การฟื้นฟูพระราชอำนาจสงครามโบะชิงกบฏซะสึมะสงครามจีน–ญี่ปุ่นครั้งที่หนึ่งการแทรกแทรงสามฝ่ายกบฎนักมวยพันธมิตรอังกฤษ-ญี่ปุ่นสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่นการผนวกดินแดนเกาหลี
วิกฤตการณ์การเงินโชวะกระบวนการสันติภาพแมนจูกัวกติกาสัญญาต่อต้านโคมินเทิร์นสงครามจีน–ญี่ปุ่นครั้งที่สองสนธิสัญญาไตรภาคีกติกาสัญญาความเป็นกลางโซเวียต–ญี่ปุ่นสงครามแปซิฟิกการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ที่ฮิโระชิมะและนะงะซะกิสงครามโซเวียต-ญี่ปุ่นการยอมจำนนของญี่ปุ่นการยึดครองญี่ปุ่นโดยฝ่ายสัมพันธมิตร
การฟื้นฟูพระราชอำนาจสมัยเมจิ (ญี่ปุ่น: ???? Meiji Ishin ?; อังกฤษ: Meiji Restoration) หรือ การปฏิวัติเมจิ (Meiji Revolution) การปฏิรูปเมจิ (Meiji Reform) หรือ การปรับปรุงเมจิ (Meiji Renewal) เป็นเหตุการณ์การปฏิรูปประเทศญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 1868 เพื่อรวบอำนาจจากรัฐบาลโชกุนโทะกุงะวะ (???? Tokugawa bakufu) กลับคืนสู่จักรพรรดิญี่ปุ่นอีกครั้งหนึ่ง การปฏิรูปครั้งนี้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อระบบการปกครองและโครงสร้างทางสังคมของญี่ปุ่นอย่างมหาศาล
การปฏิรูปครั้งนี้ได้เริ่มดำเนินมาตั้งแต่ช่วงปลายยุคเอะโดะ (???? Edo jidai) หรือมักเรียกว่าช่วงบะกุมะสึ (?? Bakumatsu) (มักเรียก รัฐบาลโชกุนโทะกุงะวะตอนปลาย) จนถึงช่วงต้นของยุคเมจิ (???? Meiji-jidai)
ใน ค.ศ. 1866 แคว้นซะสึมะ (??? Satsuma han) อันเป็นแคว้นที่ทรงอำนาจบนเกาะคีวชูของญี่ปุ่น ภายใต้การนำของไซโง ทะคะโมะริ (?? ?? Saig? Takamori) ได้ร่วมมือกับแคว้นโชชู (??? Ch?sh? han) อันเป็นแคว้นใหญ่ในภูมิภาคชูโงะกุ ภายใต้การนำของคิโดะ ทะกะโยะชิ (?? ?? Kido Takayoshi) ก่อตั้งกลุ่มพันธมิตรซัตโช (???? Satch? d?mei) ขึ้นเพื่อริเริ่มการปฏิรูปสมัยเมจิ โดยได้รับการสนับสนุนจากจักรพรรดิโคเม (???? K?mei-tenn?) พระราชบิดาในจักรพรรดิเมจิ (???? Meiji-tenn?) และการชักนำจากซะกะโมะโตะ เรียวมะ (?? ?? Sakamoto Ry?ma) เพื่อท้าทายอำนาจของรัฐบาลโชกุนโทะกุงะวะ (???? Tokugawa bakufu) และรวบอำนาจคืนแด่จักรพรรดิ
ในวันที่ 30 มกราคม ค.ศ. 1867 จักรพรรดิโคเมเสด็จสวรรคต จักรพรรดิเมจิขึ้นสืบราชสมบัติต่อจากพระราชบิดาในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ของปีเดียวกัน เริ่มรัชศกยุคเมจิ อันเป็นยุคที่ประเทศญี่ปุ่นเปลี่ยนแปลงจากสังคมระบบเจ้าขุนมูลนายไปสู่สังคมทุนนิยมโดยได้รับอิทธิพลจากตะวันตกอย่างช้า ๆ
วันที่ 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 1867 โทะกุงะวะ โยะชิโนะบุ (?? ?? Tokugawa Yoshinobu) โชกุนคนที่ 15 ของตระกูลโทะกุงะวะ ยอมสวามิภักดิ์ต่อจักรพรรดิเมจิ และลงจากตำแหน่งในอีก 10 วันต่อมา ถือเป็นวันที่สิ้นสุดการปกครองระบอบโชกุนอย่างเป็นทางการ และเป็นการฟื้นฟูอำนาจของสถาบันกษัตริย์ (Taisei H?kan) อย่างไรก็ตาม โทะกุงะวะ โยะชิโนะบุ ซึ่งถือเป็นโชกุนคนสุดท้ายของญี่ปุ่นยังคงมีอิทธิพลอย่างเป็นสาระสำคัญอยู่
