ค้นหา
  
Search Engine Optimization Services (SEO)

การบุกครองญี่ปุ่นของมองโกล

การบุกครองญี่ปุ่นของมองโกล (ญี่ปุ่น: ?? Genk? ?) เป็นเหตุการณ์ที่กองทัพของจักรวรรดิมองโกล เข้ารุกรานญี่ปุ่นสองครั้ง ในปี ค.ศ. 1274 และ 1281

ขณะนั้น จักรวรรดิมองโกลขณะนั้นปกครองดินแดนมากกว่าครึ่งของทวีปเอเชีย และบางส่วนของยุโรป เป็นชาติมหาอำนาจที่เป็นที่หวั่นเกรงของทุกอาณาจักร ได้นำพาเกาหลีภายใต้ราชวงศ์โครยอ ซึ่งยอมสวามิภักดิ์ต่อมองโกลมาเป็นแนวร่วมในการรุกรานญี่ปุ่น

แม้มองโกลจะมีกำลังทหารที่เหนือกว่าญี่ปุ่นมหาศาล แต่การรุกรานทั้งสองครั้งของมองโกลประสบความล้มเหลวอย่างยิ่งยวดอันเนื่องมาจากภัยธรรมชาติที่ร้ายแรง การสูญเสียไพร่พลและทรัพยากรมหาศาลจากการรุกรานทั้งสองครั้ง เป็นการนำมาซึ่งการเสื่อมถอยของจักรวรรดิมองโกล จนล่มสลายในอีก 87 ปีต่อมา

ภายหลังการแผ่ขยายอาณาเขตของมองโกลอย่างรวดเร็วในปี ค.ศ. 1231-1259 พระเจ้าโคจงแห่งโครยอทรงตระหนักว่า มันยากเย็นนักที่จะต่อต้านมองโกลที่มีกำลังทหารอย่างมหาศาล และการต่อต้านมองโกลนั้นก็อาจจะนำมาซึ่งผลที่ร้ายแรง ดังนั้น เกาหลีจึงได้ยินยอมเป็นประเทศราชของจักรวรรดิมองโกล ในปี ค.ศ. 1258 จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1270 เมื่อมองโกลสามารถยึดครองเกาหลีได้อย่างสมบูรณ์ กุบไล ข่าน จึงได้สถาปนาราชวงศ์หยวนแห่งจักรวรรดิมองโกลขึ้นอย่างสมบูรณ์

ญี่ปุ่นในขณะนั้นปกครองโดย "ชิกเก็ง" (ผู้สำเร็จราชการแทนโชกุน) ที่มาจากตระกูลโฮโจ ซึ่งเป็นตระกูลที่กุมอำนาจบริหารประเทศมาตั้งแต่ ค.ศ. 1203 ในนามของโชกุนแห่งรัฐบาลโชกุนคะมะกุระ ซึ่งขณะนั้นมีโชกุนคือ เจ้าชายโคะเระยะซุ

ในปี ค.ศ. 1266 กุบไล ข่าน ได้ส่งคณะทูตไปยังญี่ปุ่น โดยมีผู้รับสาส์นคือโฮโจ โทะกิมุเนะ ผู้สำเร็จราชการแทนโชกุน (มีการถวายต่อราชสาส์นไปยังพระราชวังหลวงเคียวโตะเช่นกัน) โดยมีเนื้อความในราชสาสน์ว่า:

