ค้นหา
  
Search Engine Optimization Services (SEO)

กองทัพเรือญี่ปุ่น

กองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลของญี่ปุ่น มีประวัติมายาวนาน ในช่วง ศตวรรษที่ 20 จนถึง กลางศตวรรษ กำลังทางเรือญี่ปุ่นมีความก้าวหน้ามาก กองทัพเรือญี่ปุ่นในช่วงนั้นถือได้ว่าเป็นมหาอำนาจชาติหนึ่ง แต่ว่าเมื่อแพ้สงครามโลก กองทัพเรือญี่ปุ่นได้ถึงจุดตกต่ำสุด เมื่อปี ค.ศ. 1954 รัฐบาลญี่ปุ่น ได้จัดตั้งกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลและอากาศขึ้น

กองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลก็ค่อย ๆ เติบโตบวกกับประสบการณ์การสร้างเรือรบมาตลอดของญี่ปุ่นทำให้วันนี้กองทัพเรือญี่ปุ่นหรือกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเล เป็นกองทัพเรือที่ทันสมัยอย่างมากและมีเรือรบที่เพียงพอต่อยุทธศาสตร์ป้องกันประเทศญี่ปุ่น

ประเทศญี่ปุ่นเป็นหมู่เกาะ มีเกาะขนาดใหญ่มาก ๆ ถึง 4 เกาะและเกาะเล็ก ๆ อีกสามพันกว่า ๆ มีทะเลล้อมรอบทั้งทะเลญี่ปุ่นที่ใกล้ทวีปเอเซีย และทางมหาสมุทรแปซิฟิค ที่เป็นทะเลเปิด เพราะฉะนั้น กองกำลังป้องกันตนเองทางเรือของญี่ปุ่น (JMSDF) จึงต้องจัดวางกำลังและขีดความสามารถในการป้องกันตนเองให้มากที่สุดกองกำลังป้องกันตนเองทางเรือของญี่ปุ่น (JMSDF) มีกำลังพลประมาณ 45,800 นาย

กองเรือภาคที่ 1 มีฐานทัพเรืออยู่ที่ โยโกซูกะ ซึ่งรับผิดชอบด้านตะวันออกและตอนกลางของเกาะญี่ปุ่นที่ติดกับมหาสมุทรแปซิฟิค

กองเรือภาคที่ 2 มีฐานทัพเรืออยู่ที่ ซาเซโบะ รับผิดชอบทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะญี่ปุ่นหรือทะเลญี่ปุ่นตอนล่าง

กองเรือภาคที่ 3 มีฐานทัพเรืออยู่ 2 แห่งคือที่ มาอิซุรุ และ โอมินาโตะ มีพื้นที่รับผิดชอบครอบคลุมพื้นที่ตอนกลางของญี่ปุ่นที่ติดทางฝั่งทะเลญี่ปุ่นและตอนเหนือของญี่ปุ่นคือรอบ ๆ เกาะฮกไกโด

กองเรือภาคที่ 4 มีฐานทัพเรืออยู่ที่ คุเระ มีพื้นที่รับผิดชอบตอนกลางช่วงล่างของญี่ปุ่นและพื้นที่โดยรอบเกาะชิโกกุ ที่ติดกับฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิค

