ค้นหา
  
Search Engine Optimization Services (SEO)

การค้าเครื่องเทศ

การค้าเครื่องเทศ คือกิจการทางการพาณิชย์ที่มีต้นตอมาแต่ยุคโบราณค้าขายสินค้าที่รวมทั้งเครื่องเทศ, สมุนไพร และฝิ่น การวิวัฒนาการของวัฒนธรรมของเอเชียบางส่วนก็มีอิทธิพลมาจากการค้าขายเครื่องเทศ จากนั้นก็ตามด้วยโลกกรีก-โรมันที่ใช้เส้นทางสายเครื่องหอม และเส้นทางสายโรมัน-อินเดียเป็นเส้นทางการค้ามายังตะวันออก เส้นทางสายโรมัน-อินเดียวิวัฒนาการมาจากเทคนิคที่ใช้โดยมหาอำนาจทางการค้าของราชอาณาจักรอัคซูม (ราว 400 ปีก่อนคริสต์ศักราช-จนถึง ค.ศ. 1000 กว่า ๆ) ริเริ่มการใช้เส้นทางในทะเลแดงมาตั้งแต่ก่อนคริสต์ศตวรรษที่ 1 อัคซูมแบ่งปันความรู้ในการใช้ลมมรสุมในการเดินเรือกับชาวโรมัน (ราว 30-10 ปีก่อนคริสตกาล) และรักษาสัมพันธ์ภาพระหว่างกันอย่างปรองดองมาจนถึงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 7 เมื่ออิสลามเรืองอำนาจขึ้น ก็ปิดเส้นทางการค้าทางทะเล และหันมาใช้ขบวนคาราวานในการขนส่งทางบกไปยังอียิปต์และซุเอซ ซึ่งเท่ากับเป็นการตัดความสัมพันธ์ทางการค้าโดยตรงระหว่างยุโรปไปยังอัคซูมและอินเดีย และในที่สุดพ่อค้าอาหรับก็ยึดการขนส่งสินค้าเข้ามาอยู่ในมือของตนเอง โดยขนส่งสินค้าเข้าทางบริเวณเลแวนต์ไปให้แก่พ่อค้าเวนิสในยุโรปยุโรป การขนส่งด้วยวิธีนี้มายุติลงเมื่อออตโตมันเติร์กมาปิดเส้นทางอีกครั้งในปี ค.ศ. 1453 หลังจากที่ตีกรุงคอนสแตนติโนเปิลแตก

เส้นทางข้ามทวีปช่วยส่งเสริมการค้าขายพอประมาณ แต่เส้นทางการค้าทางทะเลเป็นตัวที่ทำให้กิจการนี้ขยายตัวขึ้นอย่างเป็นทวีคูณ ระหว่างยุคกลางตอนกลางกับตอนปลาย พ่อค้ามุสลิมมีอิทธิพลเหนือกว่าผู้ใดในการควบคุมเส้นทางค้าทางทะเลไปยังมหาสมุทรอินเดีย ในการขนส่งติดต่อกับศูนย์การค้าเครื่องเทศในอินเดีย เพื่อนำสินค้ามายังทางอ่าวเปอร์เซียและทะเลแดง จากนั้นก็ขนถ่ายทางบกข้ามทวีปต่อไปยังยุโรป

สถานภาพของการค้าขายมาเปลี่ยนแปลงอีกครั้งโดยชาวยุโรประหว่างยุคแห่งการสำรวจ ในช่วงนั้นการค้าขายเครื่องเทศการเป็นกิจการอันสำคัญที่สุดของนักการค้าขายแลกเปลี่ยนชาวยุโรป เส้นทางจากยุโรปไปยังมหาสมุทรอินเดียโดยเดินทางรอบแหลมกู๊ดโฮปที่เริ่มขึ้นโดยนักเดินเรือชาวยุโรป เช่น วัชกู ดา กามา มีผลในการเปลี่ยนแปลงเส้นทางการค้าเดิมมาเป็นเส้นทางทางทะเลใหม่