หลังจากนั้นไม่นาน ในเดือนมกราคม ค.ศ. 1868 ก็เกิดสงครามโบะชิง (???? Boshin Sens?) โดยเริ่มด้วยศึกโทะบะ-ฟุชิมิ (???????? Toba-Fushimi no Tatakai) ระหว่างพันธมิตรซัตโช และกองทัพของอดีตโชกุน ในที่สุด กองทัพของโชกุนก็พ่ายแพ้ ส่งผลให้จักรพรรดิมีพระราชอำนาจเต็มเหนืออดีตโชกุนโยะชิโนะบุอย่างสมบูรณ์ ในวันที่ 3 มกราคม ค.ศ. 1869 จักรพรรดิเมจิมีพระบรมราชโองการประกาศฟื้นฟูพระราชอำนาจอย่างเป็นทางการ
กองกำลังของโชกุนส่วนหนึ่งได้หลบหนีไปยังเกาะฮกไกโด และพยายามแบ่งแยกดินแดนตั้งเป็นรัฐอิสระชื่อสาธารณรัฐเอะโสะ (????? Ezo Ky?wakoku) อย่างไรก็ตาม กองกำลังผู้จงรักภักดีต่อจักรพรรดิได้เข้ายุติการแบ่งแยกดินแดนนี้ในศึกฮะโกะดะเตะ (???? Hakodate Sens?) ณ เกาะฮกไกโด ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1869 การพ่ายแพ้ของกองกำลังฝ่ายโชกุน อันนำโดยเอะโนะโมะโตะ ทะเกะอะกิ (?? ?? Enomoto Takeaki) และฮิจิคะตะ โทะชิโซ (?? ?? Hijikata Toshiz?) โดยในศึกครั้งนี้ถือเป็นจุดสิ้นสุดของรัฐบาลโชกุนโทะกุงะวะ และเป็นการฟื้นฟูพระราชอำนาจในจักรพรรดิอย่างสมบูรณ์
การปฏิรูปสมัยเมจิทำให้ประเทศญี่ปุ่นก้าวสู่ระบบอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว นำไปสู่การเพิ่มอำนาจทางการทหารใน ค.ศ. 1905 ภายใต้คำขวัญว่า "ประเทศมั่งคั่ง กองทัพแข็งแกร่ง" (???? fukoku ky?hei)
กลุ่มคณาธิปไตยเมจิ (Meiji oligarchy) ซึ่งเป็นกลุ่มผู้มีอำนาจจากแคว้นพันธมิตรได้ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลภายใต้พระราชอำนาจในจักรพรรดิขึ้น เพื่อรวบรวมอำนาจของตนให้เข้มแข็งและสามารถต่อกรกับรัฐบาลสมัยเอะโดะ โชกุน ไดเมียว และชนชั้นซามูไร ที่ยังคงเหลืออิทธิพลอยู่ได้
ใน ค.ศ. 1868 ที่ดินของตระกูลโทะกุงะวะทั้งหมดได้ตกไปอยู่ในความครอบครองของจักรพรรดิ และถือเป็นการเพิ่มอภิสิทธิ์ให้รัฐบาลเมจิใหม่ด้วย ใน ค.ศ. 1869 ไดเมียวของแคว้นโทะซะ (??? Tosa han) แคว้นซะงะ (??? Saga-han) แคว้นโชซู (??? Ch?sh? han) และแคว้นซะสึมะ (??? Satsuma han) ซึ่งเคยต่อต้านระบอบโชกุนอย่างหนัก ได้รับการชักชวนให้ถวายดินแดนของแคว้นคืนแด่จักรพรรดิ ตามด้วยไดเมียวของแคว้นอื่น ๆ เพื่อให้รัฐบาลกลางโดยจักรพรรดิมีอำนาจเหนือดินแดนทั่วราชอาณาจักร (?? tenka) ได้ แต่ก็ได้มีการต่อต้านในช่วงแรก
กลุ่มคณาธิปไตยเมจิได้พยายามที่จะเลิกระบบชนชั้นทั้งสี่ (???? shin?k?sh?) อันได้แก่ ชนชั้นปกครอง (ซามูไร) เกษตรกร ช่างฝีมือ และพ่อค้าลงด้วย
ในขณะนั้น มีซามูไร 1.9 ล้านคนทั่วประเทศญี่ปุ่น หรือมากกว่าชนชั้นปกครองของฝรั่งเศสสมัยการปฏิวัติฝรั่งเศสเมื่อ ค.ศ. 1789 10 เท่า นอกจากนั้น ซามูไรของญี่ปุ่นไม่ได้อยู่ภายใต้มีผู้อำนาจปกครอง แต่จะจงรักภักดีต่อผู้ที่เป็นนายเท่านั้น รัฐบาลกลางต้องจ่ายเงินเดือนให้แก่ซามูไรแต่ละคน ซึ่งถือเป็นภาระทางการเงินอย่างมหาศาล และอาจเป็นแรงจูงใจหนึ่งให้กลุ่มคณาธิปไตยยกเลิกชนชั้นซามูไร
ในความตั้งใจที่จะยกเลิกชนชั้นซามูไร กลุ่มคณาธิปไตยได้ดำเนินการไปอย่างช้าๆ โดยในขั้นแรก ใน ค.ศ. 1873 รัฐบาลกลางได้ประกาศให้ซามูไรต้องเสียภาษีจากเบี้ยเลี้ยงในอัตราก้าวหน้า ต่อมาใน ค.ศ. 1874 รัฐบาลกลางได้เสนอซามูไรมีสิทธิเลือกที่จะเปลี่ยนการรับเบี้ยเลี้ยงเป็นพันธบัตรรัฐบาล และในที่สุด ใน ค.ศ. 1876 รัฐบาลกลางก็บังคับให้ซามูไรเปลี่ยนจากการรับเบี้ยเลี้ยงเป็นพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด