ค้นหา
  
Search Engine Optimization Services (SEO)

กรณีมุกเดน

ในวันที่ 18 กันยายน ค.ศ. 1931 ใกล้กับเมืองมุกเดน (หรือ เสิ่นหยางในปัจจุบัน) ทางแมนจูเรียตอนใต้ ส่วนหนึ่งของรางรถไฟซึ่งกองทัพญี่ปุ่นยังคงยึดครองอยู่ในขณะนั้นเกิดการระเบิดขึ้น กองทัพญี่ปุ่นจึงได้ใช้ข้ออ้างดังกล่าวในการรุกรานแมนจูเรีย และนำไปสู่การก่อตั้งแมนจูกัวในปีต่อมา ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการรบในสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่สอง ถึงแม้ว่าสงครามครั้งนี้จะปะทุขึ้นมาในปี ค.ศ. 1937 ก็ตาม

เหตุการณ์ดังกล่าวมีชื่อเรียกกันหลายแบบ เช่น กรณีมุกเดน (อังกฤษ: Mukden Incident) ในญี่ปุ่นเรียก กรณีแมนจูเรีย (อังกฤษ: Manchurian Incident, ญี่ปุ่น: ???? หรือ ????) ส่วนในจีนเรียก เหตุการณ์ 18 กันยายน (?•????/?•????  Ji?y?b? Sh?bi?n) หรือ เหตุการณ์หลิ่วเถียวโกว (?????/?????  Li?ti?og?u Sh?bi?n)

ความสนใจทางด้านเศรษฐกิจและการเมืองของญี่ปุ่นที่มีต่อแมนจูเรียนั้นเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่หลังสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น เมื่อปี ค.ศ. 1904-1905 ตามเงื่อนไขของสนธิสัญญาพอร์ตสมัธ ทำให้ญี่ปุ่นได้เช่าทางรถไฟแมนจูเรียสายใต้ (อังกฤษ: South Manchuria Railway) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทางรถไฟจีนสายตะวันออก (อังกฤษ: China Far East Railway) รัฐบาลญี่ปุ่นอ้างว่าสิทธิการครอบครองทางรถไฟดังกล่าวครอบคลุมถึงสิทธิพิเศษที่รัสเซียได้รับจากจีนในสนธิสัญญาลี-โลบานอฟ แห่งปี ค.ศ. 1896 ซึ่งถูกขยายขอบเขตโดยสัญญาเช่าเขตควันตงในปี ค.ศ. 1898 จึงทำให้ญี่ปุ่นมีอำนาจบริหารอย่างเด็ดขาดในเขตทางรถไฟแมนจูเรียสายใต้ กองทัพญี่ปุ่นได้มียามประจำการอยู่ในพื้นที่เพื่อรักษาความปลอดภัยให้แก่รถไฟและรางรถไฟ อย่างไรก็ตาม ทหารเหล่านี้เป็นเพียงพลทหารธรรมดา และต้องฝึกซ้อมรบนอกเขตดังกล่าวบ่อยครั้ง

ทางด้านประเทศจีน ซึ่งยังคงอ่อนแออยู่ในขณะนั้นต้องเผชิญกับภัยคอมมิวนิสต์จากสหภาพโซเวียตทางทิศเหนือ รวมทั้งอำนาจทางการเมืองและการทหารของกองทัพควันตงแห่งกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น ซึ่งมีความพยายามที่จะผนวกเอาแมนจูเรียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิญี่ปุ่น

พันเอกแห่งกองทัพควันตง เซชิโร อิตะงะกิ และพันโท คันจิ อิชิวะระ ได้คิดวิธีการที่จะรุกรานแมนจูเรีย ต่อมาอิชิวะระได้นำเสนอแผนการของเขาที่กองบัญชาการกองทัพญี่ปุ่นในกรุงโตเกียว และได้รับการอนุมัติ แต่มีข้อแม้คือ ต้องเป็นการกระทำเพื่อตอบโต้ความขัดแย้งที่ฝ่ายจีนเป็นผู้เริ่มก่อน อย่างไรก็ตาม เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสงคราม จิโร มินะมิ ได้ย้ายพันเอก Yoshitsugu Tatekawa ไปยังแมนจูเรียเพื่อควบคุมความประพฤติของกองทัพควันตง เซชิโร อิตะงะกิ และ คันจิ อิชิวะระ รู้ว่าการรอคอยการตอบโต้จากจีน หลังจากความพยายามยุยงหลายครั้งแล้วไม่มีประโยชน์ใด ดังนั้น พวกเขาจึงคิดหาวิธีของตัวเอง