ขอน้อมนำอาณัติแห่งสวรรค์ ข่านแห่งมองโกลผู้ทรงเดชานุภาพมีราชสาส์นนี้ถึงพระเจ้าแผ่นดินญี่ปุ่นผู้ทรงอำนาจสูงสุดแห่งแดนน้อยอันร่วมขัณฑสีมา นานมาแล้วที่ได้เป็นห่วงถึงสัมพันธ์ของเราอันจะนำพาไปสู่การเป็นมิตรไมตรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งนับแต่บรรพชนของข้ารับบัญชาจากสวรรค์ ดินแดนไกลนับไม่ถ้วนได้ปฏิเสธพลังอำนาจอันน้อยนิดของเรา โครยอได้แสดงไมตรีจิตที่เรายุติสงครามและได้บูรณะประเทศตลอดจนราษฎรของพวกเขาเมื่อข้าได้ขึ้นครองราชย์ สัมพันธ์ของเรานั้นซื่อสัตย์ประดุจพ่อลูก ซึ่งเราคิดว่าท่านทราบเรื่องนี้แล้ว โครยอเป็นประเทศราชทางบูรพาของเรา ซึ่งญี่ปุ่นก็ได้เป็นพันธมิตรต่อโครยอในบางโอกาสพร้อมๆกับจีนนับแต่ก่อกำเนิดชาติของท่านมา อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นไม่เคยส่งทูตมาเลยนับแต่การเถลิงราชย์ของข้า เราเกรงว่าอาณาจักรท่านอาจยังไม่ทราบเรื่องนี้ ดังนั้นเราจึงส่งคณะทูตพร้อมกับสาส์นของเราเพื่อแสดงความปรารถนาของเราเป็นพิเศษอันจะนำไปสู่ความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างกันและกันนับแต่บัดนี้ไป เราคาดหวังว่าชาติทั้งหมดจะเป็นครอบครัวหนึ่งเดียว เราต่างมีหนทางที่เห็นควรยกเว้นในกรณีที่เราเข้าใจกัน ไม่มีใครปรารถนาที่จะใช้ความรุนแรง

ซึ่งครั้งนี้ โทะกิมุนะได้นำเรื่องนี้ปรึกษาหารือและพิจารณาอย่างรอบคอบ ซึ่งเขาก็ตัดสินใจที่จะไม่ให้คำตอบใดๆกลับไป

ฝ่ายมองโกลมองโกลก็ไม่ลดละความพยายาม ได้ส่งคณะทูตมาอีก 4 ครั้งพร้อมผู้ติดตามจากโครยอระหว่างปี 1269-1271 ซึ่งการมาเยือนแต่ละครั้งก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นบก ทางราชสำนักในเคียวโตะมีคำแนะนำมาถึงโทะกิมุเนะให้ยอมรับข้อเสนอของโครยอ เนื่องจากราชสำนักในเคียวโตะเกรงแสนยานุภาพของมองโกล โทะกิมุเนะยังคงทำเช่นเดิมคือไม่ตอบกลับใดๆ ในขณะเดียวกันก็สั่งการขุนนางและกลุ่มซะมุไรในเกาะคีวชู ซึ่งอยู่ใกล้กับโครยอมากที่สุดให้เตรียมรับมือภัยสงครามที่อาจมาถึง

กุบไล ข่าน มีความปรารถนาอย่างมากที่จะทำสงครามต่อญี่ปุ่นในช่วงต้นปี 1268 หลังจากได้ได้รับการปฏิเสธมาแล้วถึงสองครั้ง แต่ก็พบว่าจักรวรรดิมองโกลยังขาดแคลนทรัพยากรและงบประมาณที่เพียงพอจัดตั้งกองเรือรบในเวลานั้น จนกระทั่งภายหลังจากมองโกลดำเนินนโยบายกลืนชาติเกาหลีโดยที่ราชธิดาของกุบไลข่านได้อภิเษกสมรสกับรัชทายาทแห่งโครยอ การต่อเรือและจัดตั้งกองเรือรบจึงเริ่มขึ้นในชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาหลี ในขณะเดียวกันมองโกลก็เรียกร้องให้ญี่ปุ่นยอมจำนนอยู่เนืองๆ

ต่อมาในปี 1271 กุบไลข่านก็ได้สถาปนาราชวงศ์หยวน และในปี 1272 นั้นเอง พระเจ้าชุงยอลแห่งโครยอก็ได้เสนอไปยังกุบไลข่าน ว่า "ญี่ปุ่นยังไม่ทราบว่าโลกนั้นศักดิ์ศิทธิ์ ดังนั้นการส่งทูตและทหารของเราไปยังญี่ปุ่น เรือรบและทหารต้องถูกเตรียมให้ดี หากทรงแต่งตั้งหม่อมฉันแล้วโซร้ หม่อมฉันจะประจักษ์ให้พระองค์ทรงเห็นในกำลังของหม่อมฉัน" ซึ่งตามประวัติศาสตร์ของหยวน ก็ได้บันทึกไว้ว่า "กษัตริย์แห่งโครยอทูลถามกุบไลข่านสำหรับการพิชิตญี่ปุ่น ในการต่อเรือรบ 150 ลำและสนับสนุนชัยชนะเหนือญี่ปุ่น"