การค้าเครื่องเทศมีผลผลักดันเศรษฐกิจของโลกตั้งแต่ยุคกลางมาจนถึงยุคใหม่ และเป็นปัจจัยประการหนึ่งในการกระตุ้นประเทศในยุโรปเข้าสู่สมัยจักรวรรดินิยมของยุโรปในโลกตะวันออก เส้นทางเช่นอ่าวเบงกอลเป็นสะพานเชื่อมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและการพาณิชย์ระหว่างชาติต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเมื่อแต่ละชาติต่างก็พยายามต่อสู้แย่งชิงกันในการมีอิทธิพลควบคุมเส้นทางการค้าเครื่องเทศสายต่าง ๆ ในระยะแรกอิทธิพลของยุโรปในการควบคุมการค้าเครื่องเทศก็เป็นไปอย่างเชื่องช้า เส้นทางการค้าของโปรตุเกสก็เป็นเส้นทางที่จำกัดและยากเดินทาง แต่ต่อมาเมื่อดัตช์ก็สามารถเลี่ยงปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้โดยเดินทางติดต่อโดยตรงทางมหาสมุทรจากแหลมกู๊ดโฮปไปยังช่องแคบซุนดาในอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นการทำให้สถานะการณ์เปลี่ยนไปและเป็นการเพิ่มบทบาทของพ่อค้าชาวตะวันตกในบริเวณเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น

ความต้องการทางการตลาดของเครื่องเทศก็สูงขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งมาลดลงเมื่อมีการประดิษฐ์เครื่องทำความเย็น ในกลางคริสต์ศตวรรษที่ 19

เครื่องเทศ เช่น อบเชย, ขี้เหล็ก, กระวาน (cardamom), ขิง และขมิ้น เป็นที่รู้จักและใช้เป็นสินค้าในตะวันออกมาตั้งแต่ยุคโบราณ เครื่องเทศเหล่านี้ได้รับการนำเข้าไปยังตะวันออกกลางตั้งแต่ก่อนคริสต์ศักราช และแหล่งที่มาของเครื่องเทศก็เป็นเรื่องที่ปกปิดกันอย่างลึกลับในบรรดาหมู่พ่อค้า ผสมผเสด้วยเรื่องราวตำนานต่าง ๆ อันมหัศจรรย์อันเหลือเชื่อชาวอียิปต์โบราณค้าขายในทะเลแดงโดยซื้อเครื่องเทศจาก “ดินแดนแห่งชนพันท์” และจากคาบสมุทรอาหรับ และสินค้าฟุ่มเฟือยตามเส้นทางการค้าเครื่องหอมรวมทั้งเครื่องเทศจากอินเดีย, ตะโก, ไหม และ ผ้าเนื้อดี

การค้าขายเครื่องเทศมีความเกี่ยวข้องกับเส้นทางการค้าทางบกข้ามทวีปมาเป็นเวลานานก่อนที่เปลี่ยนมาเป็นการขนส่งทางทะเลช่วยทำให้การค้าขายยิ่งขยายตัวออกไปมากยิ่งขึ้นราชวงศ์ทอเลมีก่อตั้งระบบการค้ากับอียิปต์โดยใช้เมืองท่าในทะเลแดง หลังจากราชวงศ์ทอเลมีสิ้นอำนาจลง และเมื่อโรมันก่อตั้งโรมันอียิปต์ขึ้นเป็นจังหวัดของจักรวรรดิโรมันแล้ว โรมันก็เริ่มพัฒนาเส้นทางการค้าขายของสิ้นค้าที่ซื้อขายกันอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นไปกว่าเดิม เริ่มตั้งแต่ปี 80 ก่อนคริสต์ศักราชอเล็กซานเดรียก็กลายมาเป็นศูนย์กลางที่มีอิทธิพลทางการค้าในการค้าเครื่องเทศจากอินเดียที่เข้ามายังโลกกรีก-โรมัน โดยมีเรือสินค้าเทียวระหว่างอินเดียกับอียิปต์ การควบคุมเส้นทางการค้าไปยังเอเชียใต้มิได้อยู่ในมือของชาติใดชาติหนึ่งโดยเฉพาะ แต่เป็นการควบคุมโดยระบบหลายระบบในการนำเครื่องเทศมายังเมืองท่าสำคัญของอินเดียที่คาลิคัต

การค้าขายระหว่างอิเดียและกรีก-โรมันทวีตัวขึ้นเรื่อย ๆ โดยสินค้าส่วนใหญ่เป็นเครื่องเทศที่นำเข้าจากอินเดียไปยังโลกตะวันตก และสูงกว่าสินค้าอื่นเช่นไหมและสินค้าอื่น ๆ

