ค้นหา
  
Search Engine Optimization Services (SEO)

การค้าประเวณีเด็ก

การค้าประเวณีเด็ก (อังกฤษ: Prostitution of children, child prostitution) เป็นการค้าประเวณีที่เกี่ยวกับเด็ก เป็นรูปแบบหนึ่งของการฉวยประโยชน์การค้าทางเพศจากเด็ก เด็กในที่นี้มักจะหมายถึงผู้เยาว์ หรือบุคคลที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ในเขตกฎหมายโดยมาก การค้าประเวณีเด็กผิดกฎหมายโดยเป็นส่วนของกฎหมายห้ามการค้าประเวณีโดยทั่ว ๆ ไป

การค้าประเวณีเด็กมักจะปรากฏในรูปแบบของการค้าเซ็กซ์ (sex trafficking) ที่เด็กถูกลักพาตัว หรือถูกหลอกให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้าเพศ หรือว่า เป็นเซ็กซ์เพื่อการอยู่รอด ที่เด็กจะร่วมกิจกรรมทางเพศแลกเปลี่ยนกับปัจจัยสี่ที่จำเป็นต่อชีวิตรวมทั้งอาหารและที่อยู่อาศัย การค้าประเวณีเด็กมักจะเกี่ยวข้องกับสื่อลามกอนาจารเด็ก และบางครั้งจะเกิดขึ้นคาบเกี่ยวกัน และมีคนที่เดินทางไปต่างประเทศเพื่อจะเที่ยวเซ็กซ์ทัวร์เด็ก งานวิจัยแสดงว่า อาจจะมีเด็กมากถึง 10 ล้านคนทั่วโลกที่ค้าประเวณี โดยมีปัญหาหนักที่สุดในทวีปอเมริกาใต้และเอเชีย แต่ก็เป็นปัญหาทั่วโลก ทั้งในประเทศกำลังพัฒนาและพัฒนาแล้ว

สหประชาชาติได้กำหนดว่า การค้าประเวณีเด็กผิดกฎหมายสากล โดยมีการรณรงค์และองค์กรต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อต่อต้านการปฏิบัติการเช่นนี้

เด็กโดยมากที่เกี่ยวข้องเป็นหญิง อาจจะอายุเพียงแค่ 4-5 ขวบ เรียนน้อยมากและถูกคนแปลกหน้าหลอกได้ง่าย

มีนิยามหลายอย่างสำหรับการค้าประเวณีเด็ก สหประชาชาตินิยามว่า "การผูกมัดว่าจ้างเด็กหรือการให้บริการเด็ก เพื่อทำกิจกรรมทางเพศแลกกับเงินหรือประโยชน์อื่น ๆ โดยทำกับบุคคลนั้นหรือกับบุคคลอื่น" ส่วน "อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิของเด็ก" (Convention on the Rights of the Child) แห่งสหประชาชาติ นิยามว่า "การได้มา การจัดหา หรือการเสนอให้ ซึ่งบริการของเด็ก หรือการชักชวนเด็กให้ร่วมกิจกรรมทางเพศเพื่อค่าตอบแทนหรือรางวัลทุกรูปแบบ" โดยทั้งสองเน้นว่า เด็กเป็นเหยื่อของการถูกฉวยประโยชน์ แม้ว่าดูเหมือนจะให้ความยินยอม ส่วน "อนุสัญญาว่าด้วยรูปแบบเลวที่สุดของแรงงานเด็กปี 1999" ขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) นิยามว่า "การใช้ การจัดหา หรือการเสนอให้ เด็กเพื่อประเวณี"

ตาม ILO ณ กรุงเจนีวา การค้าประเวณีและสื่อลามกอนาจารเด็กเป็นรูปแบบหลักของการฉวยประโยชน์ทางเพศจากเด็ก ซึ่งมักจะกล้ำกัน โดยค้าประเวณีบางครั้งใช้อธิบายเป็นส่วนของรูปแบบที่กว้างกว่าของการฉวยประโยชน์การค้าทางเพศจากเด็ก (CSEC) โดยไม่รวมเอาแบบที่ปรากฏอื่น ๆ ของ CSEC เช่นการแต่งงานเด็ก การใช้แรงงานเด็กในบ้าน และการค้าเด็กเพื่อเซ็กซ์ (การลักลอบพาเด็กเพื่อค้าเซ็กซ์)

แต่ว่า คำว่า การค้าประเวณีเด็ก ก็ยังเป็นเรื่องโต้แย้งกันอยู่ คือ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐกล่าวว่า "คำแสดงนัยความคิดว่าเป็นการเลือกทำ แต่ความจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้น" กลุ่มต่อต้านต่าง ๆ เชื่อว่า คำว่า "child prostitution" (การค้าประเวณีเด็ก) และ "child prostitute" (โสเภณีเด็ก) มีปัญหาเพราะว่า โดยทั่วไปเด็กไม่สามารถตัดสินใจอย่างรอบรู้เกี่ยวกับการค้าประเวณี และดังนั้น จึงใช้คำว่า "prostituted children" (เด็กที่ถูกค้าประเวณี) และ "การฉวยประโยชน์การค้าทางเพศจากเด็ก" ส่วนกลุ่มอื่น ๆ ใช้คำว่า "child sex worker" (เด็กทำงานเซ็กซ์) เพื่อแสดงว่า เด็กทุกคนไม่ใช่เป็นแค่เหยื่อที่ไม่ได้ทำอะไร

เด็กมักจะถูกบังคับโดยโครงสร้างทางสังคมและโดยบุคคล ให้อยู่ในสถานการณ์ที่ผู้ใหญ่อาจฉวยประโยชน์จากความความอ่อนแอ แล้วทารุณเด็กหรือฉวยประโยชน์ทางเพศจากเด็ก ทั้งโครงสร้างสังคมและบุคคลรวมกันบังคับให้เด็กเข้าไปสู่การค้าทางเพศ เช่น การค้าประเวณีเด็กบ่อยครั้งจะติดตามการถูกทารุณทางเพศ และบ่อยครั้งเกิดขึ้นที่บ้าน นักวิชาการจำนวนมากเชื่อว่า เด็กโสเภณีโดยมากมาจากเอเชียอาคเนย์ และลูกค้าโดยมากเป็นนักท่องเที่ยวเซ็กซ์ชาวตะวันตก แต่ว่าก็มีนักสังคมวิทยาคนหนึ่งที่อ้างว่า แม้ว่าคนตะวันตกจะมีส่วนให้อุตสาหกรรมนี้โตขึ้น แต่ว่า ลูกค้าโดยมากของเด็กเป็นชาวเอเชียในพื้นที่

การค้าประเวณีมักจะเกิดขึ้นในที่ต่าง ๆ รวมทั้งซ่องโสเภณี บาร์ ไนต์คลับ บ้าน ตามถนนหรือเขตชุมชนต่าง ๆ ตามงานศึกษาหนึ่ง เด็กโสเภณีประมาณ 10% มีแมงดา และมากกว่า 45% เริ่มทำงานเพราะเพื่อน นักวิชาการในสำนักงานแรงงานเด็กสากลมอรีน แจ็ฟ และซ็อนเนีย โรเซ็น กล่าวว่า กรณีต่าง ๆ กันมาก

เหยื่อบางคนหนีออกจากบ้านหรือจากสถาบันของรัฐ บางคนถูกขายโดยผู้ปกครอง หรือถูกบังคับหรือถูกหลอกให้ค้าประเวณี และบางคนเป็นเด็กจรจัด บางคนทำแค่ชั่วครั้งชั่วคราว บางคนทำเป็นอาชีพ แม้ว่าเราอาจจะคิดถึงเด็กหญิงก่อนและมากที่สุดในเรื่องการค้าประเวณี แต่ก็มีจำนวนเด็กชายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ กรณีที่น่าสลดใจที่สุดก็คือเด็กที่ถูกบังคับให้ค้าประเวณีแล้วต่อมาถูกจำขัง (เพราะ) เด็กเหล่านี้มีโอกาสเสี่ยงเพิ่มขึ้นถูกทรมานและต่อความตายที่ติดตามมา

สำนักงานยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) นิยามคำว่า "การค้ามนุษย์" (human trafficking) ว่า "การสรรหาชักชวน การขนส่ง การย้าย การให้ที่ซ่อนเร้น และการรับบุคคล โดยใช้วิธีต่าง ๆ เช่นการข่มขู่หรือใช้กำลังหรือวิธีบีบบังคับอื่น ๆ การลักพาตัว การฉ้อฉลหรือการหลอกลวง เพื่อจะฉวยเอาประโยชน์" UNODC ประเมินจำนวนเหยื่อทั่วโลกที่ 2.5 ล้านคนUNICEF รายงานว่าตั้งแต่ปี 1982 มีเด็กถูกค้าประมาณ 30 ล้านคน การค้ามนุษย์เพื่อเป็นทาสทางเพศอยู่ในอัตรา 79% ของกรณีค้ามนุษย์ทั้งหมด โดยเหยื่อส่วนใหญ่เป็นหญิง และประมาณ 20% ของเหยื่อเป็นเด็ก ผู้กระทำผิดบ่อยครั้งก็เป็นหญิงด้วย

ในปี ค.ศ. 2007 สหประชาชาติจัดตั้งโปรแกรมริ่เริ่มระดับโลกเพื่อสู้การค้ามนุษย์แห่งสหประชาชาติ (UN.GIFT) โดยร่วมมือกับ UNICEF องค์การเพื่อความมั่นคงและการร่วมมือในยุโรป (OSCE) และกองทุนสหประชาชาติเพื่อการพัฒนาสตรี (UNIFEM) โดยได้เงินทุนมาจากรัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ UN.GIFT มีจุดมุ่งหมายต่อต้านการค้ามนุษย์โดยร่วมมือกับผู้มีส่วนในองค์กรรวมทั้งรัฐบาล ธุรกิจ และผู้ทำการระดับโลกอื่น ๆ งานริเริ่มแรกก็คือเผยแพร่เนื้อความว่า การค้ามนุษย์เป็นเรื่องผิดจริยธรรมและเป็นปัญหาที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ที่ต้องอาศัยการร่วมมือระดับโลกเพื่อยุติ UN.GIFT พยายามลดความต้องการในการฉวยประโยชน์ และสร้างสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยให้กับผู้ที่เสี่ยงต่อความเป็นเหยื่อ

ในบางกรณี เหยื่อค้ามนุษย์เพื่อเซ็กซ์ถูกลักพาตัวโดยคนแปลกหน้า หรือถูกบังคับหรือถูกหลอกให้เข้าร่วมโดยเรื่องโกหกและคำสัญญาหลอกลวงอื่น ๆ ในบางกรณี ครอบครัวอนุญาตหรือบังคับให้เด็กเข้าสู่ระบบเพราะเหตุความยากจนรุนแรง ถ้าถูกนำออกจากประเทศ ผู้ค้าเด็กจะฉวยประโยชน์จากความที่เด็กมักจะไม่เข้าใจภาษาในประเทศใหม่และไม่รู้สิทธิทางกฎหมายของตน