แผนการที่ว่าคือ การก่อวินาศกรรมตามแนวรางรถไฟในเขตของจีนใกล้กับทะเลสาบ Li?ti?o (???  li?ti?oh?) ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว พื้นที่บริเวณนี้ไม่มีชื่อทางการ และไม่ได้มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ต่อทั้งฝ่ายจีนและญี่ปุ่นแต่อย่างใด แต่ว่ามันอยู่ห่างจากค่ายทหาร Beidaying (???  b?id?y?ng) ซึ่งอยู่ใต้การบังคับบัญชาของ "จอมพลหนุ่ม" จาง เซวเหลียง เพียงแปดร้อยเมตรเท่านั้น แผนการของญี่ปุ่นเป็นการกล่าวหาทหารจีนว่าพวกเขาเป็นผู้ก่อวินาศกรรม ซึ่งญี่ปุ่นจะสามารถใช้เป็นข้ออ้างในการรุกรานอย่างเต็มตัว นอกจากนี้ เพื่อทำให้การก่อวินาศกรรมครั้งนี้ดูเหมือนเป็นแผนการที่จีนวางไว้เพื่อโจมตีเป้าหมายสำคัญ (และทำให้การตอบโต้ของญี่ปุ่นเป็นการป้องกันทางรถไฟอันมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของตน) ญี่ปุ่นจึงตั้งชื่อให้กับบริเวณนี้ว่า "Li?ti?o Ditch" (???  li?ti?og?u) หรือ "สะพาน Li?ti?o" (???  li?ti?oqi?o) ทั้ง ๆ ที่พื้นที่นี้เป็นเพียงทางรถไฟเล็ก ๆ ที่อยู่บนพื้นราบเท่านั้น

พันเอก เซชิโร อิตะงะกิ พันโท คันจิ อิชิวะระ พันเอก เคนจิ โดะอิฮะระ และพันตรี ทะกะโยะชิ ทะนะกะ ได้สำเร็จแผนการเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ค.ศ. 1931 โดยหลักของแผนคือ อุบายการสร้างสระว่ายน้ำตรงที่พักของนายทหารญี่ปุ่น แต่ความจริงแล้วมันคือ บังเกอร์คอนกรีตสำหรับปืนใหญ่ขนาด 9.2 นิ้ว ซึ่งจะถูกนำเข้ามาเก็บไว้อย่างลับ ๆ โดยฝ่ายญี่ปุ่นเริ่มดำเนินการเมื่อร้อยโทซุเอะโมะริ โคะโมะโตะ แห่งกองกำลังทหารประจำการอิสระ (?????) แห่งกรมทหารราบที่ 29 ซึ่งรักษาทางรถไฟแมนจูเรียสายใต้ ทำการวางระเบิดในระยะใกล้เคียงกับทางรถไฟ แต่ไกลพอที่จะไม่ก่อให้เกิดความเสียหายจริง ๆ ในเวลาประมาณ 22.20 น. ของวันที่ 18 กันยายน ทหารญี่ปุ่นจุดระเบิด แต่ระเบิดไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายมากนัก ขนาดที่ว่ารถไฟจากเมืองชางชุนยังสามารถวิ่งผ่านจุดนั้นและไปถึงเสิ่นหยางเมื่อเวลา 22.30 น. ได้ตามปกติ