ในเกาะชวาและเกาะบอร์เนียววัฒนธรรมอินเดียที่เผยแพร่เข้ามาก็ช่วยเพิ่มความต้องการสินค้าประเภทเครื่องหอมกันมากขึ้น จุดค้าขายเหล่านี้ต่อมาก็กลายเป็นตลาดของจีนและอาหรับด้วย เอกสารของกรีก “บันทึกเส้นทางการเดินเรือในทะเลอีริทเธรียน“ (Periplus Maris Erythraei) ของคริสต์ศตวรรษที่ 1 บันทึกชื่อเมืองท่าอินเดียหลายเมืองที่เรือใหญ่เดินทางไปยังตะวันออกไปยัง “Khruse“

พ่อค้ามักกะหฺก่อนสมัยอิสลามก็ใช้เส้นทางการค้าเครื่องหอมในการขนสิ้นค้าประเภทฟุ่มเฟือยที่เป็นที่ต้องการของโรมัน การค้าขายของพ่อค้ามักกะหฺเป็นการส่งออกของสินค้าเช่นกำยานจากอาหรับ, งาช้างและทองจากแอฟริกาตะวันออก, เครื่องเทศจากอินเดีย และไหมจากเมืองจีน

การติดต่อค้าขายของอินเดียกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับพ่อค้าอาหรับและเปอร์เซีย?ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 7 และ 8อับบาซียะห์ใช้อเล็กซานเดรีย, ดามิยัตตา, อาเดน และซิราฟ ในการเป็นเมืองท่าไปยังอินเดียและจีน พ่อค้าที่มาจากอินเดียยังเมืองท่าอาเดนต้องจ่ายบรรณาการด้วยชะมด, การบูร, ไขวาฬ (ambergris) และไม้จันทน์แก่อุบัยด-อัลลอฮ์ อิบุน ซิยัด ( ???? ???? ?? ????? - Ubayd-Allah ibn Ziyad) สุลต่านแห่งเยเมน

สินค้าจากโมลุกกะได้รับการขนส่งข้ามเมืองท่าของอาหรับไปยังตะวันออกไกล้โดยผ่านทางเมืองท่าของอินเดียและศรีลังกา เมื่อเครื่องเทศมาถึงเมืองท่าในอินเดียหรือศรีลังกา บางครั้งก็ได้รับการส่งต่อไปยังแอฟริกาตะวันออกเพื่อใช้ในจุดประสงค์หลายอย่างที่รวมทั้งประเพณีการทำศพ

เครื่องเทศที่เป็นสินค้าขาออกของอินเดียได้รับการกล่าวถึงในงานเขียนของอิบุน คูร์ดาห์เบห์ (Ibn Khurdadhbeh) (ค.ศ. 850), อัล-กาฟิคิ (ค.ศ. 1150), อิสหัค บิน อิมาราน (Ishak bin Imaran) (ค.ศ. 907) และ อัล คาลคาชานดิ (คริสต์ศตวรรษที่ 14) พระภิกษุนักเดินทางชาวจีนพระถังซัมจั๋งกล่าวถึงเมืองพูรี (Puri) ว่าเป็นเมืองที่ “พ่อค้าเดินทางไปยังบ้านเมืองต่าง ๆ ที่ไกลออกไป”

ชื่อหมู่เกาะโมลุกกะปรากฏในเอกสารหลายฉบับในชื่อ “Meluza” บ้าง “Melucha” บ้าง ที่เขียนโดยสมาชิกของกลุ่มผู้สำรวจบราซิล-อินเดียภายใต้การนำของเปดรู อัลวารึช กาบรัล,อเมริโก เวสปุชชีกล่าวถึง “Meluche” ในจดหมายถึงลอเรนโซ เดอ เมดิชิ (ค.ศ. ]1501), พงศาวดารชวาที่เขียนในปี ค.ศ. 1365 กล่าวถึงโมลุกกะ และ “Maloko”, และงานบันทึกการเดินเรือของคริสต์ศตวรรษที่ 14 และคริสต์ศตวรรษที่ 15 กล่าวถึงข้ออ้างอิงของหมู่เกาะโมลุกกะของอาหรับอย่างแน่นอน สุลัยมา อัล-มาห์รเขียน: “ทางตะวันออกของติมอร์ที่เป็นที่พบไม้จันทน์เป็นที่ตั้งของ “หมู่เกาะบันดัม” ซึ่งเป็นหมู่เกาะที่เป็นแหล่งของลูกจันทน์เทศและดอกจันทน์เทศ หมู่เกาะที่มีกานพลูเรียกว่า “Maluku”.....”