งานวิจัยแสดงว่า ผู้ค้าเด็กมักจะเลือกเด็กหญิงอายุ 12 ขวบหรือน้อยกว่านั้น เพราะว่าง่ายกว่าที่จะให้ทำตามต้องการ และเพราะเชื่อว่าเป็นหญิงพรหมจารี ซึ่งเป็นที่ต้องการจากลูกค้า แล้วจะแต่งให้เด็กดูแก่กว่าจริง และปลอมเอกสารเพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่ทางกฎหมาย เหยื่อมักจะมีพื้นเพคล้ายกัน บ่อยครั้งมาจากชุมชนที่มีอาชญากรรมสูงและไม่สามารถเข้าถึงการศึกษา แต่ว่า เหยื่อไม่ใช่จำกัดแต่เพียงเท่านี้ เพราะว่ามีทั้งชายและหญิงที่มาจากพื้นเพต่าง ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องกับการค้าเด็กเพื่อเซ็กซ์

นักจิตบำบัดหญิงผู้หนึ่งระบุขั้นตอน 5 ขั้นตอนในกระบวนการค้ามนุษย์เพื่อเซ็กซ์ คือขั้นมีจุดอ่อน ขั้นถูกสรรหาชักชวน ขั้นถูกขนส่ง ขั้นถูกฉวยประโยชน์ และขั้นปล่อยตัว แต่ว่า เหยื่อมักจะไม่ค่อยถึงขั้นสุดท้าย ฆาตกรรมและความตายจากอุบัติเหตุมีอัตราสูง เช่นเดียวกับการฆ่าตัวตาย และมีเหยื่อน้อยมากที่รับการช่วยชีวิตหรือหนีไปได้

การค้ามนุษย์เพื่อเซ็กซ์เป็นธุรกิจที่กำไรดีเพราะว่ามีความเสี่ยงต่ำและมีความต้องการทางตลาดสูง กำไรที่สูงเป็นสิ่งล่อใจหลักในการแพร่ขยายของการค้ามนุษย์ ในปัจจุบัน การค้ามนุษย์เพื่อเซ็กซ์มักจะทำออนไลน์โดยอำพรางรูปโฉมทำเป็นร้านค้า ทำให้ยากขึ้นที่จะบังคับใช้กฎหมาย ตัวอย่างรวมทั้งบริการผู้ติดตาม (เอ๊สขอร์ต) ออนไลน์ ซ่องโสเภณีในชุมชน และซ่องที่ทำเป็นโรงนวดหรือที่อาบน้ำ ซึ่งหลาย ๆ ที่มีเด็กเป็นทาสให้บริการ

รูปแบบหลักอีกอย่างหนึ่งของการค้าประเวณีเด็กก็คือ เซ็กซ์ทรงชีพ (survival sex) โดยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้กำหนดไว้ว่า

"เซ็กซ์ทรงชีพ" เกิดขึ้นเมื่อเด็กร่วมกิจกรรมทางเพศเพื่อจะได้เงิน อาหาร ที่อยู่อาศัย เสื้อผ้า หรือสิ่งจำเป็นอื่น ๆ รอดชีวิต ในสถานการณ์อย่างนี้ มักจะเป็นเรื่องที่เกิดแค่ระหว่างเด็กกับลูกค้าเท่านั้น เด็กที่รับจ้างร่วมกิจกรรมทางเพศทรงชีพมักจะไม่มีแมงดา หรือบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการค้าเด็ก บุคคลที่จ่ายค่าตอบแทนเพื่อเซ็กซ์กับเด็ก ไม่ว่าเด็กจะถูกควบคุมโดยแมงดา หรือจะรับจ้างทำเซ็กซ์ทรงชีพหรือไม่ สามารถถูกดำเนินคดีได้

งานที่ว่าจ้างโดย UNICEF และองค์การนอกภาครัฐ Save the Children ได้ทำงานวิจัยเกี่ยวกับการค้าประเวณีเด็กในประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาหลังสงคราม นักสังคมวิทยาที่เป็นหัวหน้างานรายงานว่า ความยากจนเป็นปัจจัยสำคัญค้าประเวณี โดยกล่าวว่า

การค้าเซ็กซ์ในระดับโลกเป็นผลของความพยายามที่บุคคลจะอยู่รอดทุก ๆ วัน เพราะเหตุความยากลำบากทางเศรษฐกิจ เท่า ๆ กับที่เป็นปัญหากลุ่มอาชญากรรม (ดังนั้น) การสู้กับอาชญากรรมแต่ไม่สู้กับความยากจน จึงเป็นการบำบัดอาการแต่ไม่ได้บำบัดโรค... เป็นเรื่องไม่สามัญที่หญิงจะรู้ว่าตนกำลังจะเข้าไปทำอะไร และจึงเข้าไปอย่างอาสาสมัครโดยบางส่วน บางทีพวกเธออาจจะคิดว่าตนจะต่างจากคนอื่นและจะสามารถหลีกออกจากสถานการณ์ได้ หรือว่า อาจจะต้องการเสี่ยงโชค มากกว่าที่จะรู้สึกทำอะไรไม่ได้ถ้าอยู่ที่บ้านในท่ามกลางความยากจน