เมื่อตอนเช้าของวันที่ 19 กันยายน ค.ศ. 1931 ปืนใหญ่ได้ถูกติดตั้งไว้ที่ที่พักของนายทหารญี่ปุ่นทำการเปิดฉากระดมยิงใส่ที่ตั้งของทหารจีน เพื่อตอบโต้ทหารจีนตามข้อกล่าวหาในการรุกรานทางรถไฟ กองกำลังทางอากาศเพียงเล็กน้อยของจีนซึ่งนำโดยจาง เซวเหลียงถูกทำลาย ทหารจีนต้องถอนกำลังออกจากค่าย Beidaying ทหารญี่ปุ่นเพียงห้าร้อยนายโจมตีที่ตั้งของทหารจีนจำนวนเจ็ดพันนาย แต่เนื่องจากทหารจีนส่วนมากเป็นทหารใหม่หรือทหารเกณฑ์ จึงไม่อาจต้านทานทหารญี่ปุ่นซึ่งมีประสบการณ์เหนือกว่าได้เลย เมื่อเวลาผ่านไปถึงตอนเย็น ทหารจีนห้าร้อยนายเสียชีวิต ขณะที่ญี่ปุ่นเสียทหารไปเพียงสองนายเท่านั้น ขณะเดียวกันที่เมืองต้าเหลียน ผู้บัญชาการกองทัพควันตง นายพลชิเงะรุ ฮนโจ รู้สึกใจหายที่การรุกรานเกิดขึ้นโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากเขา แต่ว่าเขาถูกโน้มน้าวโดยอิชิวะระและให้อนุญาตในภายหลัง เขาได้ย้ายกองบัญชาการใหญ่กองทัพควันตงไปยังมุกเดน และออกคำสั่งให้นายพลเซ็นจูโร ฮะยะชิ แห่งกองทัพที่ถูกเลือกของญี่ปุ่นในเกาหลีส่งกำลังเสริมมายังพื้นที่ เมื่อถึงเวลา 4.00 น. ของวันที่ 19 กันยายน มุกเดนถูกยึด และเครื่องบินของกองทัพที่ถูกเลือกก็สามารถลงจอดที่มุกเดนได้ จาง เซวเหลียง ซึ่งได้รับคำสั่งจากพรรคก๊กมินตั๋งให้ดำเนินนโยบายไม่ต่อต้าน ได้สั่งห้ามไม่ให้ทหารของเขาต่อสู้และวางอาวุธในกรณีที่ทหารญี่ปุ่นบุกเข้ามา ทหารญี่ปุ่นจึงมุ่งหน้าสู่ชางชุน ตานตองและบริเวณรอบข้างอย่างง่ายดาย และแม้จะมีการต่อต้านจากกองกำลังท้องถิ่นในภายหลัง นครสำคัญในมณฑลเหลียวหนิง มณฑลจี๋หลินและมณฑลเฮย์หลงเจียงก็ถูกกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นยึดได้ในเวลาเพียงห้าเดือนหลังจากกรณีมุกเดนเริ่มต้น

ความเห็นของชาวจีนจำนวนมากได้ติเตียนจาง เซวเหลียงที่ล่าถอยโดยไม่ทำการต่อต้าน แม้ว่ารัฐบาลกลางก๊กมินตั๋งมีส่วนรับผิดชอบในทางอ้อมเพราะนโยบายดังกล่าว หลายคนสงสัยว่ากองทัพจีนตั้ง 250,000 นาย กลับไม่สามารถต้านทานกองทัพควันตงเพียง 11,000 นายได้ นอกจากนั้น กองทัพของเขายังมีอาวุธที่ทันสมัยที่สุดในจีน ทั้งกำลังคนและรถถัง เครื่องบินรบ 60 ลำ ปืนกลกว่า 4,000 กระบอก และกองพันปืนใหญ่อีกจำนวนหนึ่งด้วย