โรมมีบทบาทในการค้าขายเครื่องเทศอยู่ระยะหนึ่งในคริสต์ศตวรรษที่ 5 แต่ไม่นานเช่นอาหรับที่ดำเนินต่อมาจนถึงยุคกลางสาธารณรัฐเวนิสกลายมามีบทบาทสำคัญอย่างไม่มีผู้ใดเทียบได้และกุญแจสำคัญของการค้าขายเครื่องเทศกับทางตะวันออก มหาอำนาจอื่น ๆ พยายามลดความสำคัญของเวนิสในเอกสิทธิ์นี้โดยเริ่มสร้างเสริมอำนาจทางทะเล

สิ่งที่สำคัญที่สุดที่มีผลค้าขายเครื่องเทศคือการค้นพบทวีปอเมริกาโดยนักสำรวจชาวยุโรป มาจนกระทั่งกลางคริสต์ศตวรรษที่ 15 การค้าขายกับตะวันออกทำโดยใช้เส้นทางสามไหมกับจักรวรรดิไบแซนไทน์ โดยมีนครรัฐในอิตาลีที่รวมทั้งเวนิสและเจนัวเป็นคนกลาง แต่ในปี ค.ศ. 1453 ออตโตมันก็ตีเมืองคอนสแตนติโนเปิลได้ซึ่งเป็นการสิ้นสุดของจักรวรรดิไบแซนไทน์อย่างถาวร การควบคุมเส้นทางการค้าขายเครื่องเทศทั้งหมดในขณะนั้นจึงตกอยู่ในมือของจักรวรรดิออตโตมัน ที่อยู่ในฐานะที่สามารถจะตั้งกำแพงภาษีของสินค้าต่าง ๆ ไปยังยุโรปจำนวนสูงตามชอบใจ ยุโรปตะวันตกพยายามเลี่ยงการพึ่งอำนาจของมุสลิมในกิจการการค้าขายกับตะวันออกจึงพยายามหาหนทางอื่นที่จะเดินทางไปยังตะวันออกโดยเดินเรือรอบแอฟริกา.

ชาติแรกที่พยายามเดินเรือรอบแอฟริกาคือโปรตุเกส ที่เริ่มการสำรวจมาตั้งแต่ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 15 ที่เริ่มด้วยการสำรวจบริเวณทางตอนเหนือของแอฟริกาภายใต้การนำของเฮนรีนักเดินเรือ เมื่อได้รับความสำเร็จเช่นนั้นแล้วโปรตุเกสก็เริ่มมองหาหนทางที่ควบคุมเส้นทางโดยเอกสิทธิ์โดยพยายามหาเส้นทางการค้าทางทะเลไปยังอินเดียตะวันออก โปรตุเกสข้ามแหลมกู๊ดโฮปครั้งแรกในปี ค.ศ. 1488 โดยสำรวจที่นำโดยบาร์โตโลมิว ดิอัซ (Bartolomeu Dias) เพียงเก้าปีต่อมาในปี ค.ศ. 1497 วัชกู ดา กามาก็นำกองเรือสี่ลำตามพระบรมราชโองการในสมเด็จพระเจ้ามานูเอลที่ 1 แห่งโปรตุเกสเดินทางรอบแหลมกู๊ดโฮปไปทางฝั่งตะวันออกของแอฟริกาไปยังมาลินดี (Malindi) เพื่อข้ามมหาสมุทรอินเดียไปยังคาลิคัต เมืองทางฝั่งตะวันตกของอินเดียในรัฐเกรละ ความมั่งคั่งของอินเดียตะวันออกจึงเผยตัวต่อนักสำรวจชาวยุโรปเป็นครั้งแรก และจักรวรรดิโปรตุเกสจึงเป็นจักรวรรดิยุโรปจักรวรรดิแรกที่ขยายตัวขึ้นมาจากผลประโยชน์ของการค้าขายเครื่องเทศ