ส่วนนักวิชาการแจ็ฟและโรเซ็นไม่เห็นด้วยและอ้างว่า ความยากจนเพียงอย่างเดียวบ่อยครั้งไม่ได้บังคับให้เด็กค้าประเวณี เพราะว่าการกระทำเช่นนี้ไม่แพร่หลายในกลุ่มสังคมที่ยากจนหลายกลุ่ม แต่ว่าต้องมีอิทธิพลภายนอกอื่น ๆ เช่นสถานการณ์ทางครอบครัวและความรุนแรงในบ้าน ที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อปัญหา

การค้าประเวณีเด็กเพื่อเซ็กซ์ทรงชีพเกิดขึ้นทั้งในประเทศกำลังพัฒนาและพัฒนาแล้ว ในเอเชีย เด็กหญิงต่ำกว่าอายุบางครั้งทำงานในซ่องโสเภณีเพื่อช่วยเหลือครอบครัว ในประเทศศรีลังกา ผู้ปกครองมักจะให้ลูกชายมากกว่าลูกสาวเป็นโสเภณี เพราะว่าสังคมให้ความสำคัญกับพรหมจรรย์ของหญิงมากกว่าชาย นักวิชาการแจ็ฟและโรเซ็นเขียนไว้ว่า การค้าประเวณีเด็กในอเมริกาเหนือมักจะเป็นผลของ "ความจำเป็นทางเศรษฐกิจ ความรุนแรงและทารุณกรรมในบ้าน ครอบครัวที่แตกสาแหรกขาด และการติดยาเสพติด" ในประเทศแคนาดา มีหนุ่มเยาวชนคนหนึ่งที่ถูกตัดสินว่าผิดในข้อหาเกี่ยวกับการค้าประเวณีเด็กหญิงอายุ 15 ปีออนไลน์ในปี ค.ศ. 2012 คือ เขาได้ชักชวนเธอให้ขายประเวณีเพื่อจะได้เงิน เก็บเงินที่เธอได้ทั้งหมด แล้วข่มขู่เธอด้วยความรุนแรงถ้าไม่ทำต่อไป

เด็กมักจะถูกบังคับให้ทำงานในสถานการณ์ที่สกปรกและอันตราย เสี่ยงต่อความรุนแรงและบางครั้งถูกตีและถูกข่มขืน นักวิจัยกล่าวว่า พวกเขา "ต้องทนทุกข์กับทารุณกรรม การไร้ความสุข และสุขภาพที่แย่" ยกตัวอย่างเช่น นักเขียนผู้หนึ่งรายงานว่า เหยื่อการค้าเซ็กซ์หญิงจากประเทศเนปาล "ถูกบังคับให้ยินยอมโดยกระบวนการข่มขืนและตบตี แล้วให้ค้าประเวณีอาจจะถึง 35 ครั้งต่อคืนเพื่อเงิน 1-2 ดอลลาร์สหรัฐต่อลูกค้าชาย" อีกตัวอย่างหนึ่งเป็นเรื่องเด็กชายชาวเนปาลจำนวนมาก ที่ถูกชักชวนให้ไปประเทศอินเดียแล้วถูกขายให้ซ่องโสเภณีในเมืองมุมไบ ไฮเดอราบาด นิวเดลี และลัคเนา คือเหยื่อคนหนึ่งจากประเทศเนปาลไปเมื่ออายุ 14 ปีแล้วถูกขายเป็นทาส ถูกขัง ถูกตี ถูกอดอาหาร ถูกบังคับให้แต่งตัวเป็นเด็กหญิง และถูกบังคับให้ขริบหนังหุ้มปลายองคชาต เขารายงานว่าถูกขังในซ่องกับเด็กชายอื่นอีก 40-50 คน ที่จำนวนมากถูกตอน ก่อนที่เขาจะหนีและกลับไปเนปาลหลังจากผ่านไป 7 ปี

นักอาชญาวิทยาผู้หนึ่งกล่าวว่า การค้าประเวณีเด็กและสื่อลามกอนาจารเด็กสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด คือ เด็กโสเภณี 1 ใน 3 เกี่ยวข้องกับสื่อลามก จะเป็นภาพยนตร์หรือสิ่งตีพิมพ์ก็ดี วัยรุ่นที่หนีออกจากบ้าน มักจะถูกใช้ในภาพยนตร์และภาพลามก นอกจากปัญหาสื่อลามกแล้ว

เด็กที่ถูกฉวยประโยชน์ทางเพศในโลกทั้งสองนี้มักจะเป็นเหยื่อของการทำร้ายทางเพศ (sexual assault) ความวิปริตทางเพศ กามโรค จะได้ความทรงจำที่ไม่ลืมเลือนเกี่ยวกับการถูกใช้ทางเพศอย่างผิด ๆ และจะได้ร่างกายที่ถูกล่วงล้ำอย่างน่าบัดสี ที่ถูกทารุณ ที่จะมีรอยด่างชั่วกาลนาน

ตามองค์กรต่อต้านนอกภาครัฐองค์กรหนึ่ง การค้าประเวณีทำให้บาดเจ็บเช่น การฉีกขาดของช่องคลอด ผลทางกายต่าง ๆ จากการถูกทรมานและการถูกทำให้เจ็บ การติดเชื้อ หรือการตั้งครรภ์ที่ไม่ต้องการ เนื่องจากลูกค้าน้อยนักที่จะระวังเรื่องเอชไอวี เด็กที่ถูกค้าประเวณีจึงมีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะติดโรค และในบางพื้นที่เด็กโดยมากจะติดโรค กามโรคอื่น ๆ ก็เป็นความเสี่ยงด้วย เช่น ซิฟิลิสและเริม นอกจากนั้นแล้วเด็กยังมีวัณโรคในระดับสูงอีกด้วย โรคเหล่านี้บ่อยครั้งทำให้ถึงตาย

