงดูดบริษัทคอมพิวเตอร์หรืออินเทอร์เน็ตทั้งหลายให้เข้ามาจ้างงานได้
การแข่งขันนอกสถานที่คือการแข่งขันที่ผู้เข้าแข่งขันจะต้องเดินทางไปยังสถานที่ซึ่งผู้จัดการแข่งขันเตรียมไว้ให้และเข้าแข่งขัน โดยส่วนมากแล้วการแข่งขันเหล่านี้จะมีรางวัลแก่ผู้เข้าร่วมแข่งขัน เช่น เงิน หรือรางวัลเป็นเหรียญ ตัวอย่างการแข่งขันประเภทนี้คือ
ทั้งนี้ การแข่งขันนอกสถานที่บางรายการอาจจะมีการคัดเลือกผู้เข้าแข่งขันมาจากการแข่งขันออนไลน์ก่อน ส่วนมากจะเป็นในรายการแข่งขันที่มีผู้เข้าแข่งขันจำนวนมาก ทำให้ต้องมีการแข่งขันออนไลน์หลาย ๆ รอบเพื่อคัดเลือกผู้เข้าแข่งขันให้เหลือน้อยลง และผู้เข้าแข่งขันที่ผ่านจนถึงรอบชิงชนะเลิศจะได้ไปแข่งนอกสถานที่ เช่น
การแข่งขันออนไลน์คือการแข่งขันที่ผู้เข้าแข่งขันสามารถเข้าร่วมได้ผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้ ส่วนมากจะไม่มีรางวัลตอบแทน
โดยส่วนใหญ่แล้วเว็บแข่งขันออนไลน์ก็จะมีระบบตรวจออนไลน์ด้วย โดยนำโจทย์จากการการแข่งขันออนไลน์รอบก่อน ๆ มาให้ฝึกหัด
ระบบตรวจออนไลน์คือเว็บที่รวบรวมโจทย์ต่าง ๆ ไว้เผื่อให้ฝึกหัดการเขียนโปรแกรม โจทย์อาจจะเป็นโจทย์จากการแข่งขันที่จบแล้ว หรือโจทย์ที่ตั้งใจเขียนมาลงในระบบตรวจออนไลน์โดยเฉพาะก็ได้
ในประเทศไทย การแข่งขันเขียนโปรแกรมส่วนมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับชั้นมัธยมศึกษาเกิดจากการส่งเสริมของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เพื่อผลักดันโครงการคอมพิวเตอร์โอลิมปิกของประเทศไทย ความสนใจในการเขียนโปรแกรมเชิงแข่งขันนี้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากจากการที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันคอมพิวเตอร์โอลิมปิกนานาชาติครั้งที่ 23 ในปี 2011 โดยได้มีการเปิดเว็บไซต์ระบบตรวจออนไลน์ programming.in.th การแข่งขันออนไลน์และนอกสถานที่ IOI Thailand League 2010 หรือการแข่งขัน Thailand Code Jom ที่เลียนแบบการแข่งขัน Google Code Jam เป็นต้น เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาสนใจในการเขียนโปรแกรม ส่วนในระดับชั้นมหาวิทยาลัยก็จะมีการแข่งขัน ACM ICPC ซึ่งคณะวิศวกรรมศาสตร์ของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ มักจะเข้าร่วมด้วย
อ่านบทความฉบับสมบูรณ์ได้ที่ http://th.wikipedia.org/wiki/การเขียนโปรแกรมเชิงแข่งขัน