ในช่วงเวลาของการสำรวจนี้ที่นักสำรวจภายใต้การสนับสนุนของราชบัลลังก์สเปนและโปรตุเกสพบโลกใหม่เป็นครั้งแรก คริสโตเฟอร์ โคลัมบัสเป็นคนแรกในปี ค.ศ. 1492 ในการพยายามที่เดินทางไปยังอินเดียแต่กลับไปพบทวีปอเมริกาแทนที่ โคลัมบัสพบแผ่นดินของทวีปอเมริกาเป็นครั้งแรกที่บาฮามาส โดยเชื่อว่าได้เดินทางไปถึงอินเดีย จึงได้ตั้งชื่อชนท้องถิ่นที่พบว่า “อินเดียน” อีกแปดปีต่อมาในปี ค.ศ. 1500 นักเดินเรือชาว โปรตุเกสกองเรือของเปดรู อัลวารึช กาบรัลที่พยายามเดินตามเส้นทางของวัชกู ดา กามาไปยังอินเดียก็ถูพัดไปทางตะวันตกไปพบดินแดนที่คือบราซิลปัจจุบัน หลังจากประกาศตนเป็นเจ้าของดินแดนที่พบแล้วกาบรัลก็เดินทางต่อไปยังอินเดีย ในที่สุดก็ไปถึงในเดือนกันยายน ค.ศ. 1500 และเดินทางกลับโปรตุเกสในปี ค.ศ. 1501

เมื่อมาถึงช่วงเวลานี้โปรตุเกสก็มีอำนาจควบคุมเส้นทางการค้าทางทะเลของแอฟริกาทั้งหมด ซึ่งถ้าสเปนต้องการจะมีอำนาจพอที่จะแข่งขันกับโปรตุเกสได้ก็ต้องพยายามหาเส้นใหม่ ความพยายามครั้งแรกนำโดยคริสโตเฟอร์ โคลัมบัสแต่แทนที่จะพบเส้นทางไปเอเชียกลับไปพบทวีปอเมริกา แต่ในที่สุดสเปนก็ประสบความสำเร็จเมื่อเฟอร์ดินานด์ มาเจลลันข้ามช่องแคบมาเจลลันเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ค.ศ. 1520 ซึ่งเป็นการเปิดฝั่งทะเลทางด้านตะวันตกของทวีปอเมริกาเพื่อการสำรวจ เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1521 กองเรือของมาเจลลันก็เดินทางไปถึงฟิลิปปินส์ หลังจากนั้นก็ถึงหมู่เกาะเครื่องเทศ ซึ่งเท่ากับเป็นการก่อตั้งเส้นทางการค้าไปทางตะวันตกไปยังเอเชียเป็นครั้งแรก เมื่อเรือลำสุดท้ายของกองเรือกลับมาถึงสเปนในปี ค.ศ. 1522 ผู้ที่รอดชีวิตมาได้คือกลุ่มคนกลุ่มแรกที่เดินทางรอบโลกสำเร็จ

จากบันทึกของสารานุกรมบริตานิกา ค.ศ. 2002: “เฟอร์ดินานด์ มาเจลลันเริ่มเดินทางให้กับสเปนในปี ค.ศ. 1519 ในบรรดาเรือห้าลำภายใต้การนำมีเพียงลำเดียว - เรือวิกตอเรีย - ที่เดินทางกลับสเปนด้วยความสำเร็จพร้อมด้วยกานพลูเต็มท้องเรือ”

การสำรวจของดัตช์เริ่มขึ้นเป็นครั้งแรกจากอัมสเตอร์ดัมเมื่อเดือนเมษายน ค.ศ. 1595 โดยมีจุดหมายการเดินทางไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กองเรืออีกกองหนึ่งออกเดินทางในปี ค.ศ. 1598 และกลับมาในปีต่อมาพร้อมด้วยเครื่องเทศหนัก 600,000 ปอนด์และสินค้าอื่น ๆ จากอินเดียตะวันออก หลังจากนั้นสหบริษัทอินเดียตะวันออกที่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1602 ก็เริ่มผูกขาดการค้าขายกับผู้ผลิตกานพลูและจันทน์เทศหลัก ระหว่างนั้นบริษัทอินเดียตะวันออกของอังกฤษก็ส่งเครื่องเทศเป็นจำนวนมากกลับมายังยุโรปในคริสต์ศักราช 17

