การศึกษาภาษาญี่ปุ่นในสหรัฐอเมริกา เริ่มขึ้นในปลายศตวรรษที่ 19 โดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มเยาวชนชาวอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่น และดำเนินการโดยกลุ่มผู้ปกครองและสถาบันชุมชน ในช่วงเวลาของศตวรรษถัดไป มันได้ขยายออกไปอย่างช้าๆ สำหรับผู้ที่ไม่ได้เป็นชาวญี่ปุ่นตลอดจนผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาแม่ (เด็กชาวต่างชาติส่วนใหญ่ได้รับการศึกษาภาษาญี่ปุ่นในโรงเรียนนานาชาติ) ในปี ค.ศ. 2006 จากการสำรวจของผู้เรียนภาษาต่างประเทศ โดย Japan Foundation ได้พบว่ามีครูผู้สอน 3,217 ราย ที่ทำการสอนภาษาญี่ปุ่นให้กับนักเรียน 117,969 ราย ใน 1,092 สถาบันที่ต่างกัน ซึ่งจำนวนนักเรียนได้ลดลงไป 16% นับจากการสำรวจตั้งแต่ปี ค.ศ. 2005 เป็นต้นมา
การสอนภาษาญี่ปุ่นในสหรัฐอเมริกาช่วงแรก มีวัตถุประสงค์ที่จะให้เป็นภาษาพื้นบ้าน การอพยพเข้าสู่ฮาวายของชาวญี่ปุ่นเริ่มต้นในปี ค.ศ. 1868 และเข้าสู่แผ่นดินใหญ่ในปี ค.ศ. 1869 พ่อแม่กลุ่มอิเซอิ (ชาวญี่ปุ่นกลุ่มแรกที่อพยพเข้าเมือง) ต่างกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนเป็นวิถีชีวิตไปเหมือนกับชาวอเมริกันของเด็กๆกลุ่มนิเซอิ (เด็กชาวญี่ปุ่นที่เกิดในประเทศแห่งใหม่) จึงได้จัดตั้งโรงเรียนนิฮนจิน เง็กโค ซึ่งเป็นโรงเรียนนอกระบบเพื่อสอนภาษาและวัฒนธรรมของประเทศที่เป็นบรรพบุรุษของพวกเขา ในฮาวาย โรงเรียนแห่งแรกได้ก่อตั้งขึ้นในยุค 1890 โดยในปีค.ศ. 1920 มีผู้มาลงทะเบียนเรียน 98 เปอร์เซ็นต์เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่นในฮาวาย สถิติค.ศ. 1934 มีโรงเรียน 183 แห่ง กับนักเรียนรวมทั้งสิ้น 41,192 ราย ส่วนบนแผ่นดินใหญ่ มีโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นแห่งแรกชื่อ นิฮองโง กาคุอิน ในแคลิฟอร์เนีย ที่ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1903 โดยในปีค.ศ. 1912 มีโรงเรียนทั้งสิ้น 18 แห่งที่จัดตั้งขึ้นในแคลิฟอร์เนียเท่านั้น
อ่านบทความฉบับสมบูรณ์ได้ที่ http://th.wikipedia.org/wiki/การศึกษาภาษาญี่ปุ่นในสหรัฐอเมริกา