แต่ในความเป็นจริงแล้ว ข้อได้เปรียบดังกล่าวขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ หนึ่งคือ กองทัพญี่ปุ่นสามารถได้รับกำลังเสริมจากเกาหลีทางรถไฟได้ ซึ่งเป็นดินแดนของญี่ปุ่นที่อยู่ประชิดกับแมนจูเรีย สองคือ กองทัพมากกว่าครึ่งหนึ่งของจีนตั้งอย่ทางตอนใต้ของกำแพงเมืองจีน ในมณฑลหูเป่ย ขณะที่กองกำลังทางตอนเหนือวางกำลังอย่างกระจัดกระจายไปทั่วแมนจูเรีย และกองทัพจีนก็ไม่อาจวางกำลังพลได้รวดเร็วพอที่จะหยุดยั้งการบุกของญี่ปุ่นได้ นอกจากนี้ ทหารจีนในพื้นที่ยังเป็นพวกฝึกหัด มีขวัญกำลังใจต่ำ และมีความจงรักภักดีที่คลอนแคลน และที่สำคัญที่สุด คือ สายลับของญี่ปุ่นได้แทรกซึมการบัญชาการของจาง เซวเหลียง เนื่องจากมีประวัติว่าเขามักจะไว้ใจที่ปรึกษาชาวญี่ปุ่น ทำให้ฝ่ายญี่ปุ่นปฏิบัติการได้อย่างง่ายดาย

ทางด้านรัฐบาลจีนต้องประสบกับปัญหาภายในหลายด้าน รวมไปถึงรัฐบาลกว่างโจวที่แยกตัวเป็นเอกราช นำโดยนาย Hu Hanmin แห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน และเหตุการณ์อุทกภัยจากแม่น้ำแยงซี ซึ่งทำให้ประชาชนไม่มีที่อยู่อาศัยหลายหมื่นคน นอกเหนือจากนั้น นายพลจางก็ไม่ได้อยู่ในแมนจูเรียในขณะนั้น แต่ยังอยู่ในโรงพยาบาลในนครปักกิ่ง เพื่อเพิ่มเงินสำหรับช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย อย่างไรก็ตาม เหล่าหนังสือพิมพ์ของจีนต่าง ๆ ก็เยาะเย้ยนายพลจางว่าเป็น "นายพลผู้ให้ศัตรูเข้าบ้าน" (?????)

จากปัญหาต่าง ๆ ที่เข้ามารุมเร้า รัฐบาลกลางจึงตัดสินใจพึ่งองค์การเพื่อสันติภาพนานาชาติ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีนได้กล่าวประท้วงรัฐบาลญี่ปุ่นอย่างรุนแรง และต้องการให้ญี่ปุ่นถอนทหารออกไปจากแมนจูเรียทั้งหมด ได้ร้องอุทธรณ์ต่อสันนิบาตชาติ เมื่อวันที่ 19 กันยายน เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม สันนิบาตชาติได้ผ่านมติให้ญี่ปุ่นถอนทหารออกไปจากดินแดนจีนทั้งหมดภายในวันที่ 16 พฤศจิกายน อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นปฏิเสธที่จะดำเนินการตามมติดังกล่าวและยืนยันที่จะเจรจาโดยตรงต่อรัฐบาลจีนเท่านั้น

การเจรจาระหว่างทั้งสองประเทศมีขึ้นเป็นพัก ๆ แต่ไม่ได้ข้อสรุปแต่อย่างใด เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน รัฐบาลกลางของจีนได้เปิดการประชุมขึ้น แต่รัฐบาลกว่างโจวได้ออกมาเรียกร้องให้เจียงไคเช็คลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบเสียดินแดนแมนจูเรีย เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม เจียงไคเช็คได้ลาออกจากตำแหน่งประธานรัฐบาลชาตินิยมและตำแหน่งอัครเสนาบดีแห่งสาธารณรัฐจีน

