กบฏเสนาธิการ หรือ กบฏนายพล หรือ กบฏ 1 ตุลาคม เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2491 เมื่อนายทหารระดับเสนาธิการของกองทัพ เช่น พลตรีสมบูรณ์ ศรานุชิต และ พล.ต.เนตร เขมะโยธิน เป็นหัวหน้าคณะนายทหารกลุ่มหนึ่ง วางแผนที่จะเข้ายึดอำนาจการปกครอง และปรับปรุงกองทัพจากความเสื่อมโทรม และได้ให้ทหารเล่นการเมืองต่อไป แต่รัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ทราบแผนการล่วงหน้าและทำการจับกุมผู้คิดก่อการได้
การกบฏครั้งนี้ เกิดหลังรัฐประหาร พ.ศ. 2490 ที่จอมพล ป. พิบูลสงครามเป็นหัวหน้าคณะรัฐประหาร ยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือตรีถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ประมาณหนึ่งปี และหลังจากกบฏเสนาธิการไม่ถึงหนึ่งปี ก็เกิดกบฏซ้ำอีกครั้ง คือ กบฏวังหลวง เมื่อ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2492 และหลังจากนั้นอีกครั้ง คือ กบฏแมนฮัตตัน เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2494. ความพยายามยึดอำนาจจากจอมพล ป. พิบูลสงคราม ประสบผลสำเร็จในที่สุด ในวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2500 เมื่อจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้เป็นหัวหน้าคณะรัฐประหารทำการโค่นล้มรัฐบาลของจอมพล ป. พิบูลสงคราม
การก่อการกบฏจะเริ่มขึ้นในเวลา 20.00 น. ซึ่งในขณะนั้นมีงานเลี้ยงสมรสระหว่าง พันเอกสฤษดิ์ ธนะรัชต์ (ยศในขณะนั้น) กับ นางสาววิจิตรา ชลทรัพย์ ที่ทำเนียบรัฐบาล แต่ทว่าฝ่ายรัฐบาลได้ทราบก่อน จึงส่งกองกำลังทหารที่นำโดย พ.อ.สฤษดิ์ และกองกำลังตำรวจที่นำโดย พลตำรวจตรีเผ่า ศรียานนท์ ล้อมกระทรวงกลาโหมไว้ ซึ่งเป็นสถานที่ก่อการและวางแผนของฝ่ายกบฏ ทางฝ่ายกบฏได้ยิงปืนออกมาสู้ แต่ตกอยู่ในฝ่ายเสียเปรียบ จึงยอมจำนน และเจรจากันโดยยอมมอบตัว ซึ่งต่อมามีการจับกุมและส่งฟ้องร้องต่อศาลหลายคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบุคคลที่เคยร่วมรัฐบาลที่มีนายปรีดี พนมยงค์ และ พล.ร.ต.ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี นอกเหนือจาก 2 นายทหารที่ได้กล่าวถึงข้างต้นแล้ว ยังมีนักการเมืองพลเรือน อาทิ นายดิเรก ชัยนาม, นายทวี บุณยเกตุ, นายจำลอง ดาวเรือง, นายทองอินทร์ ภูริพัฒน์, ดร.ทองเปลว ชลภูมิ เป็นต้น
ต่อมาทางฝ่าย พล.ต.เนตร เขมะโยธิน หนึ่งในคณะกบฏได้มาทำงานร่วมคณะของ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เมื่อดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยเป็นเลขาธิการทำเนียบนายกรัฐมนตรี และเป็นคนสนิทบุคคลหนึ่งของจอมพลสฤษดิ์ด้วย