กองเรือหลักป้องกันตนเอง ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 4 กองเรือหลัก ในแต่ละกองเรือหลักจะมีอยู่ 2 หมวดเรือ ซึ่งจะกระจายไปในกองเรือภาคและฐานทัพเรือประจำภาคต่าง ๆ มีหน้าที่หลักโดยตรงก็คือป้องกันตนเอง รักษาดูแลน่านน้ำรอบ ๆ เกาะญี่ปุ่น ปกป้องผละประโยชน์และทรัพยาการทางทะเลเหมือนกับกองทัพเรือของทุกประเทศนั่น การจัดกำลังหมวดเรือจะมี เรือพิฆาตบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ (DDH) , เรือพิฆาต (หนัก) ติดอาวุธปล่อยนำวิถี (DDG), เรือพิฆาต (DD) รวมถึงเรือพิฆาตเบาหรือจัดอยู่ประเภทเรือฟริเกต (DE) ในอัตราหมวดละ 3-4 ลำ กองเรือประจำภูมิภาค ซึ่งอาจจะคล้าย ๆ กับภารกิจกองเรือตรวจอ่าวของบ้านเรา กองเรือประจำภูมิภาคจะมีอยู่ 5 หมวดเรือซึ่งประจำการอยู่ในภูมิภาคและฐานทัพเรือทั้ง 5 ฐานทัพเรือและรับผิดชอบในแต่ละพื้นที่ จากภูมิศาสตร์ที่เป็นเกาะ ซึ่งจะมีหน้าที่ลาดตระเวนตรวจการณ์หรืออาจร่วมกับกองเรือหลักป้องกันตนเองเพราะฉะนั้นจึงต้องใช้เรือที่มีขนาดใหญ่และมี เช่น เรือพิฆาต (DD) และ เรือพิฆาตเบาหรือจัดอยู่ประเภทเรือฟริเกต (DE) ในอัตราหมวดละ 3-4 ลำ เป็นกองกำลัง

กองเรือดำน้ำ ของกองกำลังป้องกันตนเองทางเรือของญี่ปุ่น (JMSDF) จะมีอยู่ 2 กองเรือดำน้ำคือกองเรือดำน้ำที่1 (หมวด 1, 3 และ5) กับกองเรือดำน้ำที่ 2 (หมวด 2 และ 4) หมวดละ 3-4 ลำ ซึ่งกองเรือดำน้ำญี่ปุ่นมีเรือดำน้ำประจำการอยู่ทั้งหมด 17 ลำ (อนาคตเพิ่มอีก 3 ลำ) ซึ่งถือว่ามากพอสมควรนะครับ มีฐานทัพอยู่ 2 แห่งคือ โยโกซูกะ ที่กองเรือดำน้ำที่ 2 ใช้เป็นฐานทัพและ คิเระ ที่มีกองเรือดำน้ำที่ 1 ประจำการอยู่และอย่างที่ทราบเรือดำน้ำทุกลำผลิตเองใช้งานในประเทศ

กองเรือกวาดทุ่นระเบิด ถือว่าเป็นกองเรือที่มีความจำเป็นต่อทุกกองทัพเรือนอกเหนือจากเรือรบหลัก เพราะสงครามทุ่นระเบิดก็มีผลมากถ้าถูกปิดล้อมโดยวางทุ่นระเบิด ถึงแม้รอบ ๆ เกาะญี่ปุ่นจะเป็นทะเลเปิดแต่ก็มีบางพื้นที่ถ้าถูกปิดอย่างทะเลญี่ปุ่นก็จะส่งผลเดินทางทางทะเล กองเรือกวาดทุ่นระบิดของของกองกำลังป้องกันตนเองทางเรือของญี่ปุ่น (JMSDF) มีเรือพี่เลี้ยงและสนับสนุนเรือกวาดทุ่นระเบิด, เรือกวาดทุ่นระเบิดไกลฝั่งและเรือกวาดทุ่นระเบิดใกล้ฝั่ง รวม ๆ กันประมาณ 30 ลำซึ่งกองเรือกวาดทุ่นระเบิดจะมีฐานทัพอยู่ที่โยโกซูกะ และ คิเระ เหมือนกับกองเรือดำน้ำ

กองเรือยกพลขึ้นบกและลำเลียง จะเป็นกองเรือที่ให้การสนับสนุนการรบยกพลขึ้นบกทั้งทหารราบและรถถัง ยานเกราะขนาดต่าง ๆ ตามความเหมาะสม ซึ่งมีเรือสงครามสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกขนาดใหญ่ (LST) จำนวน 3 ลำสามารถบรรทุก ยาน LCAC รถถังและยานเกราะ รวมถึงเฮลิคอปเตอร์, เรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ (LSU), เรือยกพลขึ้นบกขนาดกลาง (LCU) อย่างละ 2 ลำ, เรือระบายพลขนาดต่าง ๆ (LCM) รวมถึงยานสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก (LCAC) อีก 6 ลำ ซึ่งกองเรือยกพลจะมีฐานทัพหลักอยู่ที่ โยโกซูกะ และบางส่วนก็กระจายไปตามอีก 4 ฐานทัพเรือที่เหลือ