เมื่อวันที่ 7 มกราคม 1932 เลขานุการแห่งรัฐของสหรัฐอเมริกา เฮนรี่ สติมสัน ได้ประกาศลัทธิสติมสันออกมา โดยบอกว่าสหรัฐอเมริกาจะไม่ให้การรับรองแก่รัฐใหม่ที่ตั้งขึ้นจากผลของการรุกรานแมนจูเรียดังกล่าว เมื่อวันที่ 14 มกราคม ผู้ตรวจการของสันนิบาตชาติ นำโดย Earl of Lytton ชาวอังกฤษ ได้เดินทางมายังเซี่ยงไฮ้เพื่อตรวจสอบสถานการณ์ ในเดือนมีนาคม ญี่ปุ่นได้จัดตั้งรัฐบาลหุ่นเชิดแมนจูกัวขึ้น โดยยกให้จักรพรรดิผู่อี๋ขึ้นเป็นประมุขแห่งรัฐ เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม รายงานของนาย Lytton ได้รับการตีพิมพ์และปฏิเสธคำแก้ตัวของญี่ปุ่นที่ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นเพื่อการป้องกันตัวเอง รายงานฉบับดังกล่าวยังได้รวบรวมข้อมูลว่าแมนจูกัวเป็นผลมาจากความรุนแรงทางด้านการทหารของญี่ปุ่นในจีน ขณะที่ชี้ให้เห็นว่าญี่ปุ่นนั้นจำเป็นต้องยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่แล้ว เนื่องจากว่าเป็นแหล่งเศรษฐกิจสำคัญของญี่ปุ่น สันนิบาตชาติปฏิเสธที่จะรับรองให้แมนจูกัวเป็นประเทศเอกราช และส่งผลให้ญี่ปุ่นถอนตัวจากการเป็นสมาชิกของสันนิบาตชาติเมื่อเดือนมีนาคม 1933

พันเอก Doihara ได้ใช้กรณีมุกเดนเพื่อเป็นการปกปิดข้อมูล ตั้งแต่พบว่ากองทัพจีนได้ต้านทานเพียงเล็กน้อยที่เมืองมุกเดน เขาจึงทูลแก่จักรพรรดิผู่อี๋ว่า ประเทศจีนยังคงจงรักภักดีต่อพระองค์อยู่ นอกจากนั้น หน่วยข่าวกรองของญี่ปุ่นยังได้ใส่ร้ายป้ายสีจาง เจาหลินและบุตรชาย จาง เซวเหลียงในฐานะที่แยกแมนจูเรียออกไป และในความเป็นจริงแล้ว แมนจูเรียภายใต้การปกครองของจาง เซวเหลียงก็มีการแพร่ระบาดของยาเสพติดและการคอร์รัปชั่นอย่างหนัก

จนถึงปัจจุบันก็ยังคงมีการโต้เถียงกันถึงผู้ที่ก่อวินาศกรรมรางรถถไฟสายแมนจูเรียดังกล่าว มีหลักฐานยืนยันอย่างหนักแน่นว่าเป็นฝีมือของนายทหารหนุ่มแห่งกองทัพควันตงซึ่งได้มีการสมรู้ร่วมคิดกัน แม้ว่าจะได้รับหรือไม่ได้รับคำสั่งจากโตเกียวก็ตาม ขณะที่ทหารบางนายของกองทัพญี่ปุ่นปฏิเสธที่จะเป็นผู้วางระเบิด พันตรี Tadashi Hanaya ผู้ซึ่งเป็นผู้ช่วยของ Itagaki Seishiro ในขณะนั้นได้สารภาพและยอมรับว่าเป็นผู้วางระเบิดจริง และเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นการจัดฉากของฝ่ายญี่ปุ่น ในช่วงหลังสงครามได้มีการสืบสวนในเรื่องดังกล่าวได้พบว่าระเบิดดั้งเดิมของฝ่ายญี่ปุ่นนั้นไม่ทำงานและจำเป็นต้องวางระเบิดอีกลูกหนึ่ง ซึ่งทำให้เกิดผลที่ตามมา คือ กองทัพควันตงได้ประสบความสำเร็จในการวางระเบิด และรุกรานแมนจูเรีย รวมไปถึงการก่อตั้งแมนจูกัวขึ้นเป็นรัฐบาลหุ่นเชิด

"พิพิธภัณฑ์นิทรรศการเหตุการณ์ 9.18" ที่เมืองเสิ่นหยาง โดยเป็นของสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้บอกว่าฝ่ายญี่ปุ่นเป็นฝ่ายวางระเบิด แต่ว่าที่พิพิธภัณฑ์ Yushukan ของญี่ปุ่น ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับ Yasukuni Shrine ในกรุงโตเกียวได้โทษว่าฝ่ายจีนเป็นฝ่ายวางระเบิด

