Dynasty Warriors (ญี่ปุ่น: ?????? Shin Sangokumus? lit. "True - Unrivaled Three Kingdoms" ?) เป็นวิดีโอเกมแนวแอ็กชันที่สร้างและพัฒนาโดย Koei เนื้อเรื่องและตัวละครส่วนใหญ่ใน Dynasty Warriors มีต้นแบบมาจากวรรณกรรมจีนอิงประวัติศาสตร์เรื่อง สามก๊ก โดยก่อนหน้าที่จะสร้างเกมชุด Dynasty Warriors ขึ้นมานั้น Koei เคยสร้างเกมชุดอื่นที่มีต้นแบบมาจากสามก๊กที่ใช้ชื่อว่า Romance of the Three Kingdoms มาก่อน โดยเป็นเกมวางแผนการรบประเภททีละรอบ (Turn Based Strategy) ในภาคแรกของ Dynasty Warriors นั้นทางประเทศญี่ปุ่นให้ชื่อว่า Sangokumus? ซึ่งในภาคแรกนี้ภาพของเกมจะออกมาในรูปแบบ 2D (คล้ายเกมเทคเคน) และเป็นเกมแนวต่อสู้ แต่ในภาคต่อๆมานั้น Dynasty Warriors ได้เปลี่ยนให้ภาพออกมาในรูปแบบ 3D (คล้ายเกม GTA) รวมถึงเปลี่ยนออกมาเป็นเกมแนวแอ็กชันอาร์พีจี และยังได้เปลี่ยนชื่อเป็น Shin Sangokumus? ตั้งแต่ภาค 2 เป็นต้นมาด้วย
เกมชุด ไดนาสตีวอริเออร์ ถือเป็นเกมที่ประสบความสำเร็จเกมนึงของ Koei โดยหากนับรวมเกมชุดทั้งภาคต่อและภาคย่อย ถึงปี 2554 มียอดขายไปแล้วมากกว่า 18 ล้านยูนิต
ตัวละครทั้งหมดที่สามารถเล่นได้ใน Dynasty Warriors มีทั้งหมด 52 ตัว แต่ต้องเหลือเพียง 48 ตัว เนื่องจาก 4 ตัว ที่ถูกถอดออกจากเกมเป็นตัวละครที่ไม่เกี่ยวข้องกับสามก๊ก
ต่อมาใน Dynasty Warriors 6 ตัวละครแต่ละตัวมีการเปลี่ยนแปลงไปมากทั้งอาวุธและชุด รวมทั้งภาคนี้ได้มีการถอดตัวละครออกจากเกมด้วยถึง 7 ตัว ได้แก่ บังเต็ก (Pang De) ไต้เกี้ยว (Da Qiao) เกียงอุย (Jiang Wei) เตียวซี (Xing Cai) เบ้งเฮ็ก (Meng Huo) จกหยง (Zhu Rong) โจจู๋ (Zuo Ci) แต่ปัจจุบัน Dynasty Warriors 7 ได้นำตัวละครเหล่านี้กลับมาร่วมก๊กของตนเช่นเดิม เว้นก็แต่โจจู๋เท่านั้นที่ไม่ได้เข้าร่วมเป็นตัวละครหลักในภาคนี้ด้วย และนอกจากนี้ในภาคนี้ ทาง Koei ได้เพิ่มก๊กใหม่อีก 1 ก๊ก คือ จิ้นก๊ก (เป็นวุยก๊กที่นำโดยสุมาอี้นั่นเอง) ทำให้เกือบทั้งหมดของก๊กนี้เป็นตัวละครใหม่ทั้งสิ้น ยกเว้นสุมาอี้ (Sima Yi) ส่วนอีก 3 ก๊ก ก็ได้เพิ่มตัวละครใหม่ที่ไม่มีให้เล่นในภาคไหนเช่นกัน
ด่านทั้งหมดใน Dynasty Warriors มีต้นแบบมาจากประวัติศาสตร์จริงยุคสามก๊กหรือในวรรณกรรมสามก๊กทั้งสิ้น โดยรายชื่อด่านตั้งแต่ Dynasty Warriors 2 ถึง Dynasty Warriors 6 มีดังนี้
หลังจากความสำเร็จของ Dynasty Warriors ในปี ค.ศ. 2002 Koei ได้ผลิตเกมใหม่ในชื่อว่า Dynasty Tactics ซึ่งเป็นเกมแนววางแผนการรบแบบในยุคสามก๊ก ต่อมา Koei ผลิตเกมที่สามที่ชื่อว่า Samurai Warriors (Sengoku Musou ในญี่ปุ่น) ในปี ค.ศ. 2004 ซึ่งเป็นเกมคล้าย Dynasty Warriors แตกต่างกันเพียงฉากและตัวละคร และประสบความสำเร็จอย่างสูงเช่นกัน ในปี ค.ศ. 2006 Koei ได้ผลิตเกมใหม่อีกครั้งโดยชื่อว่า Dynasty Warriors Mahjong (Jan Sangoku Musou ในญี่ปุ่น) ในปี ค.ศ. 2007 Koei ผลิตเกมในเครื่อง Xbox 360 และ PlayStation 3 เป็นครั้งแรกคือเกม Dynasty Warriors: Gundam (Gundam Musou ในญี่ปุ่น) ซึ่งเป็นเกมที่ต้องอาศัยทั้งความนิยมของกันดั้มและ Dynasty Warriors และในปีเดียวกัน Koei ก็ได้ผลิตเกม Warriors Orochi (Musou Orochi ในญี่ปุ่น) ซึ่งรวมเอาตัวละครของ Dynasty Warriors และ Samurai Warriors เข้าไว้ด้วยกัน และออกจำหน่าย Warriors Orochi 2 ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2008 ที่ญี่ปุ่น และกันยายน ค.ศ. 2008 ที่อเมริกาเหนือ ต่อมา Koei ผลิตเกม Bladestorm: The Hundred Years' War ขึ้น ซึ่งเป็นเกมที่จำลองสงครามร้อยปีที่เป็นสงครามระหว่างอังกฤษและฝรั่งเศสในคริสศตวรรษที่ 14 และ 15 ซึ่งเกมนี้ก็เป็นเกมส์ที่ผลิตในปี ค.ศ. 2007 เช่นกัน
ในปี ค.ศ. 2002 "Xtreme Legends" (Moushouden ในญี่ปุ่น) ได้ผลิตออกจำหน่ายเป็นครั้งแรกโดยเป็นภาคเสริมของ Dynasty Warriors 3 นับตั้งแต่นั้น Xtreme Legends ก็ได้ออกจำหน่ายเป็นภาคเสริมในทุกๆภาคของ Dynasty Warriors ใน PlayStation 2 โดย Xtreme Legends จะต่างจากภาคหลักตรงที่มีการเพิ่มโหมดการเล่นและอาวุธ ในปี ค.ศ. 2004 Dynasty Warriors 4 ได้มีภาคเสริมที่ชื่อว่า "Empires" ซึ่งมีการเพิ่มลูกเล่นต่างๆมากขึ้น เช่น การวางแผน เพื่อให้มีความสมจริงและเหมือนกับสามก๊กมากขึ้น ต่อมา Samurai Warriors ได้มี Xtreme Legends และ Empires เช่นกัน ซึ่งมี Xtreme Legends ครั้งแรกในปี ค.ศ. 2004 และมี Empires เป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 2007 ใน Samurai Warriors 2