กองเรือสนับสนุน จะเป็นกองเรือสนับสนุนในด้านต่าง ๆ เช่น เรือส่งกำลังบำรุงขนาดใหญ่ (AMS) , เรือเติมน้ำมันขนาดใหญ่ (AOE) ซึ่งเรือทั้งสองประเภทสามารถส่งเสบียงและเติมน้ำมันได้ในกลางทะเล มีไม่กี่ประเทศที่สามารถทำภารกิจแบบนี้ได้ ประเทศไทยก็เป็นหนึ่งที่มีศักยภาพด้านนี้นะครับ นอกจากนี้ก็ยังมี เรือตัดน้ำแข็ง (AGB), เรือสำรวจทะเลลึกและเรืออุทกศาสตร์ (AGS-ASE), เรือกู้ภัยช่วยเหลือโดยใช้เรือดำน้ำและเรือกู้ภัยเรือดำน้ำ (ASR-AS) และเรือประเภทต่าง ๆ สำหรับใช้งานในการสนับสนุน ซึ่งกองเรือสนับสนุนนี้จะมีฐานทัพหลักอยู่ที่ โยโกซูกะและฐานทัพเรืออื่น ๆ ตามภารกิจ

กองเรือฝึก จะมีหน้าที่สำหรับฝึกฝึกนักเรียนนายเรือและกำลังพลโดยเฉพาะ ซึ่งทางกองกำลังป้องกันตนเองทางเรือของญี่ปุ่น (JMSDF) มีเรือที่ออกแบบมาเป็นเรือฝึกโดยตรงอยู่ 1 ลำ และก็ได้ทำการปรับปรุงเรือพิฆาตชั้น ฮัทซูยุกิ และ อซากิริ อย่างละ 2 ลำมาปรับปรุงเป็นเรือฝึก ซึ่งกำลังพลหรือนักเรียนนายเรือ สามารถทำการฝึกฝนได้เหมือนจริง เพราะระบบอาวุธและระบบต่าง ๆ ก็ไม่แตกต่างจากเรือรบหลักที่ประจำการเท่าไหร่ รวมไปถึงการปรับปรุงเรือดำน้ำชั้น ฮารุชิโอะ 2 ลำให้เป็นเรือดำน้ำฝึกด้วย เพื่อสร้างศักยภาพให้กำลังพลเรือดำน้ำ นอกจากนี้ ยังกองบัญชาการฝึกทางเรือและทางอากาศ และหน่วยงานด้านอื่น ๆ

เครื่องยนต์แก๊สเทอร์ไบน์ 4 เครื่อง ของ Rolsl-Royce Spey และ Rolsl-Royce Olympus อย่างละ 2 เครื่องมีเพลาใบจักร 2 เพลา ขนาด 54,000 KW ทำความเร็วได้ถึง 30 นอต

ขับเคลื่อนด้วยระบบ เครื่องยนต์แก๊สเทอร์ไบน์ 4 เครื่อง เครื่องมีเพลาใบจักร 2 เพลา ขนาด 54,000 KW ทำความเร็วได้ถึง 30 นอต

Hayabusa ถูกสร้างตั้งแต่ปี 2000 ถึงปี 2004 โดยทาง JMSDF ตั้งใจจะเอามาทดแทน PG 1 Go ที่ไม่เหมาะกับทะเลเปิดขนาดใหญ่แบบญ๊ปุ่น (PG 1 Go ที่ไดแบบมาจาก Sparviero-class ของอิตาลีนั้น เหมาะกับทะเลปิดมากกว่าโดยตัวเรือนั้น ถูกต่อขึ้นที่อู่ ชิโมโนะเซกิ(Shimonoseki) ซึ่งเป็นอู่เอกชนขนาดเล็ก (แต่เป็นคนละอู่กับที่สร้าง เรือเร็วโจมตีขีปนาวุธ PG 1 Go) โดยเริ่มต้นวางกระดูกงู ในเดือน พฤศจิกายน ปี2000 และทยอยต่อเข้าประจำการ จนครบ 6 ลำในเดือน มีนาคม ปี2004เพื่อลบข้อด้อยของ PG 1 Go ที่มีขนาดเล็ก ทางผู้ออกแบบจึงได้ขยายแบบเรือ ให้ใหญ่ขึ้น 4 เท่าติดอาวุธให้หนักขึ้น และใช้เครืองยนต์ที่มีกำลังสูงขึ้น โดยได้นำระบบ Water Jet ที่ถือว่าเป็นนวัตกรรมที่ใหม่มากๆ ในสมัยนั้นมาใช้ จึงทำให้ Hayabusa เป็นเรือเร็วโจมตี ติดอาวุธปล่อยนำวิถี ที่ทำความเร็วสูงและมีอาวุธที่หนักมากในยุคนั้น

