การตรวจการทำงานของตับ (Liver function tests (LFTs หรือ LFs)) คือ กลุ่มของการตรวจทางเคมีคลินิกในเลือดภายในห้องปฏิบัติการทางการแพทย์เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลที่เกี่ยวกับสถานะของตับของผู้ป่วย ค่าพารามิเตอร์ที่วัดรวมถึง PT / INR, aPTT, อัลบูมิน (albumin), บิลลิรูบิน (billirubin) และอื่น ๆ แต่บางการทดสอบ เช่น transaminases ของตับ (AST / ALT หรือ SGOT / SGPT) ไม่ถือว่าเป็นการทดสอบการทำงานของตับ แต่เป็น biomarkers สำหรับบ่งบอกการบาดเจ็บของตับในผู้ป่วยซึ่งอาจจะไม่เกี่ยวข้องกับการทำงานของตับ[ต้องการอ้างอิง]
โรคตับโดยส่วนใหญ่จะแสดงอาการเพียงเล็กน้อยในระยะเริ่มต้น แต่การตรวจพบโรคนี้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากนักเทคนิคการแพทย์จะเป็นผู้ตรวจวิเคราะห์จากพลาสมาหรือซีรัมของผู้เข้ารับบริการทางการแพทย์โดยเจาะเลือด บางการทดสอบจะเกี่ยวกับข้องกับการทำงานของตับ เช่น อัลบูมิน บางการทดสอบจะเกี่ยวกับความสมบูรณ์ของเซลล์ เช่น transaminase และบางการทดสอบจะเชื่อมโยงกับระบบทางเดินน้ำดี เช่น Gamma - Glutamyl transferase และ alkaline phosphatase
การทดสอบทางชีวเคมีต่างๆ มีประโยชน์ในการประเมินผลและการจัดการกับผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของตับ การทดสอบเหล่านี้สามารถนำไปใช้ ตรวจสอบสถานะของโรคตับ, แยกความแตกต่างระหว่างชนิดของความผิดปกติของตับ วัดขอบเขตของความเสียหายของตับ และ ติดตามการตอบสนองรักษา
อัลบูมิน (Albumin) เป็นโปรตีนที่ผลิตขึ้นอย่างจำเพาะโดยตับและสามารถวัดได้อย่างง่ายดาย มันเป็นส่วนประกอบหลักของโปรตีนรวม ส่วนที่เหลือ เรียกว่า โกลบูลิ (รวมถึง immunoglobulins) ระดับอัลบูมินจะลดลงในโรคตับเรื้อรัง เช่น ตับแข็ง นอกจากนี้ มันอาจจะลดลงในกลุ่มอาการเนโฟตริก (nephrotic syndrome) ซึ่งจะมีการสูญเสียอัลบูมินทางปัสสาวะ โภชนาการที่ไม่ดีหรือภาวะกระบวนการสลายโปรตีนบกพร่อง เช่น ใน M?n?trier's disease อาจนำไปสู่ภาวะระดับอัลบูบินในกระแสเลือดต่ำ (hypoalbuminaemia) ครึ่งชีวิตของอัลบูมิอยู่ที่ประมาณ 20 วัน การตรวจวัดอัลบูมินไม่ถือว่าเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญสำหรับ liver synthetic function เนื่องจากการตรวจดู coagulation factors (ดูด้านล่าง) จะมีความไวมากกว่า
Alanine transaminase (ALT) หรือที่เรียกว่า Serum Glutamic Pyruvate Transaminase (SGPT) หรือ Alanine aminotransferase (ALAT) เป็นเอนไซม์ที่สามารถพบได้ในเซลล์ตับ เอนไซม์ตัวนี้จะถูกปล่อยออกมาสู่กระแสเลือดเมื่อเซลล์ตับได้รับความเสียหายซึ่งเราสามารถวัดได้ เกิดการรั่วไหลของมันเอนไซม์นี้เข้าสู่กระแสเลือดซึ่งจะมีการวัด ALT จะค่อยๆ เพิ่มขึ้นเมื่อตับได้รับความเสียหายอย่างเฉียบพลัน เช่น ไวรัสตับอักเสบ หรือ การได้รับยาพาราเซตามอลเกินขนาด ซึ่งมักจะวัดค่า ALT ได้มากกว่าค่าปกติ