ในที่สุด เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1274 กองเรือผสมของกองทัพจักรวรรดิมองโกล ด้วยดำลังทหารมองโกลและจีน 15,000 นายและทหารโครยอ 8,000 นาย พร้อมทั้งเรือรบขนาดใหญ่ 300 ลำและเรือรบขนาดรอง 400-500 ลำ และเข้าประชิดอ่าวฮะกะตะบนเกาะคีวชู ทันทีที่ทัพมองโกลยกพลขึ้นบก ก็ถูกโจมตีจากทหารญี่ปุ่นและซะมุไรราว 10,000 นายที่ตั้งทัพรออยู่ ญี่ปุ่นแม้จะมีประสบการณ์ในการจัดการกำกำลังพลขนาดใหญ่ (ระดมพลทั้งหมดของคีวชูเหนือ) แต่เนื่องจากมองโกลซึ่งครอบครองอาวุธชาวต่างชาติซึ่งรวมถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ที่เหนือกว่า (อาทิ ระเบิดเซรามิก ธนูเจาะเกราะ) มองโกลจึงพิชิตกองทัพญี่ปุ่นง่ายดายในการต่อสู้ภาคพื้นดินที่อ่าวฮะกะตะ ทั้งนี้มองโกลยังไม่สามารถรุกคืบต่อไปได้ ต้องรอกำลังเสริมอีกบางส่วน

และเมื่อกำลังเสริมมาถึงและกองทัพมองโกลเตรียมยกพลขึ้นฝั่ง ในตอนรุ่งสาง พายุไต้ฝุ่นที่มีความรุนแรงอย่างมหาศาลก็ได้มาถึง ณ ที่นั้น และได้พัดทำลายกองเรือมองโกลเสียหายไปอันมาก ทหารมองโกลต่างกระโดดหนีเอาชีวิตรอด ทหารจำนวนหลายพันจมน้ำเสียชีวิต ที่รอดชีวิตก็ว่ายน้ำหนีตายขึ้นฝั่งฮะกะตะ แต่ก็ถูกกองทัพซะมุไรสังหารเสียชีวิตและบางส่วนถูกจับเป็นเชลย อย่างไรก็ตาม เรือของญี่ปุ่นซึ่งมีขนาดเล็กกว่าและมีความคล่องตัวสูงซึ่งรอดจากพายุก็ได้ขึ้นโจมตีเรือรบมองโกลที่เหลือ

ภายหลังจากการรุกราน กองเรือพันธมิตรของมองโกลที่เหลืออยู่ก็กลับไปยังโครยอ และชาวญี่ปุ่นได้เทิดทูนว่าพายุลูกนั้นว่าเป็นพายุที่เทพเจ้าบันดาลมาปกป้องญี่ปุ่น และตั้งชื่อให้ว่า "คะมิกะเซะ" (วายุเทพ)

หลังจากที่ได้รับชัยชนะในศึกครั้งแรก ทำให้การเมืองในญี่ปุ่นมีความมั่นคงมากขึ้น รัฐบาลโชกุนคะมะกุระสามารถกระชับอำนาจจากฝ่ายต่างๆได้ ดังนั้นในปี ค.ศ. 1275 รัฐบาลโชกุนคะมะกุระได้มีความพยายามอย่างมากเตรียมการรับมือสำหรับการรุกรานจากมองโกล ซึ่งทางญี่ปุ่นมั่นใจว่าจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่ นอกจากนี้ รัฐบาลยังจัดระเบียบของซะมุไรในคีวชู และสั่งให้ก่อสร้างกำแพงหินขนาดใหญ่ (?? Sekirui เซะกิรุอิ) และการป้องกันอื่นๆในจุดที่จะเพิ่มศักยภาพด้านการรบ เช่นอ่าวฮะกะตะ ที่มีการสร้างกำแพงหินสูงสองเมตรขึ้นในปี 1276 ในด้านศาสนา ศาลเจ้าต่างๆถูกสร้างขึ้นใหม่หลังจากที่คราวก่อนถูกทำลายโดยกองทัพหยวน

ภายหลังจากที่การรุกรานครั้งแรกประสบความล้มเหลว กุบไลข่านก็ได้ส่งราชทูต 5 คนไปยังคีวชู (นับเป็นครั้งที่ 5) เพื่อให้ยอมจำนน แต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับจากการที่ โฮโจ โทะกิมุเนะ ผู้สำเร็จราชการแทนโชกุนได้ตอบโต้ด้วยการตัดหัวเหล่าทูตหยวน ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังมีสุสานของพวกเขาในคะมะกุระที่ทะสึโนะกุชิ

การที่ราชทูตถูกประหารทำให้ทางหยวนไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น กุบไขล่านก็ยังเห็นว่าอาจเป็นด้วยการสื่อสารที่ผิดพลาด หรือสารไม่ถึงที่หมาย จึงได้จัดให้มีการส่งคณะทูตชุดใหม่ไปเจรจาอีกครั้ง (เป็นครั้งที่ 6) ในปี ค.ศ. 1279 แต่กระนั้นโทะกิมุเนะก็สั่งให้ประหารทูตเหมือนเดิม

มิถุนายน ค.ศ. 1281 กองเรือมองโกลแบ่งออกเป็นสองกองเรือ กองเรือแรกประกอบด้วยเรือรบ 900 ลำที่มีกำลังพลมองโกล, จีน และเกาหลี ราว 40,000 นาย ส่วนกองเรือที่สองจากจีนตอนใต้นั้นประกอบด้วยเรือรบ 3,500 ลำที่มีกำลังพลราว 100,000 นาย เดิมแผนการของมองโกลคือการรวมกลุ่มเรือรบและโจมตีอย่างประสานงานกัน แต่เนื่องด้วยกองเรือหลักของจีนนั้นล่าช้าจากการจัดเตรียมกองเรือและทหารจำนวนมหาศาล กองเรือจากเกาหลีจึงลงมือก่อนและก็ประสบกับความสูญเสียอย่างหนักที่สึชิมะจนต้องสั่งถอยทัพ ต่อมาในฤดูร้อน กองเรือเกาหลีและจีนก็สามารถยึดอิกิชะมะได้สำเร็จ และเข้าโจมตีเกาะคีวชู ที่เรียกว่า "การรบที่โคอัง" (???? K?an noeki) หรือ "ศึกครั้งที่สองแห่งหาดฮะกะตะ" แต่จากการรับมือที่ดีพร้อมของญี่ปุ่น ทำให้กองกำลังของมองโกลถูกผลักดันกลับไปที่เรือของเขา กองทัพของญี่ปุ่นซึ่งมีจำนวนมากกว่าอย่างมากได้เสริมกำลังตามแนวชายฝั่งนั้นสามารถที่จะป้องกันกองหนุนของมองโกลได้อย่างง่ายดาย จนกระทั่งวันที่ 15 สิงหาคม พายุไต้ฝุ่นคะมิกะเซะก็ได้พัดเข้าสู่ชายฝั่งของคีวชูเป็นเวลาถึงสองวัน ทำลายกองเรือของมองโกลพินาศไปเกือบทั้งหมด ทหารมองโกลและพันธมิตรเสียชีวิตกลางทะเลมากกว่าแสนนาย

สาเหตุส่วนหนึ่งที่กองเรือของมองโกลและพันธมิตรอัปปางลงจากพายุนั้น มาจากการที่โครยอและจีนเร่งรีบในการต่อเรือเกินไป ประกอบกับเรือแบบโครยอและซ่งใต้ซึ่งมีลักษณะที่เอื้ออำนวยในการออกทะเลมากกว่านั้นมีค่าบำรุงรักษาและค่าใช้จ่ายสูงเกินไป ดังนั้นจึงต้องต่อเรือแบบเดิมกับการรุกรานครั้งแรกขึ้น ซึ่งมีท้องเรือที่แบนราบ (เรือเดินสมุทรโดยทั่วไปจะมีกระดูกงูโค้งเพื่อป้องกันการล่ม) เป็นเรื่องยากที่จะใช้เรือลักษณะดังกล่าวในทะเลที่มีพายุไต้ฝุ่น


 

 