มีระบบอาวุธปล่อยพื้น-สู่-พื้น แบบท่อคู่ SSM 1 B (Type 90 ship-to-ship missile) ซึ่งมีช่วงหมัดยาวถึง 200km แต่มีน้ำหนักเพียง 260kg เท่านั้น สำหรับทำลายเรือรบ, ปืนใหญ่ขนาด 76 มม.Otobreda รุ่น super rapid จำนวน 1 กระบอก และปืนกลขนาด12.7 มม จำนวน 2 กระบอก

เรือชั้น Hayabusa มีระวางขับน้ำสูงสุด 240 ตัน มีความยาว 50.1 เมตรและกว้าง 8.4 เมตร ขับเคลื่อนด้วยระบบ General electric LM 500-G07 Gas-turbine จำนวน 3 เครื่อง สามารถทำความเร็วได้สูงสุด 46 นอต(ประมาณ 85 กม.ต่อชั่วโมง) มีพลประจำเรือ 21 นาย เรือชั้นนี้ถูกสร้างขึ้นมา จำนวนทั้งสิ้น 6 ลำคือ PG 824 Hayabusa,PG 825 Wakataka,PG 826 Otaka,PG 827 Kumataka,PG 828 Umitaka และ PG 829 Shirataka

เรือสนับสนุนการกวาดทุ่นระเบิด (MST-MCL) 4 ลำ (ชั้น Uraga มี 2 ลำ, ชั้น Nijima มี 1 ลำ, ชั้น Ieshima มี 1 ลำ) เรือดำน้ำ (SS) 17 ลำ (ชั้น Soiyu 4 ลำ, ชั้น Harushio 2 ลำ, ชั้น Oyashio 11 ลำ)

เรือสำรวจอุทกศาสตร์ (AGS) 4 ลำ เรือสำรวจทางทะเล (ASE) 2 ลำ เรือตัดน้ำแข็ง (AGB) 1 ลำ เรือสำหรับวางเคเบิลใต้น้ำ (ARC) 1 ลำ เรือกู้ภัยเรือดำน้ำ (ASR) 1 ลำ เรือสนับสนุนกู้ภัยเรือดำน้ำ (AS) 1 ลำ

นอกจากกำลังทางเรือแล้วก็ยังมีกำลังทางอากาศกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลของญี่ปุ่น หรือเรียกกันเข้าใจง่าย ๆ ว่า กองบินนาวี ซึ่งมีสำนักงานหรือกองบัญชาการตั้งอยู่ที่ อัทซูกิ และมีฐานบินอยู่ถึง 7 แห่ง คือ อัทซูกิ, เคโนยะ, ฮาชิโนเฮะ, นาฮา, ทาเทะยะมะ, โอมูระ และอิวาคูนิ ซึ่งส่วนใหญ่มีภารกิจตรวจการณ์ทางทะเล ค้นหาช่วยเหลือผู้ประสบภัย ลำเลียงทางยุทธวิธี ปราบเรือดำน้ำอย่างเช่น เครื่องบิน P 3 C Orion ที่มีประจำการถึง 80 เครื่อง (ประเทศไทยมีใช้งานตั้ง 3 เครื่อง) หรือ เฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำ SH 60 J/K Seahawk ที่มีประจำการแค่ 130 เครื่องกองบินนาวีของญี่ปุ่นถือว่าเป็นกองบินนาวีที่มีขนาดใหญ่ประเทศหนึ่งของโลกซึ่งแบ่งออกเป็น