อดีตเด็กโสเภณีมักจะมีอาการเจ็บป่วยทางจิต รวมทั้งภาวะซึมเศร้า และความผิดปกติที่เกิดหลังความเครียดที่สะเทือนใจ (PTSD) มีผลลบทางใจอื่น ๆ รวมทั้งความโกรธ การนอนไม่หลับ ความสับสนเรื่องเพศและบุคลิกภาพ ความไม่เชื่อใจผู้ใหญ่ การสูญเสียความมั่นใจ มีปัญหาสุขภาพอื่น ๆ รวมทั้งปัญหาเกี่ยวกับฟัน ตับอักเสบ บี และซี และปัญหารุนแรงเกี่ยวกับตับและไต มีปัญหาการแพทย์อื่น ๆ รวมทั้งปัญหาในระบบสืบพันธุ์และความบาดเจ็บจากการถูกทำร้ายทางเพศ (sexual assault) มีปัญหาทางกายและทางประสาทจากการถูกทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง และมีปัญหาสุขภาพทั่วไปอื่น ๆ รวมทั้งระบบลมหายใจและการเจ็บข้อ

การค้าประเวณีเด็กผิดกฎหมายสากล อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิของเด็กแห่งสหประชาชาติ มาตราที่ 34 กล่าวว่า "รัฐผู้ร่วมอนุสัญญาจะดำเนินการป้องกันเด็กจากการฉวยประโยชน์และทารุณกรรมทางเพศ รวมทั้งการค้าประเวณีและการมีส่วนร่วมในสื่อลามกอนาจาร" เป็นอนุสัญญาที่เริ่มทำเมื่อปี 1989 และมีประเทศ 193 ประเทศได้เข้าร่วมอนุสัญญาแล้ว ในปี 1990 สหประชาชาติได้จัดตั้งตำแหน่ง "ผู้รายงานการประชุมพิเศษว่าด้วยการขายเด็ก การค้าประเวณีเด็ก และสื่อลามกอนาจารเด็ก" (Special Rapporteur on the sale of children, child prostitution and child pornography) ที่จะสืบสวนการฉวยประโยชน์จากเด็กทั่วโลกแล้วให้คำแนะนำกับรัฐบาลต่าง ๆ เพื่อยุติปัญหา แม้ว่าการค้าประเวณีของผู้ใหญ่จะถูกผิดกฎหมายต่างกันในประเทศต่าง ๆ แต่ว่าการค้าประเวณีเด็กเป็นเรื่องผิดกฎหมายเกือบในทุกประเทศ และทุกประเทศล้วนมีข้อจำกัดบางอย่างในเรื่องนั้น

มีข้อโต้เถียงกันว่าอย่างไรเป็นเด็กที่ถูกค้าประเวณี กฎหมายสากลนิยามเด็กว่าเป็นบุคคลอายุต่ำกว่า 18 ปี แต่มีประเทศบางประเทศที่มีอายุที่ยอมให้ร่วมประเวณีได้และอายุความเป็นผู้ใหญ่ที่ต่ำกว่านั้น โดยปกติอยู่ในระหว่าง 13-17 ปี ดังนั้น บางครั้งเจ้าหน้าที่จึงลังเลที่จะตรวจสอบกรณีต่าง ๆ เนื่องจากความแตกต่างของอายุที่ยอมรับ แต่ว่าก็มีกฎหมายของบางประเทศที่แยกแยะระหว่างวัยรุ่นและเด็กที่ถูกค้าประเวณี ยกตัวอย่างเช่น รัฐบาลญี่ปุ่นจัดเด็กโสเภณีระหว่าง 13-18 ปีว่าเป็นวัยรุ่น

โทษของผู้ทำผิดต่าง ๆ กันในแต่ละประเทศ ยกตัวอย่างเช่นในสหรัฐอเมริกา โทษของการมีส่วนร่วมกับการค้าประเวณีเด็กรวมทั้งการจำคุก 5-20 ปี ส่วนในประเทศไทย นอกจากจะมีกำหนดโทษในกรณีต่าง ๆ ของการค้าประเวณีแล้ว ยังมีกำหนดลงโทษพิเศษเกี่ยวกับเด็กในกรณีที่เป็นผู้กระทำชำเราเด็กในสถานการค้าประเวณี:มาตรา 8 เป็นผู้จัดหา ล่อไป หรือชักพาไป:มาตรา 9 รับตัวหรือสนับสนุนให้รับเด็กที่ถูกจัดหาล่อไปหรือชักพาไป:มาตรา 9 บิดามารดาผู้ปกครองมีส่วนร่วม:มาตรา 10 หรือเป็นเจ้าของกิจการ ผู้ดูแล ผู้จัดการ หรือผู้ควบคุม:มาตรา 11

สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐได้ตั้งแผนกใหม่ (Innocence Lost) ที่ทำงานปลดปล่อยเด็กจากการค้าประเวณี โดยตอบสนองต่อปฏิกิริยาของประชาชนทั่วประเทศเกี่ยวกับปฏิบัติการของสำนักงานที่ปล่อยเด็ก 23 คนจากการค้าประเวณีโดยบังคับในปี 2011

การค้าประเวณีเด็กมีอยู่ในทุกประเทศ แต่มีปัญหามากที่สุดในทวีปอเมริกาใต้และเอเชีย แต่ว่า จำนวนเด็กโสเภณีก็กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในส่วนอื่น ๆ ของโลกรวมทั้ง อเมริกาเหนือ แอฟริกา และยุโรปสถิติที่แน่นอนหาได้ยาก แต่ว่าโดยประเมิน มีเด็กประมาณ 10 ล้านคนที่ค้าประเวณีทั่วโลก