รับจำนำรถยนต์ รับจำนำรถจอด

เบอร์ลินตะวันออก ประเทศเยอรมนีตะวันออก ปฏิทินฮิบรู เจ้า โย่วถิง ดาบมังกรหยก สตรอเบอร์รี ไทยพาณิชย์ เคน ธีรเดช อุรัสยา เสปอร์บันด์ พรุ่งนี้ฉันจะรักคุณ ตะวันทอแสง รัก 7 ปี ดี 7 หน มอร์ มิวสิค วงทู อนึ่ง คิดถึงพอสังเขป รุ่น 2 เธอกับฉัน เป๊ปซี่ น้ำอัดลม แยม ผ้าอ้อม ชัชชัย สุขขาวดี ประชากรศาสตร์สิงคโปร์ โนโลโก้ นายแบบ จารุจินต์ นภีตะภัฏ ยัน ฟัน เดอร์ไฮเดิน พระเจ้าอาฟงซูที่ 6 แห่งโปรตุเกส บังทันบอยส์ เฟย์ ฟาง แก้ว ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ เอ็มมี รอสซัม หยาง มี่ ศรัณยู วินัยพานิช เจนนิเฟอร์ ฮัดสัน เค็นอิชิ ซุซุมุระ พอล วอล์กเกอร์ แอนดรูว์ บิ๊กส์ ฮันส์ ซิมเมอร์ แบร์รี ไวต์ สตาญิสวัฟ แลม เดสมอนด์ เลเวลีน หลุยส์ที่ 4 แกรนด์ดยุคแห่งเฮสส์และไรน์ กีโยม เลอ ฌ็องตี ลอเรนโซที่ 2 เดอ เมดิชิ มาตราริกเตอร์ วงจรรวม แจ็ก คิลบี ซิมโฟนีหมายเลข 8 (มาห์เลอร์) เรอัลเบติส เฮนรี ฮัดสัน แคว้นอารากอง ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน กันต์ กันตถาวร เอก ฮิมสกุล ปัญญา นิรันดร์กุล แฟนพันธุ์แท้ 2014 แฟนพันธุ์แท้ 2013 แฟนพันธุ์แท้ 2012 แฟนพันธุ์แท้ 2008 แฟนพันธุ์แท้ 2007 แฟนพันธุ์แท้ 2006 แฟนพันธุ์แท้ 2005 แฟนพันธุ์แท้ 2004 แฟนพันธุ์แท้ 2003 แฟนพันธุ์แท้ 2002 แฟนพันธุ์แท้ 2001 แฟนพันธุ์แท้ 2000 บัวชมพู ฟอร์ด ซาซ่า เดอะแบนด์ไทยแลนด์ แฟนพันธุ์แท้ปี 2015 แฟนพันธุ์แท้ปี 2014 แฟนพันธุ์แท้ปี 2013 แฟนพันธุ์แท้ปี 2012 ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ พรสวรรค์ บันดาลชีวิต บุปผาราตรี เฟส 2 โมเดิร์นไนน์ ทีวี บุปผาราตรี ไฟว์ไลฟ์ แฟนพันธุ์แท้ รางวัลนาฏราช นักจัดรายการวิทยุ สมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 7 แบร์นาร์แห่งแกลร์โว กาอึน จิรายุทธ ผโลประการ อัลบาโร เนเกรโด ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ เอมี่ อดัมส์ ทรงยศ สุขมากอนันต์ ดอน คิง สมเด็จพระวันรัต (จ่าย ปุณฺณทตฺโต) สาธารณรัฐเอสโตเนีย สาธารณรัฐอาหรับซีเรีย เน็ตไอดอล เอะโระเก คอสเพลย์ เอวีไอดอล ช็อคโกบอล มุกะอิ

 

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45
46
47
48
49
50
51
52
53
54
55
56
57
58
59
60
61
62
63
64
65
66
67
68
69
70
71
72
73
74
75
76
77
78
79
80
81
82
83
84
85
86
87
88
89
90
91
92
93
94
95
96
97
98
99
100
101
102
103
104
105
106
107
108
109
110
111
112
113
114
115
116
117
118
119
120
121
122
123
124
125
126
127
128
129
130
131
132
133
134
135
136
137
138
139
140
141
142
143
144
145
146
147
148
149
150
151
152
153
154
155
156
157
158
159
160
161
162
163
164
165
166
167
168
169
170
171
172
173
174
175
176
177
178
179
180
181
182
183
184
185
186
187
188
189
190
191
192
193
194
195
196
197
198
199
200
201
202
203
204
205
206
207
208
209
210
211
212
213
214
215
216
217
218
219
220
221
222
223
224
225
226
227
228
229
230
231
232
233
จำนำรถราชบุรี รถยนต์ เงินด่วน รับจำนำรถยนต์ จำนำรถยนต์ จำนำรถ 23301