Kawasaki P-1 ได้เปิดตัวครั้งแรกในฐานอากาศกิฟูเมือวันที่28 กันยายน ปี2007 เป็นเครื่องบินปราบเรือดำน้ำของญี่ปุ่นที่ญี่ปุ่นสร้างเองมีความทันสมัยมากคาดว่าจะผลิตเพื่อทดแทนเครื่องบินP-3C


 

 

รับจำนำรถยนต์ รับจำนำรถจอด

อาสวกิเลส อวิชชา เอ็มพีแอลเอส ภาวะถ่ายโอนแบบไม่ประสานเวลา แวน สมาร์ทโฟน ไลน์ (โปรแกรมประยุกต์) แอลทีอี 4 จี 3 จี วีโอไอพี บริการข้อความสั้น ใยแก้วนำแสง ระบบโทรศัพท์ การกล้ำสัญญาณ เนตเวิร์กสวิตช์ เราต์เตอร์ สัญญาณดิจิทัล ซิมเพล็กซ์ สายอากาศ เสาอากาศ แลน Transmission Control Protocol อินเทอร์เน็ตโพรโทคอล แพ็กเกตสวิตชิง ดาวเทียมสื่อสาร การพูด การสื่อสารภายในบุคคล การประชาสัมพันธ์ การโฆษณาชวนเชื่อ การตลาด การสื่อสารระหว่างบุคคล ไอแซค อสิมอฟ เขามาจากดาวอังคาร อินุยาฉะ เทพอสูรจิ้งจอกเงิน สโลว์สเต็ป สัญกรณ์โอใหญ่ พรีไบโอติกส์ ป. อินทรปาลิต การเวก (พืช) การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ สีเทา สีขาว สีน้ำตาล ม่วง เขียว น้ำเงิน สีกากี ชมพู ระบบสี RGB SVG เบราว์เซอร์ แม่สีแสง CSS RGB เวิลด์ไวด์เว็บคอนซอร์เทียม เว็บจีแอล จาวาสคริปต์ Font family (HTML) ซีเอสเอส สไตล์ชีต ด็อม ซี-เอชทีเอ็มแอล เอกซ์เอชทีเอ็มแอล เอชทีเอ็มแอล5 COLOR ISO 11940 ธอง แม่กุญแจสีม่วง ไวต่ออักษรใหญ่เล็ก แม่กุญแจสีทอง ปากานี ซอนด้า ปากานี ซอนด้า ปากานี ซอนด้า ปากานี ซอนด้า ปากานี ซอนด้า เคนต์ โลตัส อีลิส โรวัน แอตคินสัน พยัคฆ์ร้าย ศูนย์ ศูนย์ ก๊าก พยัคฆ์ร้ายทวงแค้นระห่ำโลก จอมมฤตยู 007 เอียน เฟลมมิง พยัคฆ์ร้ายสะบัดลาย โคเวนทรี ระบบส่งกำลัง โปรตอน เอ็กซ์โซร่า โปรตอน วาจา โปรตอน เพอร์โซนา โปรตอน เพรเว่ นิตยสารฟอร์บส Thai language Japanese language Polish language Italian language Dutch language Hindi 2007 พระแม่กาลี มหาธิการิณี

 

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45
46
47
48
49
50
51
52
53
54
55
56
57
58
59
60
61
62
63
64
65
66
67
68
69
70
71
72
73
74
75
76
77
78
79
80
81
82
83
84
85
86
87
88
89
90
91
92
93
94
95
96
97
98
99
100
101
102
103
104
105
106
107
108
109
110
111
112
113
114
115
116
117
118
119
120
121
122
123
124
125
126
127
128
129
130
131
132
133
134
135
136
137
138
139
140
141
142
143
144
145
146
147
148
149
150
151
152
153
154
155
156
157
158
159
160
161
162
163
164
165
166
167
168
169
170
171
172
173
174
175
176
177
178
179
180
181
182
183
184
185
186
187
188
189
190
191
192
193
194
195
196
197
198
199
200
201
202
203
204
205
206
207
208
209
210
211
212
213
214
215
216
217
218
219
220
221
222
223
224
225
226
227
228
229
230
231
232
233
234
235
236
237
238
239
จำนำรถราชบุรี รถยนต์ เงินด่วน รับจำนำรถยนต์ จำนำรถยนต์ จำนำรถ 23944