โดยปี 1999 มีรายงานว่าการค้าประเวณีเด็กในประเทศอาร์เจนตินากำลังเพิ่มขึ้นในอัตราที่น่าตกใจ และอายุเฉลี่ยก็กำลังลดลง องค์การนอกภาครัฐองค์กรหนึ่งกล่าวว่า อาร์เจนตินาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเซ็กซ์เด็กยอดนิยมแห่งหนึ่งสำหรับคนใคร่เด็กจากยุโรปและสหรัฐอเมริกา แต่ว่า การค้าประเวณีเด็กอายุ 18 ปีและน้อยกว่าจัดเป็นอาชญากรรมตามกฎหมายของประเทศ แต่ลงโทษบุคคลที่ "โปรโหมตหรืออำนวย" การค้าประเวณีเท่านั้น ไม่ลงโทษลูกค้าที่ฉวยประโยชน์จากเด็ก

นักมานุษยวิทยาคนหนึ่งกล่าวว่า สังคมโดยมากมีความเห็นเชิงลบเกี่ยวกับการค้าประเวณีเด็ก ส่วนหนึ่งเพราะมองว่าเด็กถูกทอดทิ้งหรือขายโดยผู้ปกครองและครอบครัวองค์การแรงงานระหว่างประเทศรวมการค้าประเวณีเด็กในรายการ "รูปแบบแรงงานเด็กที่แย่ที่สุด" งานประชุมโลกใหญ่ต้านการฉวยประโยชน์การค้าทางเพศจากเด็กในปี 1996 เรียกการค้าประเวณีเด็กว่า "อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ" "การทรมาน" และ "การเป็นทาส"ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์รัฐบาลกลางสหรัฐผู้เชี่ยวชาญเรื่องการฉวยประโยชน์จากเด็กและการค้ามนุษย์ พร้อมกับผู้ร่วมเขียนที่เป็นศาสตราจารย์ทางกฎหมายกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสะเทือนอารมณ์ที่มีมุมมองหลายด้านเกี่ยวกับการป้องกัน คือ

ประเด็นการห้ามและการลงโทษเพราะการฉวยประโยชน์จากเด็กเป็นเรื่องที่สะเทือนอารมณ์อย่างรุนแรง แม้ว่าจะมีมติโดยทั่วไปว่า การฉวยประโยชน์จากเด็ก ไม่ว่าจะมาจากอินเทอร์เน็ต จากการค้าประเวณีแบบบังคับ จากการลักลอบพาเด็กข้ามประเทศหรือภายในประเทศเพื่อค้าเซ็กซ์ หรือว่าจากการทำร้ายเด็กทางเพศ (molestation) เป็นเรื่องที่เกิดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ผู้ที่รู้เหตุการณ์ทั้งในสหรัฐอเมริกาและที่อื่น ๆ มีข้อตกลงร่วมกันน้อยว่า เป็นพฤติกรรมที่เลวร้ายแค่ไหน หรือว่าควรจะทำอะไรเพื่อแก้ปัญหานี้ถ้าต้องทำโดยประการทั้งปวง

นักข่าวสืบสวนคนหนึ่งกล่าวว่า การเหมารวมเรื่องการค้าประเวณีเด็กดำเนินมาเรื่อย ๆ จนถึงคริสต์ทศวรรษ 1990 จนกระทั่งเมื่อเกิดองค์กรต่อต้านขึ้นองค์กรแรก และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเริ่มทำการเพื่อแก้ไขความเข้าใจผิด นักอาชญาวิทยาคนหนึ่งกล่าวว่า ความเป็นห่วงเรื่องโรคใคร่เด็กและการทารุณเด็กทางเพศ และทัศนคติเกี่ยวกับเยาวชนที่เปลี่ยนไป ทำให้ประชาชนเห็นความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างการค้าประเวณีของผู้ใหญ่กับของเด็ก คือ แม้ว่าประชาชนจะไม่ชอบใจการค้าประเวณีของผู้ใหญ่ แต่เห็นการค้าของเด็กว่ารับไม่ได้ นอกจากนั้นแล้ว เด็กยังมองว่าเป็นผู้ "ไร้เดียงสา" หรือ "บริสุทธิ์" และการถูกค้าประเวณีจึงเทียมเท่ากับถูกจับเป็นทาส โดยทัศนคติที่เปลี่ยนไปเช่นนี้ ประชาชนจึงเริ่มเห็นเด็กในการค้าเพศว่าเป็นเหยื่อแทนที่จะเป็นผู้กระทำผิด เป็นผู้ควรที่จะฟื้นฟูสภาพแทนที่จะลงโทษ