การแข่งขันเพื่อควบคุมการค้าขายเครื่องเทศที่เพิ่มมากขึ้นนำไปสู้ความขัดแย้งที่ทำให้ต้องใช้กำลังทางทหารในการพยายามแก้ปัญหา ในปี ค.ศ. 1641 หมู่เกาะโมลุกกะของโปรตุเกสก็ถูกยึดโดยดัตช์ การยึดโมลุกกะทำให้เกิดการทำไร่กานพลูและจันทน์เทศกันเป็นอุตสาหกรรมกันบนเกาะ ในขณะเดียวกันก็มีการพยายามกำจัดการปลูกบนเกาะอื่นโดยใช้สนธิสัญญาปัตตาเวีย (ค.ศ. 1652) ทั้งนี้ก็เพื่อการควบคุมปริมาณของผลผลิตของตลาดเพื่อรักษาราคา ความพยายามครั้งนี้เป็นการยุติระบบการค้าขายเครื่องเทศที่ทำกันมาในอดีตและเป็นการลดจำนวนประชากรของหมู่เกาะต่าง ๆ โดยเฉพาะในหมู่เกาะบันดา

ปีนังซึ่งเป็นอาณานิคมอังกฤษได้รับการก่อตั้งขึ้นเป็นเมืองท่าสำหรับการค้าพริกไทยในปี ค.ศ. 1786 ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 18 อาณานิคมของฝรั่งเศสในอินเดียก็ถูกยึดโดยอังกฤษผู้พยายามควบคุมการค้าขายของดัตช์ในบริเวณตะวันออกไกล อิทธิพลของอังกฤษที่เพิ่มมากขึ้นเป็นผลให้อิทธิพลของบริษัทอินเดียตะวันออกของดัตช์เริ่มอ่อนตัวลง

ในปี ค.ศ. 1585 เรือจากเวสต์อินดีสก็เดินทางมาถึงยุโรปพร้อมด้วย “ขิงจาเมกา” ที่เดิมปลูกกันในอินเดียและทางใต้ของประเทศจีน ซึ่งเป็นเครื่องเทศชนิดแรกจากเอเชียที่ไปเติบโตในโลกใหม่สำเร็จ ความคิดที่ว่าต้นไม้หรือพืชพันธุ์ไม่สามารถนำไปปลูกนอกบริเวณดั้งเดิมที่เชื่อกันมาจนถึงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 18 ที่สนับสนุนโดยก็นักพฤษศาสตร์คนสำคัญของสมัยนั้นเช่นจอร์จ เอเบอร์ฮาร์ด รุมพฟก็หมดความหมายไปจากการทดลองปลูกพืชพันธุ์ต่าง ๆ ในยุโรปและคาบสมุทรมาเลย์ระหว่างต้นคริสต์ศตวรรษที่ 18

เมื่อมาถึงปี ค.ศ. 1815 การส่งผลผลิตของจันทน์เทศจากสุมาตราก็มาถึงยุโรปเป็นครั้งแรก นอกจากนั้นหมู่เกาะในเวสต์อินดีสเช่นเกรนาดาก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของการค้าขายเครื่องเทศ

ไม้จันทน์จากติมอร์และทิเบตก็เริ่มมีความสำคัญมากขึ้นเและกลายเป็นสินค้ามีค่าของจีนระหว่างต้นคริสต์ศตวรรษที่ 18เอเชียตะวันออกนิยมใช้สินค้าที่ทำจากไม้จันทน์ที่ใช้ในการแกะพระพุทธรูปและสิ่งมีค่าอื่น ๆ