หนังสือเรื่อง Japan's Imperial Conspiracy (1971) ของนายเดวิด เบอร์กามินิได้บรรยายถึงรายละเอียดของทั้งฝ่ายจีนและฝ่ายญี่ปุ่นตลอดช่วงเวลาของกรณีมุกเดน เขาได้สรุปว่าการเข้าใจผิดครั้งใหญ่หลวงว่ากรณีมุกเดนเกิดขึ้นจากแผนการของนายทหารหนุ่มอารมณ์ร้อนแห่งกองทัพญี่ปุ่น โดยไม่ได้รับคำสั่งมาจากกรุงโตเกียว เขาได้บอกว่า จักรพรรดิฮิโรฮิโตเองที่ทรงอนุมัติแผนการดังกล่าวด้วยพระองค์เอง อย่างไรก็ตาม นักประวัติศาสตร์ เจมส์ เวลแลนด์ได้สรุปว่านายทหารอาวุโสได้ปล่อยให้มีการปฏิบัติการภาคสนามได้ด้วยกองกำลังของตนเอง และอนุมัติแผนการดังกล่าวในภายหลัง

ในเดือนสิงหาคม 2006 หนังสือพิมพ์ชื่อดังของญี่ปุ่น Yomiuri Shimbun ได้ตีพืมพ์ผลงานวิจัยเป็นเวลาหนึ่งปี โดยตั้งคคำถามว่าผู้ใดเป็นผู้รับผิดชอบต่อสงครามโชวะ โดยมีการพาดพึงถึงกรณีมุกเดนอยู่ด้วย ซึ่งเนื้อหาได้กล่าวโจมตีนายทหารของญี่ปุ่นและนักการเมืองในขณะนั้นที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง

เหยื่อจำนวนมากและลูกหลานได้ผลักดันให้รัฐบาลจีนประกาศให้วันที่ 18 กันยายนของทุกปีเป็น "วันเลวทรามแห่งชาติ" (อังกฤษ: National Humiliation Day) รัฐบาลจีนยังได้เปิด "พิพิธภัณฑ์นิทรรศการเหตุการณ์ 9.18" เมื่อวันที่ 18 กันยายน 1991 โดยบุคคลสำคัญที่ได้มาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ คือ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น Ryutaro Hashimoto ในปี 1997

การโต้แย้งกันยังรวมไปถึงประเด็นการจัดการปัญหาดังกล่าวของสันนิบาตชาติ และรายงานของ Lytton ในภายหลัง นาย เอ.เจ.พี. เทย์เลอร์ ได้เขียนว่า "ในการเผชิญหน้ากับความท้าทายอันตึงเครียดครั้งแรก" สันนิบาตก็โค้งงอและยอมจำนน ถึงแม้ว่าสหราชอาณาจักรจะมีอำนาจอยู่ในภาคพื้นตะวันออกไกลอยู่ก็ตาม แต่ว่าไม่สามารถลงมือตอบโต้อะไรได้มาก เพียงแต่มีการ "ลงโทษตามศีลธรรมจรรยาเท่านั้น"


 

 