แม้ว่าการรณรงค์ต่อต้านการค้าประเวณีเด็กจะมีตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1800 แล้ว แต่การประท้วงโดยคนจำนวนมากเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในคริสต์ทศวรรษ 1990 ในสหรัฐอเมริกา นำโดยองค์กร ECPAT (ย่อมาจากคำว่า หยุดการค้าประเวณีเด็ก สื่อลามกเด็ก และการค้าเด็กเพื่อเซ็กซ์) นักประวัติศาสตร์กล่าวถึงกลุ่มนี้ว่า "เป็นกลุ่มรณรงค์ต่อต้านการค้าประเวณีเด็กที่สำคัญที่สุด" โดยเบื้องต้นกลุ่มให้ความสนใจในปัญหาเด็กถูกฉวยประโยชน์ในเอเชียอาคเนย์โดยนักท่องเที่ยวชาวตะวันตก ต่อมา กลุ่มสิทธิสตรีและกลุ่มต่อต้านเซ็กซ์ทัวร์ได้เข้าร่วมประท้วงการดำเนินการเซ็กซ์ทัวร์ในกรุงเทพมหานคร เพราะการจุดชนวนจากรูปเยาวชนไทยที่ค้าประเวณีและออกข่าวในนิตยสาร ไทม์ และจากการตีพิมพ์พจนานุกรมในสหราชอาณาจักรที่กล่าวถึงกรุงเทพว่า "เป็นแหล่งที่มีโสเภณีมาก" นักมานุษยวิทยาวัฒนธรรมกล่าวว่า แม้ว่า การประท้วงจะไม่ช่วยลดเซ็กซ์ทัวร์หรืออัตราการค้าประเวณีเด็กที่กำลังเพิ่มขึ้น แต่กลุ่มเหล่านี้ "กระตุ้นความเห็นมวลชนทั้งระดับชาติและระดับสากล" และประสบผลสำเร็จในการชักให้สื่อมวลชนใส่ใจในเรื่องนี้อย่างกว้างขวางเป็นครั้งแรก ECPAT ต่อมาจึงขยายการประท้วงเรื่องการค้าประเวณีเด็กไปทั่วโลก

ในสหรัฐอเมริกาปลายคริสต์ทศวรรษ 1990 และต้นทศวรรษ 2000 มีการตั้งบ้านหลีกภัยและโปรแกรมฟื้นฟูสภาพสำหรับเด็กที่ถูกค้าประเวณี และตำรวจก็เริ่มสืบสวนปัญหานี้อย่างเอาจริงเอาจัง ศูนย์ทรัพยากรการค้ามนุษย์แห่งชาติก็ได้รับการก่อตั้งขึ้น สามารถโทรไปหาได้ฟรี 24 ชม. ตลอด 7 วัน โดยออกแบบให้ผู้โทรสามารถรายงานข้อมูลหรือรับข้อมูลเกี่ยวกับการค้ามนุษย์

การต่อต้านการค้าประเวณีเด็กและความเป็นทาสทางเพศขยายไปยังยุโรปและประเทศอื่น ๆ โดยองค์การต่าง ๆ ผลักดันให้ยอมรับเด็กว่าเป็นเหยื่อแทนที่จะเป็นผู้กระทำผิด ซึ่งก็ยังเป็นประเด็นที่ยังเด่นในปีต่อ ๆ มา ที่องค์กรต่าง ๆ ช่วยรณรงค์ในทศวรรษ 2000 และ 2010

การค้าประเวณีเด็กมีอยู่ตั้งแต่ในสมัยโบราณ เด็กชายก่อนวัยหนุ่มถูกขายประเวณีโดยทั่วไปในซ่องทั้งในกรีซและโรมโบราณ ตามนักเขียนท่านหนึ่ง "เด็กหญิงชาวอียิปต์ที่สวยที่สุดและตระกูลสูงที่สุดจะถูกบังคับให้ค้าประเวณี... และจะเป็นเด็กหญิงโสเภณีจนเริ่มมีประจำเดือนเป็นครั้งแรก" ส่วนการขายเด็กเพื่อค้าประเวณีของพ่อแม่เด็กจีนและอินเดียเป็นเรื่องปกติ และพ่อแม่ในอินเดียบางครั้งจะอุทิศลูกสาวให้กับวัดฮินดูเป็น "เทวทาสี" ซึ่งในอดีตเป็นตำแหน่งมีศักดิ์ศรีในสังคม คือเทวทาสีดั้งเดิมมีหน้าที่รักษาและทำความสะอาดวัดของเทวดาฮินดูที่ตนอุทิศให้ และเรียนรู้การดนตรีและการเต้นรำ แต่เมื่อระบบวิวัฒนาการต่อ ๆ มา บทบาทเปลี่ยนกลายเป็นโสเภณีวัด และเด็กหญิงที่ถูกอุทิศให้ก่อนเป็นสาว ก็จะถูกบังคับให้ค้าประเวณีกับชายชั้นสูง แม้ว่าข้อปฏิบัติเช่นนี้จะผิดกฎหมายแล้ว แต่ก็ยังมีอยู่ในปัจจุบัน

ในยุโรป การค้าประเวณีเด็กรุ่งเรืองจนกระทั่งถึงปลายคริสต์ทศวรรษ 1800 เช่นมีเด็กในอัตรา 50% ของคนค้าประเวณีในนครปารีส ต่อมาเรื่องอื้อฉาวปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ในประเทศอังกฤษมีผลให้รัฐบาลปรับอายุที่ยอมให้ร่วมประเวณีได้ขึ้น คือในเดือนกรกฎาคม 1885 นายวิลเลียม โทมัส สเตด ผู้เป็นบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ Pall Mall Gazette พิมพ์บทความชุด "ส่วยจากเด็กหญิงของเมืองบาบิโลนปัจจุบัน (The Maiden Tribute of Modern Babylon)" มี 4 บทความที่บรรยายกลุ่มอาชญากรรมขายเซ็กซ์เด็กใต้ดินที่นายสเตดรายงานว่า ขายเด็กให้ผู้ใหญ่ รายงานของนายสเตดพุ่งความสนใจไปที่เด็กหญิงอายุ 13 ปีนามว่า เอลิซา อารม์สตองก์ ผู้ถูกขายในราคา 5 ปอนด์สเตอร์ลิง (เท่ากับ 500 ปอนด์ในปี 2012 หรือประมาณ 24,490 บาท) แล้วนำไปหาหมอตำแยเพื่อตรวจดูว่ายังเป็นหญิงพรหมจรรย์ และภายในอาทิตย์ที่พิมพ์ชุดบทความ รัฐบาลอังกฤษได้ปรับอายุที่ยอมให้ร่วมประเวณีได้จาก 13 เป็น 16 ปี ซึ่งเป็นยุคนี้นั่นแหละที่คำว่า "white slavery" (ทาสขาว) กลายเป็นศัพท์ที่ใช้ทั่วยุโรปและสหรัฐหมายถึงเด็กที่ถูกค้าประเวณี