Aspartate transaminase (AST) หรือที่เรียกว่า Serum Glutamic Oxaloacetic Transaminase (SGOT) หรือ aspartate aminotransferase (ASAT) คล้ายกับ ALT เนื่องจากเป็นเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับตับ parenchymal cells มันจะเพิ่มขึ้นเมื่อตับได้รับความเสียหายอย่างเฉียบพลัน แต่ก็สามารถพบได้ในเซลล์เม็ดเลือดแดง กล้ามเนื้อหัวใจ และกล้ามเนื้อโครงร่าง ดังนั้น มันจึงไม่มีความจำเพาะต่อตับเท่านั้น บางครั้งอัตราส่วนของ AST ต่อ ALT ก็เป็นประโยชน์ในการบอกความแตกต่างระหว่างสาเหตุของความเสียหายที่ตับ อย่างไรก็ตาม ระดับ AST ที่สูงไม่ได้มีความเฉพาะเจาะจงสำหรับความเสียหายที่ตับเท่านั้น และ AST ยังใช้เป็น cardiac marker อีกด้วย
Alkaline phosphatase (ALP) เป็นเอนไซม์ในเซลล์เยื่อบุท่อน้ำดีของตับ ระดับ ALP ในพลาสมาจะเพิ่มขึ้นเมื่อมีการอุดตันของท่อน้ำดี, intrahepatic cholestasis, หรือ infiltrative diseases ของตับ นอกจากนี้ ALP ยังสามารถพบได้ในกระดูกและรก ดังนั้น ค่ามันจึงสูงในเด็กที่กำลังเจริญเติบโต (เนื่องจากกระดูกกำลังสร้าง) และผู้ป่วยสูงอายุที่มีเป็น Paget's disease
บิลิรูบิน (Bilirubin) เป็นผลิตผลที่เกิดจากการสลายของ heme (ส่วนหนึ่งของ เฮโมโกลบิน ในเซลล์เม็ดเลือดแดง) ตับจะทำหน้าที่ในการกำจัดบิลิรูบิน โดยกลไกต่อไปนี้ : บิลิรูบินจะถูกนำเข้าสู่ เซลล์ตับ (Hapatocytes), แล้วเปลี่ยนเป็นรูปแบบ (form) ที่สามารถละลายในน้ำได้ หลังจากนั้น จึงหลั่งไปในน้ำดีและถูกขับออกมาในลำไส้ในที่สุด
การตรวจระดับบิลิรูบินในรูปแบบ conjugated form หรือที่เรียกว่า Direct bilirubin เป็นการวินิจฉัยที่ละเอียดขึ้นไปอีก
ถึงแม้ว่า Gamma glutamyl transpeptidase (GGT) จะมีความจำเพาะและมีความไวต่อ cholestatic damage มากกว่า ALP แต่ GGT ก็สามารถเพิ่มมากขึ้นในสาเหตุอื่น อย่างไรก็ตาม GGT มีประโยชน์ในการช่วยจำแนกสาเหตุของโรคที่มีระดับ ALP เพิ่มมากขึ้น โดย GGT จะมีระดับที่สูงใน chronic alcohol toxicity
5' Nucleotidase เป็นการตรวจอีกอันที่มีความจำเพาะต่อ cholestasis หรือ การเกิดความเสียหายแก่ intra หรือ extrahepatic biliary system ในบางห้องปฏิบัติการทางการแพทย์จะใช้แทน GGT ในการตรวจหาว่าการที่ ALP มีระดับสูงขึ้นนั้นเกิดขึ้นจาก biliary หรือ extra-biliary
ตับจะตอบสนองการผลิต coagulation factor International normalized ratio (INR) เป็นค่าสำหรับการดูความสามารถของกระบวนการการแข็งตัวของเลือดโดยเฉพาะ ถ้าระดับ INR มีค่าสูงเมื่อเทียบกับระดับปกติ หมายความว่า ความสามารถในการแข็งตัวของเลือดนั้นมีประสิทธิภาพที่ต่ำกว่าปกติ โดยค่า INR สามารถเพิ่มมากขึ้นเมื่อตับได้รับความเสียหายซึ่งจะส่งผลให้การสร้าง vitamin K-dependent coagulation factors ซึ่งจำเป็นต่อกระบวรการการแข็งตัวของเลือดนั้นบกพร่องไปด้วย อย่างไรก็ตาม INR ก็ไม่มีความไว (sensitive) ที่มากพอสำหรับการตรวจการทำงานของตับ
ความสามารถในการผลิตกลูโคสของตับ (gluconeogenesis) โดยปกติแล้วจะเป็นความสามารถของตับที่จะสูญเสียไปเมื่อเกิดภาวะ fulminant liver failure.
Lactate dehydrogenase เป็นเอนไซม์ที่สามารถพบได้ในหลากหลายเนื้อเยื่อภายในร่างกายของเรา รวมทั้ง ตับ ดังนั้น ค่า LDH ที่สูงจึงสามารถบ่งบอกได้ว่าเกิดความเสียหายที่ตับแล้ว