ระหว่างครึ่งแรกของคริสต์ศตวรรษที่ 19 พ่อค้าจากซาเล็ม, แมสซาชูเซตส์ได้ผลกำไรเป็นอันมากจากการค้าขายกับสุมาตรา ราชอาณาจักรอเซห์ (Aceh) ที่ตั้งอยู่ตอนปลายของเกาะสุมาตรากลายมาเป็นผู้มีอำนาจในการค้าขายเครื่องเทศของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อชนอเซห์ต่อต้านการรุกรานของดัตช์โดยหันไปเป็นพันธมิตรกับผู้ค้าขายจากซาเล็ม ในปี ค.ศ. 1818 การค้าขายระหว่างซาเล็มและสุมาตราก็เกิดขึ้นหลายครั้งอย่างไม่มีเหตุการณ์สำคัญใดใด มาจนกระทั่งเมื่อถูกโจมตีโดยโจรสลัดเข้าหลายครั้ง ซึ่งทำให้เกิดข่าวลือกันไปต่าง ๆ ในวงผู้ค้าขายถึงอันตรายของนักเดินเรือชาวอินเดียและชาวยุโรปที่ประสบจากน้ำมือของโจรสลัดในบริเวณนั้นสหรัฐอเมริกาแก้ปัญหาโดยใช้มาตรการการลงโทษหลังจากที่ผู้ค้าขายจากนิวอิงแลนด์ประสบภัยจากโจรสลัดและหลังจากกะลาสีของเรือสินค้าห้าคนถูกสังหารซึ่งถือว่าเป็นเหตุการณ์อันร้ายแรงที่มีผลกระทบกระเทือนต่อความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสุมาตราและซาเล็ม

การประดิษฐ์ระบบการทำความเย็น (refrigeration) ในกลางคริสต์ศตวรรษที่ 19 เป็นผลทำให้ความต้องการเครื่องเทศโดยทั่วไปลดลงซึ่งก็ทำให้มีผลกระทบกระเทือนค้าขายเครื่องเทศโดยตรง

ศาสนาฮินดูและศาสนาพุทธมามีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าขายเครื่องเทศโดยทางอ้อมเมื่อผู้อุปถัมภ์ศาสนาลงทุนและได้รับผลกำไรที่มามีประโยชน์ต่อเศรษฐกิจท้องถิ่นและใช้ในการส่งเสริมศิลปะในรูปแบบต่าง ๆศาสนาพุทธโดยเฉพาะที่เผยแพร่ออกไปตามเส้นทางการค้าทางทะเลศาสนาอิสลามเผยแพร่ไปทั่วเอเชียไปจนถึงกลุ่มเกาะมลายูในคริสต์ศตวรรษที่ 10 พ่อค้ามุสลิมมีบทบาทสำคัญในการค้าขาย นักสอนศาสนาคริสต์เช่นนักบุญฟรังซิส ซาเวียร์ก็ใช้เส้นทางนี้ในการเผยแพร่ศาสนาคริสต์ในตะวันออก ศาสนาคริสต์และศาสนาอิสลามก็แก่งแย่งกันมีอิทธิพลในหมู่เกาะโมลุกกะ

การค้าขายเครื่องเทศในอาณานิคมของโปรตุเกสมีพ่อค้ามาจากหลายดินแดนที่รวมทั้งจากอินเดีย ซีเรีย จีน และอาหรับ ที่ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนตำนาน ภาษา และ วัฒนธรรมระหว่างผู้มาจากดินแดนต่าง ๆ และระหว่างดินแดนที่ทำการค้าขาย ความรู้ภาษาโปรตุเกสกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ทำการค้าขาย

พ่อค้าชาวอินเดียก็นำอาหารอินเดียมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะมายังในบริเวณที่ปัจจุบันคือมาเลเซียและอินโดนีเซียที่การใช้เครื่องเทศเป็นเครื่องปรุงกลายมาเป็นที่นิยม หรือชาวโปรตุเกสที่นำน้ำส้มสายชูไปยังอินเดีย อาหารอินเดียที่ปรับให้เข้ากับลิ้นชาวยุโรปก็เข้ามา และเริ่มมาแพร่หลายในอังกฤษราว ค.ศ. 1811 เมื่อผู้ที่ไปทำงานในอินเริ่มกลับเข้ามาในอังกฤษ

ตารางข้างล่างแสดงการผลิตเครื่องเทศจากทั่วโลกในปี ค.ศ. 2004 (สถิติจากองค์การอาหารและเกษตรกรรมแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the United Nations)):


 

 