 

 

รับจำนำรถยนต์ รับจำนำรถจอด

เบอร์ลินตะวันออก ประเทศเยอรมนีตะวันออก ปฏิทินฮิบรู เจ้า โย่วถิง ดาบมังกรหยก สตรอเบอร์รี ไทยพาณิชย์ เคน ธีรเดช อุรัสยา เสปอร์บันด์ พรุ่งนี้ฉันจะรักคุณ ตะวันทอแสง รัก 7 ปี ดี 7 หน มอร์ มิวสิค วงทู อนึ่ง คิดถึงพอสังเขป รุ่น 2 เธอกับฉัน เป๊ปซี่ น้ำอัดลม แยม ผ้าอ้อม ชัชชัย สุขขาวดี ประชากรศาสตร์สิงคโปร์ โนโลโก้ นายแบบ จารุจินต์ นภีตะภัฏ ยัน ฟัน เดอร์ไฮเดิน พระเจ้าอาฟงซูที่ 6 แห่งโปรตุเกส บังทันบอยส์ เฟย์ ฟาง แก้ว ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ เอ็มมี รอสซัม หยาง มี่ ศรัณยู วินัยพานิช เจนนิเฟอร์ ฮัดสัน เค็นอิชิ ซุซุมุระ พอล วอล์กเกอร์ แอนดรูว์ บิ๊กส์ ฮันส์ ซิมเมอร์ แบร์รี ไวต์ สตาญิสวัฟ แลม เดสมอนด์ เลเวลีน หลุยส์ที่ 4 แกรนด์ดยุคแห่งเฮสส์และไรน์ กีโยม เลอ ฌ็องตี ลอเรนโซที่ 2 เดอ เมดิชิ มาตราริกเตอร์ วงจรรวม แจ็ก คิลบี ซิมโฟนีหมายเลข 8 (มาห์เลอร์) เรอัลเบติส เฮนรี ฮัดสัน แคว้นอารากอง ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน กันต์ กันตถาวร เอก ฮิมสกุล ปัญญา นิรันดร์กุล แฟนพันธุ์แท้ 2014 แฟนพันธุ์แท้ 2013 แฟนพันธุ์แท้ 2012 แฟนพันธุ์แท้ 2008 แฟนพันธุ์แท้ 2007 แฟนพันธุ์แท้ 2006 แฟนพันธุ์แท้ 2005 แฟนพันธุ์แท้ 2004 แฟนพันธุ์แท้ 2003 แฟนพันธุ์แท้ 2002 แฟนพันธุ์แท้ 2001 แฟนพันธุ์แท้ 2000 บัวชมพู ฟอร์ด ซาซ่า เดอะแบนด์ไทยแลนด์ แฟนพันธุ์แท้ปี 2015 แฟนพันธุ์แท้ปี 2014 แฟนพันธุ์แท้ปี 2013 แฟนพันธุ์แท้ปี 2012 ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ พรสวรรค์ บันดาลชีวิต บุปผาราตรี เฟส 2 โมเดิร์นไนน์ ทีวี บุปผาราตรี ไฟว์ไลฟ์ แฟนพันธุ์แท้ รางวัลนาฏราช นักจัดรายการวิทยุ สมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 7 แบร์นาร์แห่งแกลร์โว กาอึน จิรายุทธ ผโลประการ อัลบาโร เนเกรโด ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ เอมี่ อดัมส์ ทรงยศ สุขมากอนันต์ ดอน คิง สมเด็จพระวันรัต (จ่าย ปุณฺณทตฺโต) สาธารณรัฐเอสโตเนีย สาธารณรัฐอาหรับซีเรีย เน็ตไอดอล เอะโระเก คอสเพลย์ เอวีไอดอล ช็อคโกบอล มุกะอิ

 

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45
46
47
48
49
50
51
52
53
54
55
56
57
58
59
60
61
62
63
64
65
66
67
68
69
70
71
72
73
74
75
76
77
78
79
80
81
82
83
84
85
86
87
88
89
90
91
92
93
94
95
96
97
98
99
100
101
102
103
104
105
106
107
108
109
110
111
112
113
114
115
116
117
118
119
120
121
122
123
124
125
126
127
128
129
130
131
132
133
134
135
136
137
138
139
140
141
142
143
144
145
146
147
148
149
150
151
152
153
154
155
156
157
158
159
160
161
162
163
164
165
166
167
168
169
170
171
172
173
174
175
176
177
178
179
180
181
182
183
184
185
186
187
188
189
190
191
192
193
194
195
196
197
198
199
200
201
202
203
204
205
206
207
208
209
210
211
212
213
214
215
216
217
218
219
220
221
222
223
224
225
226
227
228
229
230
231
232
233
จำนำรถราชบุรี รถยนต์ เงินด่วน รับจำนำรถยนต์ จำนำรถยนต์ จำนำรถ 23301