รับจำนำรถยนต์ รับจำนำรถจอด

เบอร์ลินตะวันออก ประเทศเยอรมนีตะวันออก ปฏิทินฮิบรู เจ้า โย่วถิง ดาบมังกรหยก สตรอเบอร์รี ไทยพาณิชย์ เคน ธีรเดช อุรัสยา เสปอร์บันด์ พรุ่งนี้ฉันจะรักคุณ ตะวันทอแสง รัก 7 ปี ดี 7 หน มอร์ มิวสิค วงทู อนึ่ง คิดถึงพอสังเขป รุ่น 2 เธอกับฉัน เป๊ปซี่ น้ำอัดลม แยม ผ้าอ้อม ชัชชัย สุขขาวดี ประชากรศาสตร์สิงคโปร์ โนโลโก้ นายแบบ จารุจินต์ นภีตะภัฏ ยัน ฟัน เดอร์ไฮเดิน พระเจ้าอาฟงซูที่ 6 แห่งโปรตุเกส บังทันบอยส์ เฟย์ ฟาง แก้ว ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ เอ็มมี รอสซัม หยาง มี่ ศรัณยู วินัยพานิช เจนนิเฟอร์ ฮัดสัน เค็นอิชิ ซุซุมุระ พอล วอล์กเกอร์ แอนดรูว์ บิ๊กส์ ฮันส์ ซิมเมอร์ แบร์รี ไวต์ สตาญิสวัฟ แลม เดสมอนด์ เลเวลีน หลุยส์ที่ 4 แกรนด์ดยุคแห่งเฮสส์และไรน์ กีโยม เลอ ฌ็องตี ลอเรนโซที่ 2 เดอ เมดิชิ มาตราริกเตอร์ วงจรรวม แจ็ก คิลบี ซิมโฟนีหมายเลข 8 (มาห์เลอร์) เรอัลเบติส เฮนรี ฮัดสัน แคว้นอารากอง ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน กันต์ กันตถาวร เอก ฮิมสกุล ปัญญา นิรันดร์กุล แฟนพันธุ์แท้ 2014 แฟนพันธุ์แท้ 2013 แฟนพันธุ์แท้ 2012 แฟนพันธุ์แท้ 2008 แฟนพันธุ์แท้ 2007 แฟนพันธุ์แท้ 2006 แฟนพันธุ์แท้ 2005 แฟนพันธุ์แท้ 2004 แฟนพันธุ์แท้ 2003 แฟนพันธุ์แท้ 2002 แฟนพันธุ์แท้ 2001 แฟนพันธุ์แท้ 2000 บัวชมพู ฟอร์ด ซาซ่า เดอะแบนด์ไทยแลนด์ แฟนพันธุ์แท้ปี 2015 แฟนพันธุ์แท้ปี 2014 แฟนพันธุ์แท้ปี 2013 แฟนพันธุ์แท้ปี 2012 ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ พรสวรรค์ บันดาลชีวิต บุปผาราตรี เฟส 2 โมเดิร์นไนน์ ทีวี บุปผาราตรี ไฟว์ไลฟ์ แฟนพันธุ์แท้ รางวัลนาฏราช นักจัดรายการวิทยุ สมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 7 แบร์นาร์แห่งแกลร์โว กาอึน จิรายุทธ ผโลประการ อัลบาโร เนเกรโด ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ เอมี่ อดัมส์ ทรงยศ สุขมากอนันต์ ดอน คิง สมเด็จพระวันรัต (จ่าย ปุณฺณทตฺโต) สาธารณรัฐเอสโตเนีย สาธารณรัฐอาหรับซีเรีย เน็ตไอดอล เอะโระเก คอสเพลย์ เอวีไอดอล ช็อคโกบอล มุกะอิ

 

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45
46
47
48
49
50
51
52
53
54
55
56
57
58
59
60
61
62
63
64
65
66
67
68
69
70
71
72
73
74
75
76
77
78
79
80
81
82
83
84
85
86
87
88
89
90
91
92
93
94
95
96
97
98
99
100
101
102
103
104
105
106
107
108
109
110
111
112
113
114
115
116
117
118
119
120
121
122
123
124
125
126
127
128
129
130
131
132
133
134
135
136
137
138
139
140
141
142
143
144
145
146
147
148
149
150
151
152
153
154
155
156
157
158
159
160
161
162
163
164
165
166
167
168
169
170
171
172
173
174
175
176
177
178
179
180
181
182
183
184
185
186
187
188
189
190
191
192
193
194
195
196
197
198
199
200
201
202
203
204
205
206
207
208
209
210
211
212
213
214
215
216
217
218
219
220
221
222
223
224
225
226
227
228
229
230
231
232
233
จำนำรถราชบุรี รถยนต์ เงินด่วน รับจำนำรถยนต์ จำนำรถยนต์ จำนำรถ 23301