รับจำนำรถยนต์ รับจำนำรถจอด

เบอร์ลินตะวันออก ประเทศเยอรมนีตะวันออก ปฏิทินฮิบรู เจ้า โย่วถิง ดาบมังกรหยก สตรอเบอร์รี ไทยพาณิชย์ เคน ธีรเดช อุรัสยา เสปอร์บันด์ พรุ่งนี้ฉันจะรักคุณ ตะวันทอแสง รัก 7 ปี ดี 7 หน มอร์ มิวสิค วงทู อนึ่ง คิดถึงพอสังเขป รุ่น 2 เธอกับฉัน เป๊ปซี่ น้ำอัดลม แยม ผ้าอ้อม ชัชชัย สุขขาวดี ประชากรศาสตร์สิงคโปร์ โนโลโก้ นายแบบ จารุจินต์ นภีตะภัฏ ยัน ฟัน เดอร์ไฮเดิน พระเจ้าอาฟงซูที่ 6 แห่งโปรตุเกส บังทันบอยส์ เฟย์ ฟาง แก้ว ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ เอ็มมี รอสซัม หยาง มี่ ศรัณยู วินัยพานิช เจนนิเฟอร์ ฮัดสัน เค็นอิชิ ซุซุมุระ พอล วอล์กเกอร์ แอนดรูว์ บิ๊กส์ ฮันส์ ซิมเมอร์ แบร์รี ไวต์ สตาญิสวัฟ แลม เดสมอนด์ เลเวลีน หลุยส์ที่ 4 แกรนด์ดยุคแห่งเฮสส์และไรน์ กีโยม เลอ ฌ็องตี ลอเรนโซที่ 2 เดอ เมดิชิ มาตราริกเตอร์ วงจรรวม แจ็ก คิลบี ซิมโฟนีหมายเลข 8 (มาห์เลอร์) เรอัลเบติส เฮนรี ฮัดสัน แคว้นอารากอง ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน กันต์ กันตถาวร เอก ฮิมสกุล ปัญญา นิรันดร์กุล แฟนพันธุ์แท้ 2014 แฟนพันธุ์แท้ 2013 แฟนพันธุ์แท้ 2012 แฟนพันธุ์แท้ 2008 แฟนพันธุ์แท้ 2007 แฟนพันธุ์แท้ 2006 แฟนพันธุ์แท้ 2005 แฟนพันธุ์แท้ 2004 แฟนพันธุ์แท้ 2003 แฟนพันธุ์แท้ 2002 แฟนพันธุ์แท้ 2001 แฟนพันธุ์แท้ 2000 บัวชมพู ฟอร์ด ซาซ่า เดอะแบนด์ไทยแลนด์ แฟนพันธุ์แท้ปี 2015 แฟนพันธุ์แท้ปี 2014 แฟนพันธุ์แท้ปี 2013 แฟนพันธุ์แท้ปี 2012 ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ พรสวรรค์ บันดาลชีวิต บุปผาราตรี เฟส 2 โมเดิร์นไนน์ ทีวี บุปผาราตรี ไฟว์ไลฟ์ แฟนพันธุ์แท้ รางวัลนาฏราช นักจัดรายการวิทยุ สมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 7 แบร์นาร์แห่งแกลร์โว กาอึน จิรายุทธ ผโลประการ อัลบาโร เนเกรโด ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ เอมี่ อดัมส์ ทรงยศ สุขมากอนันต์ ดอน คิง สมเด็จพระวันรัต (จ่าย ปุณฺณทตฺโต) สาธารณรัฐเอสโตเนีย สาธารณรัฐอาหรับซีเรีย เน็ตไอดอล เอะโระเก คอสเพลย์ เอวีไอดอล ช็อคโกบอล มุกะอิ

 

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45
46
47
48
49
50
51
52
53
54
55
56
57
58
59
60
61
62
63
64
65
66
67
68
69
70
71
72
73
74
75
76
77
78
79
80
81
82
83
84
85
86
87
88
89
90
91
92
93
94
95
96
97
98
99
100
101
102
103
104
105
106
107
108
109
110
111
112
113
114
115
116
117
118
119
120
121
122
123
124
125
126
127
128
129
130
131
132
133
134
135
136
137
138
139
140
141
142
143
144
145
146
147
148
149
150
151
152
153
154
155
156
157
158
159
160
161
162
163
164
165
166
167
168
169
170
171
172
173
174
175
176
177
178
179
180
181
182
183
184
185
186
187
188
189
190
191
192
193
194
195
196
197
198
199
200
201
202
203
204
205
206
207
208
209
210
211
212
213
214
215
216
217
218
219
220
221
222
223
224
225
226
227
228
229
230
231
232
233
จำนำรถราชบุรี รถยนต์ เงินด่วน รับจำนำรถยนต์ จำนำรถยนต์ จำนำรถ 23301